อ่านสรุป บทที่ 1002 คนพินาศเพื่อสมบัติ จาก ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว
บทที่ บทที่ 1002 คนพินาศเพื่อสมบัติ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เมียวเมียว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
เจียงสื้อสื้อกับแม่กลับไปที่ห้องพักคนไข้ เพิ่งนั่งได้ครู่เดียว จิ้นเฟิงเฉินก็เดินเข้ามา
“แก้ปัญหาได้แล้วเหรอคะ” เจียงสื้อสื้อถาม
“นับว่าอย่างนั้น”
คำตอบที่คลุมเครือทำให้เจียงสื้อสื้อค่อนข้างสงสัย “หมายความว่ายังไงคะ”
“เขาไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผม” จิ้นเฟิงเฉินบอก
“ไม่ต้องการเหรอ งั้นเขาสามารถแก้ปัญหาด้วยตัวเองได้เหรอ”
ไม่ใช่ว่าเจียงสื้อสื้อไม่มั่นใจในตัวญาติผู้พี่ของตัวเอง แต่เจตนาของศัตรูมันอันตรายเกินไป
จิ้นเฟิงเฉินลูบศีรษะของเธอ “เชื่อเขาเถอะ”
เจียงสื้อสื้อถอนหายใจเบาๆ “ก็ได้ค่ะ”
ฟางเสว่มั่นที่อยู่ข้างๆ ได้ยินลางๆ “พวกเธอพูดเรื่องอะไรกัน มีอะไรที่ต้องให้เฟิงเฉินช่วยแก้ปัญหาเหรอ”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่งานของญาติผู้พี่มีปัญหานิดหน่อย” เจียงสื้อสื้อกลัวว่าแม่จะเป็นห่วง จึงตอบไปคร่าวๆ เท่านั้น
ฟางเสว่มั่นขมวดคิ้ว “มันหนักไหม”
“ไม่หนักหรอกค่ะ แค่ปัญหาเล็กน้อย เฟิงเฉินบอกว่าญาติผู้พี่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง คุณวางใจเถอะนะคะ”
เจียงสื้อสื้อส่งสายตาให้เฟิงเฉิน
จิ้นเฟิงเฉินรับรู้จึงพูดเนิบช้าว่า “คุณแม่ครับ ยู่เชินเพิ่งได้ดูแลฟางซื่อ จึงมักจะพบปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เสมอ เขาแก้ปัญหาด้วยตัวเองได้อย่างดีครับ คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”
ฟางเสว่มั่นพยักหน้า “งั้นก็ดีแล้ว ฉันยังเป็นห่วงอยู่เลยว่าจะเกิดเรื่องใหญ่อะไร”
“คุณแม่คะ ฉันบอกคุณแล้วก็ไม่เชื่อ ต้องให้เฟิงเฉินบอกคุณถึงจะเชื่อ”
เจียงสื้อสื้อแสร้งทำเป็นพูดอย่างโกรธๆ
ฟางเสว่มั่นหัวเราะออกมา “เด็กคนนี้นี่พูดไร้สาระอะไร คำพูดของพวกแกฉันเชื่อหมดแหละ”
เจียงสื้อสื้อยิ้ม “โอเคค่ะ ฉันแค่ล้อคุณเล่นน่ะ”
“คุยเรื่องอะไรกัน ท่าทางมีความสุขเชียว”
ขณะนั้นมีเสียงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งดังขึ้น
สามคนในห้องพากันมองไปตามเสียง ที่แท้ก็เป็นฟางเถิงกับซ่างหยิง
พวกเขาคนหนึ่งถือตะกร้าผลไม้ คนหนึ่งถือกระติกน้ำร้อน
“พี่สาม นี่คือซุปไก่ที่ฉันตุ๋นค่ะ เดี๋ยวดื่มตอนร้อนๆ นะคะ” ซ่างหยิงวางกระติกน้ำร้อนไว้บนโต๊ะน้ำชาพร้อมกับบอกฟางเสว่มั่น
ฟางเสว่มั่นทำหน้าอ่อนใจทันที “ทำไมเธอถึงตุ๋นซุปมาอีกล่ะ ไม่ต้องลำบากขนาดนี้ก็ได้จ้ะ”
“พี่สามพูดแบบนี้อีกแล้ว ฉันโกรธแล้วนะคะ” ซ่างหยิงแสร้งมองเธออย่างไม่พอใจ
ฟางเสว่มั่นถอนหายใจ “ฉันกลัวว่าเธอจะลำบาก”
“ตราบใดที่คุณมีสุขภาพดี ฉันก็ไม่ลำบากเลยสักนิดค่ะ”
คำพูดนี้ไม่ต้องพูดถึงฟางเสว่มั่น เจียงสื้อสื้อเป็นคนฟังยังประทับใจอย่างมาก
“น้าสะใภ้เล็ก ขอบคุณคุณมากนะคะ”
ซ่างหยิงหันหน้าไปมองเธอ “เด็กคนนี้มาพูดขอบคุณอะไรฉันจ๊ะ เกรงใจกันแบบนี้อยากให้ฉันโกรธเหรอ”
ทันทีที่เจียงสื้อสื้อได้ยินก็รีบเข้าไปกอดแขนเธอแล้วออดอ้อน “น้าสะใภ้เล็กดีที่สุด จะโกรธฉันได้ยังไงคะ”
