ซ่างกวนหยวนค่อยๆ วางโทรศัพท์ลง คิ้วของเธอขมวดเข้าหากันแน่น ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเจียงสื้อสื้อมีบางอย่างผิดปกติไป
พอนึกถึงคำถามที่เจียงสื้อสื้อถาม เธอก็เหมือนว่าเจียงสื้อสื้อจะไปรู้อะไรบางอย่างมา
หลังจากคิดทบทวนอย่างถี่ถ้วนแล้ว เธอก็ยังรู้สึกไม่วางใจ
ฉันก็เลยตัดสินใจไปที่บ้านของตระกูลฟาง เพื่อคุยกันต่อหน้า บางทีเธออาจจะเห็นอะไรบางอย่างผ่านทางแววตาก็ได้
เธอหมุนพวงมาลัย หันรถกลับ และขับตรงไปทางบ้านของตระกูลฟาง
หลังจากที่เจียงสื้อสื้อวางสายไปแล้ว เธอก็อารมณ์หงุดหงิดมาก
เธอนอนแผ่หลาอยู่บนเตียง ก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างกายตัวเองไว้ และพยายามสงบสติอารมณ์ด้วยวิธีนี้
เธอเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว
จนกระทั่งจู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอถูกปลุกจนตื่น ก่อนจะลุกขึ้นนั่งด้วยอาการสะลึมสะลือ
เธอนวดขมับ รอจนอาการวิงเวียนศีรษะหายดี จากนั้นจึงหันไปที่ประตูแล้วถามออกไป “ใครคะ”
“คุณหนูสื้อสื้อคะ ดิฉันเองค่ะ”
เป็นพ่อบ้าน
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“มีแขกมาขอพบคุณหนูค่ะ”
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้วแขกอย่างนั้นเหรอ
เธอไม่รู้จักใครในเมืองหลวงเลยนี่นา แล้วทำไมถึงมีคนมาหาเธอได้
หรือว่าจะเป็นคนรู้จักที่มาจากเมืองจิ่น
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอก็รีบดึงผ้าห่มออก ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง รีบใส่รองเท้าแตะ แล้วเดินออกไป พร้อมกับลูบผมของเธอให้เรียบร้อย
หลังจากลงบันไดมา แล้วเห็นซ่างกวนหยวนนั่งอยู่ในห้องรับแขก เธอก็เหมือนถูกน้ำเย็นราดทั้งตัว อารมณ์ดีใจมีความสุขก็หายไปในทันที
ซ่างกวนหยวนยืนขึ้น และส่งยิ้มมองมาที่เธอ “สื้อสื้อ”
เจียงสื้อสื้อเม้มริมฝีปากของเธอ แล้วเดินไปช้าๆ พยายามยิ้มออกมาอย่างยากลำบาก ก่อนจะถามว่า “เธอมาที่นี่ทำไม”
“ฉันมาดูว่าอาการเธอเป็นยังไงบ้าง ฉันกลัวว่าเธอจะโกหกฉัน”
พอพูดจบ ซ่างกวนหยวนก็เดินเข้ามาจูงมือเธอเข้าไปนั่งที่โซฟาอย่างสนิทสนม หลังจากตรวจดูแล้ว ซ่างกวนหยวนจึงระบายยิ้มออกมา “ดูสีหน้าของเธอแล้ว เธอคงไม่ได้โกหกฉันจริงๆ”
เจียงสื้อสื้อขยับตัวออกห่างตอนที่อีกฝ่ายเผลอ “ฉันจะโกหกเธอไปทำไมล่ะ ฉันบอกว่าไม่เป็นอะไรแล้วก็คือไม่เป็นอะไรแล้ว”
“แต่ฉันเห็นเธอเป็นลมหมดสติไปต่อหน้าต่อตาเลยนะ ฉันตกใจแทบตาย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจียงสื้อสื้อก็ยิ้มอย่างขอโทษ “ฉันขอโทษ ทำให้เธอต้องตกใจแล้ว”
ซ่างกวนหยวนขมวดคิ้วงุนงง “เธอจะขอโทษทำไม ฉันไม่ได้โทษเธอเลยแม้แต่น้อย ฉันแค่อยากจะบอกถึงความรู้สึกของฉันในตอนนั้นเท่านั้นเอง”
เจียงสื้อสื้อยิ้มและไม่พูดอะไร
ซ่างกวนหยวนเลิกคิ้วขึ้น และถามอย่างสนิทสนมว่า “สื้อสื้อ เธอมีอะไรเข้าใจฉันผิดหรือเปล่า”
“ไม่มีนะ” เจียงสื้อสื้อส่ายหน้าปฏิเสธ
“แล้วทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเธอดูเย็นชาจัง เมื่อก่อนเธอไม่เคยเป็นแบบนี้”
สายตาของซ่างกวนหยวนมองหน้าเธอตลอด เพราะกลัวว่าจะพลาดจากการเห็นอารมณ์ความเปลี่ยนแปลงที่แสดงออกมาทางสีหน้าของเธอ
“ฉันเป็นยังไงเหรอ” เจียงสื้อสื้อแสร้งทำเป็นงงงวย “ฉันไม่ได้เย็นชานี่นา”
“แล้วทำไมเธอถึงกดวางสายไปดื้อๆล่ะ” ซ่างกวนหยวนถาม
“ฉัน…” เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว แล้วตอบด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “ฉันแค่เหนื่อย อยากพักผ่อน และคิดว่าเธอน่าจะไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ก็เลยกดวางสายไป”
พอพูดถึงตรงนี้ เธอก็หัวเราะออกมา “น่าจะเป็นเธอที่เข้าใจผิดมากกว่า”
รอยยิ้มในครั้งนี้ของเธอ ไม่ได้ต่างจากเมื่อก่อนเลย
ซ่างกวนหยวนอดที่จะคิดไม่ได้ หรืออาจจะเป็นเธอที่เข้าใจผิดไปเอง
เมื่อเห็นว่าเธอไม่ตอบ เจียงสื้อสื้อจึงเอ่ยเรียกเบาๆ “หยวนหยวน”
ซ่างกวนหยวนและได้สติกลับมา พอสบตาที่บริสุทธิ์ของเจียงสื้อสื้อ ทำให้เธอรู้สึกร้อนตัว
“ฉันไม่ได้เข้าใจผิดหรอก” ซ่างกวนหยวนปฏิเสธ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!