ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 1024

สรุปบท บทที่​1024 ตกลงแล้วใครมีความสามารถโดดเด่น​มากกว่ากัน: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

อ่านสรุป บทที่​1024 ตกลงแล้วใครมีความสามารถโดดเด่น​มากกว่ากัน จาก ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

บทที่ บทที่​1024 ตกลงแล้วใครมีความสามารถโดดเด่น​มากกว่ากัน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เมียวเมียว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ซ่างกวนหยวนค่อยๆ วางโทรศัพท์ลง คิ้วของเธอขมวดเข้าหากันแน่น ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเจียงสื้อสื้อมีบางอย่างผิดปกติไป

พอนึกถึงคำถามที่เจียงสื้อสื้อถาม เธอก็เหมือนว่าเจียงสื้อสื้อจะไปรู้อะไรบางอย่างมา

หลังจากคิดทบทวน​อย่างถี่ถ้วนแล้ว เธอก็ยังรู้สึกไม่วางใจ

ฉันก็เลยตัดสินใจไปที่บ้านของตระกูล​ฟาง เพื่อคุยกันต่อหน้า​ บางทีเธออาจจะเห็นอะไรบางอย่างผ่านทางแววตาก็ได้

เธอหมุนพวงมาลัย หันรถกลับ และขับตรงไปทางบ้านของตระกูล​ฟาง

หลังจากที่เจียงสื้อสื้อวางสายไปแล้ว เธอก็อารมณ์หงุดหงิดมาก

เธอนอนแผ่หลาอยู่บนเตียง ก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างกายตัวเองไว้ และพยายามสงบสติอารมณ์ด้วยวิธีนี้

เธอเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว​

จนกระทั่งจู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอถูก​ปลุกจนตื่น ก่อนจะลุกขึ้น​นั่งด้วยอาการ​สะลึมสะลือ​

เธอนวดขมับ รอจนอาการวิงเวียนศีรษะหายดี จากนั้นจึงหันไปที่ประตูแล้วถามออกไป “ใครคะ”

“คุณหนู​สื้อสื้อคะ ดิฉัน​เองค่ะ”

เป็นพ่อบ้าน

“มี​อะไร​หรือเปล่า​คะ​”

“มีแขกมาขอพบคุณหนู​ค่ะ”

เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้วแขกอย่างนั้น​เหรอ​

เธอไม่รู้จักใครในเมืองหลวง​เลยนี่นา แล้วทำไมถึงมีคนมาหาเธอได้

หรือว่าจะเป็นคนรู้จัก​ที่​มาจากเมืองจิ่น

เมื่อคิดถึง​ตรงนี้ เธอก็รีบดึงผ้าห่มออก ก่อนจะลุกขึ้น​จากเตียง รีบใส่รองเท้าแตะ แล้วเดินออกไป พร้อมกับลูบผมของเธอให้เรียบร้อย​

หลังจากลงบันไดมา แล้วเห็นซ่างกวนหยวนนั่งอยู่ในห้องรับแขก เธอก็เหมือนถูก​น้ำเย็นราดทั้งตัว อารมณ์​ดีใจมีความสุขก็หายไปในทันที

ซ่างกวนหยวนยืนขึ้น และส่งยิ้มมองมาที่เธอ “สื้อสื้อ”

เจียงสื้อสื้อเม้มริมฝีปากของเธอ แล้วเดินไปช้าๆ พยายามยิ้มออกมาอย่างยากลำบาก​ ก่อนจะถามว่า “เธอมาที่นี่ทำไม”

“ฉันมาดูว่าอาการเธอเป็นยังไง​บ้าง​ ฉันกลัวว่าเธอจะโกหกฉัน”

พอพูดจบ ซ่างกวนหยวนก็เดินเข้ามาจูงมือเธอเข้าไปนั่งที่โซฟาอย่างสนิทสนม หลังจากตรวจดู​แล้ว ซ่างกวนหยวนจึงระบายยิ้มออกมา “ดูสีหน้า​ของเธอแล้ว เธอคงไม่ได้โกหกฉันจริงๆ​”

เจียงสื้อสื้อขยับตัวออกห่างตอนที่​อีกฝ่ายเผลอ “ฉันจะโกหกเธอไปทำไมล่ะ ฉันบอกว่าไม่เป็นอะไรแล้ว​ก็คือไม่เป็นอะไรแล้ว”

“แต่ฉันเห็นเธอเป็นลมหมดสติ​ไปต่อหน้าต่อตา​เลยนะ ฉันตกใจแทบตาย”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจียงสื้อสื้อก็ยิ้มอย่างขอโทษ “ฉันขอโทษ ทำให้​เธอต้องตกใจแล้ว”

ซ่างกวนหยวนขมวดคิ้วงุนงง​ “เธอจะขอโทษทำไม ฉันไม่ได้โทษเธอเลยแม้แต่น้อย​ ฉันแค่อยากจะบอกถึงความรู้สึกของฉันในตอนนั้นเท่านั้น​เอง​”