ซ่างหยิงขำก่อนจะมองจิ้นเฟิงเฉิน “พวกเธอมาถึงเมืองหลวงกันเมื่อไรจ๊ะ”
“เพิ่งถึงช่วงบ่ายครับ”
“แล้วทุกคนทานอะไรกันแล้วหรือยัง”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “ทานแล้วค่ะ”
“ถ้าหิวกัน ซุปไก่มีเยอะนะจ๊ะ พวกเธอสองคนดื่มได้เลย”
เมื่อได้ยินดังนั้น เจียงสื้อสื้อก็รีบบอกว่า “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่หิว”
จิ้นเฟิงเฉินก็พูดยิ้มๆ ว่า “ขอบคุณน้าสะใภ้เล็กครับ ผมก็ไม่หิวเหมือนกัน”
ซ่างหยิงเอาตะกร้าผลไม้มาจากมือฟางเถิง “ถ้าไม่หิวงั้นเอาผลไม้ไหม”
“ผลไม้ก็ได้ค่ะ”
“ในใจคุณน้าชายเล็กไม่ใช่ว่ามีคำตอบอยู่แล้วเหรอครับ” จิ้นเฟิงเฉินถามแทนคำตอบ
ฟางเถิงชะงักไปทันที ก่อนจะได้สติกลับมา และอดไม่ได้ที่จะยกยิ้ม “เธอนี่ฉลาดมากจริงๆ”
ที่จริงเขามีคำตอบ แต่ไม่อยากจะยอมรับ
“คุณน้าชายเล็กครับ บางครั้งไม่ใช่ว่าคุณไม่อยากทำร้ายใครแล้วจะไม่มีใครทำร้ายคุณนะครับ เราไม่เริ่มทำร้ายใครก่อน แต่ถ้ามีใครมาทำร้ายเรา ต่อให้เราไม่โต้กลับ ก็ควรปกป้องตัวเองไว้ดีกว่านะครับ”
คำพูดของจิ้นเฟิงเฉินทำให้ฟางเถิงตกอยู่ในห้วงความคิด
ผ่านไปนาน กระทั่งเขาถอนหายใจอีกครั้ง “ฉันเข้าใจคำพูดของเธอ เพียงแต่ ฉันเดาว่าถ้าคุณตาของเธอตื่น คงไม่อยากเห็นตระกูลฟางแตกแยก ต่อให้ท่านจะไม่ชอบพวกน้าชายใหญ่กับน้าชายรองของเธอ แต่ก็ไม่ได้หวังให้เราสามคนพี่น้องผู้ชายต่อสู้กันเอง”
จิ้นเฟิงเฉินเข้าใจความรู้สึกของเขา แต่ตอนนี้อีกฝ่ายไม่ได้สนใจความสัมพันธ์ในครอบครัวอีกต่อไปแล้ว
ถ้าคุณน้าชายเล็กกับฟางยู่เชินยังใจอ่อน สุดท้ายพวกเขาก็จะต้องมีจุดจบที่น่าอนาถ
“คุณน้าชายเล็กครับ การสืบเรื่องอุบัติเหตุทางรถยนต์ของคุณตาเป็นยังไงบ้างครับ” จู่ๆ จิ้นเฟิงเฉินก็ถามขึ้น
ฟางเถิงอึ้งไปเล็กน้อย แต่ไม่นานก็ได้สติกลับมา “ผลการสอบสวนของตำรวจคือรถถูกคนดัดแปลงจริงๆ แต่ยังสืบรูปพรรณสัณฐานไม่ได้ว่าเป็นใคร”
จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย “คุณน้าชายเล็กเคยคิดไหมครับว่าถ้าเกิดเรื่องกับคุณตาแล้วจะเป็นผลดีกับใคร”
“แน่นอนว่าเป็น...” ฟางเถิงกำลังจะบอกชื่อคนคนนั้นออกไปโดยไม่รู้ตัว แต่วินาทีต่อมาเขาก็ดวงตาเบิกกว้าง มองจิ้นเฟิงเฉินอย่างไม่อยากเชื่อ “เธอ...เธอคงจะไม่สงสัยว่าเขาเป็นคนทำหรอกใช่ไหม”
“เพราะทุกอย่างมันบังเอิญเกินไปครับ ผมเพียงแต่สงสัยตามหลักเหตุผล”
ฟางเถิงส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้ นั่นคือปู่ของเขานะ เขาจะโหดเหี้ยมอย่างนั้นได้ยังไง”
“คนพินาศเพื่อสมบัติ”
ถ้อยคำประโยคนี้ อธิบายทุกอย่าง
แต่ฟางเถิงยังคงไม่อยากเชื่อ “ถึงแม้ว่าอี้หมิงจะอยากได้ฟางซื่อ แต่เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำเรื่องบ้าบอไร้สติแบบนั้น”
“คุณน้าชายเล็กครับ ผมเพียงแต่สงสัยเท่านั้น” จิ้นเฟิงเฉินส่งเสียงบางเบา “อุบัติเหตุทางรถยนต์ของคุณตาเกิดจากฝีมือมนุษย์แน่นอน บอกตามตรงนะครับ ทุกคนในตระกูลฟางล้วนเป็นผู้ต้องสงสัย”
ฟางเถิงถอนหายใจหนัก “ฉันจะให้ตำรวจสืบหาให้แน่ชัด”
เขาเชื่อว่าตำรวจจะให้ผลลัพธ์หนึ่งกับเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!