ซ่างกวนหยวนกระตุกมุมปากยิ้มเยาะตัวเอง
ทั้งที่รู้ว่านอกจากเจียงสื้อสื้อแล้วจิ้นเฟิงเฉินก็ไม่สนหญิงอื่นอีก แต่ตนยังดันทุรังหาเรื่องให้ตัวเองอับอาย
เก็บรวบรวมความผิดหวังในระยะเวลาอันสั้น ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าไปในอาคารฟางซื่อ
ฟางยู่เชินได้รับโทรศัพท์จากผู้ช่วย บอกว่าซ่างกวนหยวนมา จึงลุกขึ้นยืนทันทีและรีบร้อนออกจากออฟฟิศไป
“ท่านประธานมีเรื่องอะไรจะสั่งเหรอครับ” ส้งหยาวเห็นเขาออกมา จึงรีบลุกขึ้นสอบถาม
“ช่วยเตรียมลาเต้ให้ผมสองแก้ว ทั้งหมดไม่ต้องใส่น้ำตาล”
ฟางยู่เชินบอกไปพลางเดินไปที่ลิฟต์
เมื่อเห็นดังนั้นส้งหยาวก็ตระหนักได้ว่าฟางยู่เชินกำลังทำอะไร อดไม่ได้ที่จะแอบยิ้ม ดูเหมือนว่าท่านประธานจะตื่นเต้นมากจริงๆ
“ติ๊ง------!”
ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก ซ่างกวนหยวนเห็นฟางยู่เชินอยู่ข้างนอกก็พลันชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ
“ทำไมคุณมาอยู่ตรงนี้คะ” เธอถามขณะที่เดินออกไป
“คุณเป็นแขกผู้มีเกียรติ ผมต้องมาต้อนรับด้วยตัวเอง”
ฟางยู่เชินมองเธอด้วยรอยยิ้มบางอ่อนโยน กึ่งจริงจังกึ่งล้อเล่น
ซ่างกวนหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอไม่ได้เกลียดเขา แต่ไม่ชอบเขาที่เป็นแบบนี้ มันทำให้เธอรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
ฟางยู่เชินที่เฉลียวฉลาดสัมผัสได้ทันทีว่าเธอรู้สึกไม่ดี จึงรีบอธิบายว่า “คุณอย่าคิดมาก ผมแค่อยากออกมาต้อนรับเฉยๆ เท่านั้นไม่มีอะไรครับ ใครให้คุณเป็นเพื่อนของผมล่ะ”
เขาไม่ต้องการทำให้เธอตีตัวออกห่างเพราะการกระทำหนึ่งของเขา
ทันทีที่เขาพูดอย่างนั้น ซ่างกวนหยวนก็เพิ่งรู้ตัวว่าดูเหมือนตัวเธอจะระมัดระวังตัวมากเกินไป จึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันไม่ได้คิดมากค่ะ”
“งั้นก็ดีครับ” ฟางยู่เชินผ่อนลมหายใจโล่งอก “เราไปคุยกันที่ออฟฟิศเถอะ”
ส้งหยาวนำกาแฟที่เตรียมเรียบร้อยไปให้ในออฟฟิศแล้ว
“ลาเต้ไม่ใส่น้ำตาลที่คุณชอบครับ” ฟางยู่เชินหยิบแก้วหนึ่งยื่นส่งให้ซ่างกวนหยวน
ซ่างกวนหยวนรับมาจิบเบาๆ ก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นมองเขา “ไม่เลวเลยค่ะ ฉันชอบ”
ฟางยู่เชินยิ้ม “คุณชอบก็ดีแล้วครับ”
จากนั้นซ่างกวนหยวนก็เอาเอกสารที่นำมาด้วยยื่นให้เขา “นี่เป็นแผนการดำเนินงานของบริษัทค่ะ อย่างช้าที่สุดจะเริ่มโปรโมตในสัปดาห์หน้า คุณลองดูสิคะว่ามีปัญหาตรงไหนไหม”
ฟางยู่เชินรับมาวางไว้ข้างๆ “ผมเชื่อในตัวคุณครับ”
ซ่างกวนหยวนขมวดคิ้ว “เพราะงั้นคุณเลยไม่ดูเหรอคะ”
“ไม่ดูครับ”
ฟางยู่เชินแค่อยากแสดงให้เห็นว่าตัวเองเชื่อใจเธอ แต่ไม่ได้คาดไว้ว่าที่ตัวเขาทำแบบนี้กลับเป็นการไปทำให้เธอไม่ชอบใจ
ซ่างกวนหยวนเม้มริมฝีปากแน่น ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะถามว่า “คุณไม่คิดเหรอว่าการทำแบบนี้มันขาดความรับผิดชอบ”
“หืม?” ฟางยู่เชินชะงักไป
ซ่างกวนหยวนสูดหายใจเข้าลึก “คุณบอกว่าคุณเชื่อในตัวฉัน ดังนั้นจึงไม่ดูแผนงาน คุณคิดว่าคุณทำแบบนี้แล้วฉันจะดีใจงั้นเหรอคะ”
“ผม...”
ฟางยู่เชินตระหนักได้แล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติ ร้อนใจอยากอธิบาย
แต่ซ่างกวนหยวนไม่ให้โอกาสเขา ขัดจังหวะทันที “ฉันขอบอกคุณนะคะ ฉันไม่ดีใจสักนิด กลับกันฉันรู้สึกว่าคุณดูถูกฉัน”
“ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะครับ” ฟางยู่เชินไม่รู้ว่าควรจะอธิบายอย่างไร เขารีบหยิบแผนงานขึ้นมาแล้วบอกว่า “ผมจะดู ผมจะดูให้ละเอียดเลยครับ”
ซ่างกวนหยวนอยากจะคว้าแผนงานคืนมา แต่ยังคงอดกลั้นไว้
“ฉันหวังว่าต่อไปในอนาคตคุณจะไม่ทำแบบนี้อีก เราแค่ทำงานร่วมกัน แม้ว่าคุณจะเชื่อใจฉันขนาดไหน ก็ไม่ควรเอาทั้งบริษัทมาโยนให้ฉันรับผิดชอบ ไม่กลัวว่าฉันจะเล่นไม่ซื่อเหรอคะ”
“คุณจะไม่ทำแบบนั้นหรอกครับ” ซ่างกวนหยวนเลื่อนสายตาขึ้นมองเธอ “ผมเชื่อในตัวคุณจริงๆ เหมือนกับที่ประธานจิ้นเชื่อในตัวผม”
“ฉันรู้แล้วค่ะ คุณดูเถอะ”
ทันทีที่พูดถึงจิ้นเฟิงเฉิน ซ่างกวนหยวนก็พลันรู้สึกแย่ ไม่อยากคุยเรื่องนี้กับเขาอีก
เธอดูอารมณ์เสียมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!