ลุ้นรักนางสาวซินเดอเรลล่า นิยาย บท 8

ตอนที่ 8 แหวนคุณอยู่ไหน

แหวนเกลี้ยงๆ ดูธรรมดาๆ วงหนึ่งสวมอยู่ที่นิ้วนางของเขานั่นไง นั่นคือแหวนที่เธอซื้อมาเมื่อวาน ตะลึงกับสิ่งที่เห็นไปชั่วขณะ จนเธอลืมนั่งลงที่โต๊ะ สุดท้ายฟินนิคจึงเงยหน้าขึ้นมองเธอ "มีอะไรหรือเปล่า?" ดวงตาของเขามองมาที่นิ้วอันเปลือยเปล่าของเธอ ก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงตั้งคำถาม "แหวนคุณอยู่ไหน?" วิเวียนรู้สึกอับอายขายหน้า เธอรู้สึกว่าแหวนที่ตนซื้อมาไม่สมฐานะของเขา เธอจึงพลอยไม่ได้สวมของตัวเองไปด้วย แต่สิ่งที่ฉันคิดไม่ถึงคือเขาหาแหวนเจอแล้วสวมมันจริงๆ เพราะไม่มีทางเลือก วิเวียนจึงล้วงหยิบแหวนของเธอออกมาจากกระเป๋า แล้วสวมใส่นิ้วตัวเอง เธอพึมพำออกมาเบาๆ "ขอโทษนะคะ ที่ฉันเลือกมาแบบสุ่มๆ" ฟินนิคยิ้มที่มุมปาก "ไม่เป็นไร ก็ดูสวยดีนี่" ไม่แน่ใจว่าควรพูดอะไรต่อ หญิงสาวจึงนั่งลงแล้วตั้งหน้าตั้งหน้ากินอาหารเช้า หลังจากพวกเขาทานเสร็จเรียบร้อย ฟินนิควางหนังสือพิมพ์ลงข้างตัวแล้วบอกว่า "ผมจะไปส่งคุณที่ทำงาน" "ไม่ต้องหรอกค่ะ" วิเวียนตอบทันควัน "ฉันเรียกแท็กซี่หรือนั่งรถไฟใต้ดินไปก็ได้" ไม่นะ ถ้ามีใครที่บริษัทนิตยสารจำคุณได้ พวกสาวๆ ต้องฉีกฉันเป็นชิ้นๆ แน่ "แถวนี้ไม่มีสถานีรถไฟใต้ดินสักหน่อย แล้วคุณก็หาแท็กซี่ไม่ได้เหมือนกัน" เขาขมวดคิ้วน้อยๆ นั่นก็จริง ระหว่างทางมาที่นี่เมื่อวาน วิเวียนสังเกตเห็นว่าที่นี่เป็นย่านของคนรวยล้นฟ้า ทุกคนที่อาศัยอยู่ที่นี่มีรถของตัวเองทั้งนั้น จึงเป็นธรรมดาที่จะไม่มีแท็กซี่หรือสถานีรถไฟใต้ดินอยู่แถวนี้เลย เมื่อเธอดูเวลาก็พบว่าเริ่มจะสายไปหน่อยแล้ว เธอจึงบอกอย่างจนใจว่า "ถ้างั้นฉันคงต้องรบกวนคุณแล้ว ขอติดรถไปลงที่สถานีรถไฟใต้ดินระหว่างทางไปบริษัทของคุณได้ไหมคะ?" เขามองเธอนิ่งด้วยสายตาว่างเปล่าอยู่พักใหญ่ ทำให้หญิงสาวตื่นกลัวอยู่ในใจ สุดท้ายเขาจึงพยักหน้าให้เธอ เมื่อพวกเขาออกจากคฤหาสน์ เบนท์ลีย์คันสีดำก็จอดรออยู่ก่อนแล้ว ชายหนุ่มคนหนึ่งยืนรออยู่ข้างรถ เขาแนะนำตัวว่าชื่อโนอาห์ ลอตเต เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของฟินนิค โนอาห์เปิดประตูรถทว่าไม่ได้มีท่าทีว่าจะช่วยฟินนิค ขณะที่วิเวียนกำลังสงสัยว่าเขาจะขึ้นรถได้อย่างไร ทางลาดก็เลื่อนลงมาจากตัวรถ ไม่นานรถวีลแชร์ของเขาก็เคลื่อนขึ้นไปอย่างนุ่มนวล เธอขึ้นรถ ก็พบว่าภายในรถมีการดัดแปลงสภาพด้วยเช่นกัน มีพื้นที่สำหรับรถวีลแชร์ของฟินนิคโดยเฉพาะ พอนั่งลงบนเบาะ รถก็เริ่มเคลื่อนตัวและพาพวกเขาออกไปยังสถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุด รถหยุดก่อนถึงสถานีรถไฟใต้ดิน ฟินนิคมองผ่านหน้าต่างเห็นสถานที่ที่คนหนาแน่นพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย "มันไม่ค่อยสะดวกเลยนะที่คุณจะไปทำงานแบบนี้ ถ้าไม่อยากให้ผมไปส่ง ผมซื้อรถให้คุณสักคันก็ได้" เธอประหลาดใจกับคำพูดของเขา จึงปฏิเสธทันที "เรื่องนั้นไม่จำเป็นจริงๆ ค่ะ" แน่ล่ะ เธอรู้ว่าการซื้อรถสักคันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาหรอก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่สบายใจที่จะใช้เงินเขาอยู่ดี การปฏิเสธข้อเสนอของเขาทันทีของเธอ ดวงตาของฟินนิคดูจะดำคล้ำยิ่งขึ้น เขาขึ้นเสียงว่า "ผมไม่ได้อยู่บ้านตลอด แล้วคุณจะไปทำงานยังไง" นั่นคือสิ่งที่เธอคิดเอาไว้อยู่แล้วตั้งแต่ขึ้นรถมา เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาและโบกให้เขาดู ก่อนจะตอบว่า "เดี๋ยวนี้การเรียกแท็กซี่ง่ายแล้วก็สะดวกจริงๆ ค่ะ ฉันแค่ต้องตื่นเช้าขึ้นอีกหน่อยเพื่อจองรถ เอิ่ม...ฉันจะสายแล้วค่ะ ไปก่อนนะคะ บาย" เธอเดินลิ่วลงจากรถไปโดยไม่ฟังคำตอบจากเขา จากจุดที่เขานั่งอยู่ในรถ ฟินนิคมองตามหลังที่ไกลห่างออกไปด้วยสายตาที่ยากจะอ่านออก โนอาห์เห็นว่าความสนใจของเจ้านายตนมุ่งไปที่ใดและเขาก็อดที่จะออกความเห็นไม่ได้ว่า "คุณนอร์ตันครับ ไม่ทราบผมจะคิดไปเองหรือเปล่า ว่าคุณนายนอร์ตันค่อนข้างจะแตกต่างจากที่เราสืบมาได้?" ฟินนิคพึมพำด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด "เธอช่างแตกต่างไปจริงๆ" เขาคาดไม่ถึงเลยว่าเธอจะปฏิเสธข้อเสนอของเขาที่จะซื้อรถให้อย่างฉับไวและไม่ลังเลแบบนี้ จากที่โนอาห์ค้นพบเกี่ยวกับเรื่องในอดีตของเธอ เธอเป็นผู้หญิงไม่ค่อยฉลาดที่ทำทุกอย่างได้เพียงเพื่อเงินน้อยนิด และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเลือกเธอ ผู้หญิงที่พึงพอใจกับเงินจำนวนน้อยนิดเป็นพวกที่ควบคุมได้ง่ายและปลอดภัยมากกว่าเมื่อเทียบกับลูกสาววัยใสจากตระกูลผู้ทรงอิทธิพล เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งที่พวกเขาคิดอยู่อย่างเดียวก็คือ หวังจะฮุบทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขา มีอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาตัดสินใจเลือก เขายอมรับว่าเธอไม่กวนใจเขามากเหมือนหญิงสาวคนอื่นๆ แต่เธอกลับทำตัวเหนือความคาดหมายของเขา เหมือนว่าเธอจะไม่ได้สนใจความร่ำรวยของเขาเลยหรือไม่แน่ว่าเธออาจจะฉลาดกว่าที่เขาคิดและทำเป็นเล่นตัวไปอย่างนั้นเอง หรือเธออาจจะมีแผนระยะยาวอย่างอื่นอีก ดวงตาของเขาดูมืดมน ก่อนจะถอนสายตาจากทิศทางที่เธอจากไปในที่สุด "ออกรถ" ... ณ เขตการเงินของเมืองซันไชน์ ชั้นบนสุดของฟินเนอร์กรุ๊ป ฟินนิคนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขา นิ้วมือจิ้มรัวอยู่บนแป้นพิมพ์ รูปภาพและข้อมูลบนหน้าจอจึงเปลี่ยนไปตามการรัวนิ้วของเขา กริ๊ง กริ๊ง ทันใดนั้น โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น ชายหนุ่มยื่นมือออกไปกดรับสาย เสียงของโนอาห์ดังลอดออกมาจากปลายสาย "คุณนอร์ตัน คุณลอว์สันมาครับ" "ให้เขาเข้ามา" ไม่กี่อึดใจ ประตูห้องทำงานของเขาก็เหวี่ยงเปิด แล้วชายคนหนึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสำหรับทำงานสีชมพูหรูหราก็เดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงเข้ามา "ฟินนิค ทำไมนายยังมัวทำงานอยู่อีก" ชายคนนั้นคร่ำครวญด้วยท่าทีเว่อวัง "ในที่สุดนายก็แต่งงานกับใครสักคนเสียที ถึงนายจะไม่ยอมจัดงานแต่ง แต่อย่างน้อยสิ่งที่นายควรทำก็คือการไปฮันนีมูนหรืออะไรก็ได้นี่นา" ฟินนิคตอบกลับสั้นๆ โดยที่สายตาไม่ละไปจากหน้าจอเลย "ฉันไม่มีเวลาทำอะไรแบบนั้นหรอก" ชายอีกคนนั่งลงตรงหน้าโต๊ะทำงานของเขา ไม่ได้โกรธให้กับท่าทีเย็นชาของฟินนิคแม้แต่น้อย เขายิ้มตาหยีพร้อมเอ่ยอย่างร่าเริง "น่าสงสารเมียนายจัง เธอมาแต่งงานกับผู้ชายน่าเบื่อแบบนายได้ยังไงเนี่ย" ในที่สุด ฟินนิคก็เงยหน้าพร้อมจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาอันว่างเปล่า "สไตลส์ นายอยากจะบอกอะไรกันแน่" "ฉันก็แค่เบื่อๆ เลยอยากเจอเมียนาย" สไตลส์ฉีกยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม "ลืมไปได้เลย" ฟินนิคบอกปัดโดยไม่ลังเล "นายก็รู้ว่าฉันแต่งงานกับเธอเพราะอะไร" "ใช่ ฉันรู้" สไตลส์หน้ามุ่ยก่อนจะเลิกพูดเล่น เขาพูดต่ออย่างจริงจังว่า "ไม่ว่าจะยังไง ตอนนี้นายก็มีครอบครัวแล้ว ถึงเวลาที่นายต้องปล่อยวางสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตได้แล้ว" ประโยคสุดท้ายของเขาทำให้นิ้วมือของฟินนิคเกร็งแบบแทบไม่ทันสังเกต เขาเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยว่า "เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการปล่อยวางอะไรทั้งนั้น คนตายฟื้นกลับมาไม่ได้หรอกนะ" สไตลส์อ้าปากเหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่คำพูดของเขาติดอยู่ในลำคอ เปล่งออกจากปากไม่ได้ สุดท้ายเขาจึงได้แต่กล้ำกลืนมันกลับเข้าไป ผ่านไปชั่วครู่ เขาก็เอ่ยถามว่า "แล้วเด็กผู้หญิงเมื่อหลายปีก่อนคนนั้นล่ะ นายเจออะไรบ้างหรือยัง"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลุ้นรักนางสาวซินเดอเรลล่า