เจียงสื้อสื้อกับแม่กลับไปที่ห้องพักคนไข้ เพิ่งนั่งได้ครู่เดียว จิ้นเฟิงเฉินก็เดินเข้ามา
“แก้ปัญหาได้แล้วเหรอคะ” เจียงสื้อสื้อถาม
“นับว่าอย่างนั้น”
คำตอบที่คลุมเครือทำให้เจียงสื้อสื้อค่อนข้างสงสัย “หมายความว่ายังไงคะ”
“เขาไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผม” จิ้นเฟิงเฉินบอก
“ไม่ต้องการเหรอ งั้นเขาสามารถแก้ปัญหาด้วยตัวเองได้เหรอ”
ไม่ใช่ว่าเจียงสื้อสื้อไม่มั่นใจในตัวญาติผู้พี่ของตัวเอง แต่เจตนาของศัตรูมันอันตรายเกินไป
จิ้นเฟิงเฉินลูบศีรษะของเธอ “เชื่อเขาเถอะ”
เจียงสื้อสื้อถอนหายใจเบาๆ “ก็ได้ค่ะ”
ฟางเสว่มั่นที่อยู่ข้างๆ ได้ยินลางๆ “พวกเธอพูดเรื่องอะไรกัน มีอะไรที่ต้องให้เฟิงเฉินช่วยแก้ปัญหาเหรอ”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่งานของญาติผู้พี่มีปัญหานิดหน่อย” เจียงสื้อสื้อกลัวว่าแม่จะเป็นห่วง จึงตอบไปคร่าวๆ เท่านั้น
ฟางเสว่มั่นขมวดคิ้ว “มันหนักไหม”
“ไม่หนักหรอกค่ะ แค่ปัญหาเล็กน้อย เฟิงเฉินบอกว่าญาติผู้พี่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง คุณวางใจเถอะนะคะ”
เจียงสื้อสื้อส่งสายตาให้เฟิงเฉิน
จิ้นเฟิงเฉินรับรู้จึงพูดเนิบช้าว่า “คุณแม่ครับ ยู่เชินเพิ่งได้ดูแลฟางซื่อ จึงมักจะพบปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เสมอ เขาแก้ปัญหาด้วยตัวเองได้อย่างดีครับ คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”
ฟางเสว่มั่นพยักหน้า “งั้นก็ดีแล้ว ฉันยังเป็นห่วงอยู่เลยว่าจะเกิดเรื่องใหญ่อะไร”
“คุณแม่คะ ฉันบอกคุณแล้วก็ไม่เชื่อ ต้องให้เฟิงเฉินบอกคุณถึงจะเชื่อ”
เจียงสื้อสื้อแสร้งทำเป็นพูดอย่างโกรธๆ
ฟางเสว่มั่นหัวเราะออกมา “เด็กคนนี้นี่พูดไร้สาระอะไร คำพูดของพวกแกฉันเชื่อหมดแหละ”
เจียงสื้อสื้อยิ้ม “โอเคค่ะ ฉันแค่ล้อคุณเล่นน่ะ”
“คุยเรื่องอะไรกัน ท่าทางมีความสุขเชียว”
ขณะนั้นมีเสียงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งดังขึ้น
สามคนในห้องพากันมองไปตามเสียง ที่แท้ก็เป็นฟางเถิงกับซ่างหยิง
พวกเขาคนหนึ่งถือตะกร้าผลไม้ คนหนึ่งถือกระติกน้ำร้อน
“พี่สาม นี่คือซุปไก่ที่ฉันตุ๋นค่ะ เดี๋ยวดื่มตอนร้อนๆ นะคะ” ซ่างหยิงวางกระติกน้ำร้อนไว้บนโต๊ะน้ำชาพร้อมกับบอกฟางเสว่มั่น
ฟางเสว่มั่นทำหน้าอ่อนใจทันที “ทำไมเธอถึงตุ๋นซุปมาอีกล่ะ ไม่ต้องลำบากขนาดนี้ก็ได้จ้ะ”
“พี่สามพูดแบบนี้อีกแล้ว ฉันโกรธแล้วนะคะ” ซ่างหยิงแสร้งมองเธออย่างไม่พอใจ
ฟางเสว่มั่นถอนหายใจ “ฉันกลัวว่าเธอจะลำบาก”
“ตราบใดที่คุณมีสุขภาพดี ฉันก็ไม่ลำบากเลยสักนิดค่ะ”
คำพูดนี้ไม่ต้องพูดถึงฟางเสว่มั่น เจียงสื้อสื้อเป็นคนฟังยังประทับใจอย่างมาก
“น้าสะใภ้เล็ก ขอบคุณคุณมากนะคะ”
ซ่างหยิงหันหน้าไปมองเธอ “เด็กคนนี้มาพูดขอบคุณอะไรฉันจ๊ะ เกรงใจกันแบบนี้อยากให้ฉันโกรธเหรอ”
ทันทีที่เจียงสื้อสื้อได้ยินก็รีบเข้าไปกอดแขนเธอแล้วออดอ้อน “น้าสะใภ้เล็กดีที่สุด จะโกรธฉันได้ยังไงคะ”
ซ่างหยิงขำก่อนจะมองจิ้นเฟิงเฉิน “พวกเธอมาถึงเมืองหลวงกันเมื่อไรจ๊ะ”
“เพิ่งถึงช่วงบ่ายครับ”
“แล้วทุกคนทานอะไรกันแล้วหรือยัง”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “ทานแล้วค่ะ”
“ถ้าหิวกัน ซุปไก่มีเยอะนะจ๊ะ พวกเธอสองคนดื่มได้เลย”
เมื่อได้ยินดังนั้น เจียงสื้อสื้อก็รีบบอกว่า “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่หิว”
จิ้นเฟิงเฉินก็พูดยิ้มๆ ว่า “ขอบคุณน้าสะใภ้เล็กครับ ผมก็ไม่หิวเหมือนกัน”
ซ่างหยิงเอาตะกร้าผลไม้มาจากมือฟางเถิง “ถ้าไม่หิวงั้นเอาผลไม้ไหม”
“ผลไม้ก็ได้ค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!