เจียงสื้อสื้อยิ้มและไม่พูดอะไร

ซ่างกวนหยวนเลิกคิ้วขึ้น และถามอย่างสนิทสนม​ว่า “สื้อสื้อ เธอมีอะไรเข้าใจฉันผิดหรือเปล่า”

“ไม่มีนะ” เจียงสื้อสื้อส่ายหน้าปฏิเสธ​

“แล้วทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเธอดูเย็นชาจัง เมื่อก่อน​เธอไม่เคยเป็นแบบนี้”

สายตาของซ่างกวนหยวนมองหน้าเธอตลอด เพราะกลัวว่าจะ​พลาดจากการเห็นอารมณ์ความเปลี่ยนแปลง​ที่แสดงออกมาทางสีหน้า​ของ​เธอ

“ฉันเป็นยังไง​เหรอ” เจียงสื้อสื้อแสร้งทำเป็นงงงวย “ฉันไม่ได้เย็นชา​นี่นา”

“แล้วทำไมเธอถึงกดวางสายไปดื้อๆล่ะ” ซ่างกวนหยวนถาม

“ฉัน…” เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว แล้วตอบด้วยสีหน้า​เรียบนิ่ง “ฉันแค่เหนื่อย อยากพักผ่อน และคิดว่าเธอน่าจะไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ก็เลยกดวางสายไป”

พอพูดถึงตรงนี้​ เธอก็หัวเราะออกมา “น่าจะเป็น​เธอที่เข้าใจผิดมากกว่า”

รอยยิ้มในครั้งนี้​ของเธอ ไม่ได้ต่างจากเมื่อก่อนเลย

ซ่างกวนหยวนอดที่จะคิดไม่ได้ หรืออาจจะ​เป็น​เธอที่เข้าใจ​ผิดไปเอง

เมื่อเห็นว่าเธอไม่ตอบ เจียงสื้อสื้อจึงเอ่ยเรียกเบาๆ “หยวนหยวน”

ซ่างกวนหยวนและได้สติ​กลับมา​ พอสบตาที่บริสุทธิ์​ของเจียงสื้อสื้อ ทำให้​เธอ​รู้สึก​ร้อนตัว​

“ฉันไม่ได้เข้าใจผิดหรอก” ซ่างกวนหยวนปฏิเสธ

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจียงสื้อสื้อก็ขมวดคิ้วและพยายามถามลองเชิง​ “ทำไมล่ะ พี่ชายของฉันก็ดีมากนี่นา บางทีอาจจะดีกว่าคนที่เธอชอบก็ได้”

“ไม่มีทาง” ซ่างกวนหยวนส่ายหัวและพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังมาก “ในใจของฉัน เขาเทียบเท่า​กับ​คนที่ฉันชอบไม่ได้เลย แม้แต่หนึ่งในสิบของเขาก็เทียบไม่ได้”

เมื่อพูดถึงคนที่เธอชอบ สีหน้า​ของเธอก็แตกต่างไปทันที เธอดูสดใสขึ้น​มาทันที

เมื่อคิดว่าคนคนนั้นอาจเป็นจิ้นเฟิงเฉิน เจียงสื้อสื้อก็รู้สึก​อธิบายไม่ถูก

เจียงสื้อสื้อหลับตาลง เก็บซ่อนอารมณ์ในดวงตาของเธอไว้ “ดีขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วถ้าเทียบกับเฟิงเฉินล่ะ”

ซ่างกวนหยวนชะงักงัน เธอไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร

หลังจากรอมานานกลับไม่ได้รับคำตอบจากเธอ เจียงสื้อสื้อก็เงยหน้า​ขึ้น พอเห็นสีหน้าที่ตกตะลึง​เล็กน้อย​ของเธอ จึงส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ไหว​ “มันยากที่จะตอบมากเลยเหรอ”

“อันที่จริงก็ไม่น่าจะตอบยากนี่นา” เจียงสื้อสื้อจับเส้นผมข้างแก้มไปทัดไว้หลังหู ก่อนจะพูดต่อ“สำหรับฉันแล้ว​ คนที่ดีที่สุดคือคนที่ตนเองรักเสมอ”

แน่นอนว่าซ่างกวนหยวนเข้าใจ แต่ปัญหาคือคนที่เธอชอบกับประธานจิ้นเป็นคนคนเดียวกันนี่สิ

ดังนั้น​เธอถึงไม่รู้​ว่า​จะ​ตอบกลับไปว่ายังไง​ดี

“แล้วตกลงใครดีกว่ากันเหรอ”

พอเห็นการสีหน้า​ที่คาดหวังของเจียงสื้อสื้อ ซ่างกวนหยวนก็เม้มปากและยิ้มแหย “แน่นอนว่าประธานจิ้นต้องดีกว่าอยู่แล้ว​สิ”

“จริงเหรอ” เจียงสื้อสื้อแปลกใจเล็กน้อย “ฉันนึกว่าเธอจะเลือกคนที่เธอชอบซะอีก”

“ต่อหน้าเธอ ฉันจะกล้าไม่เลือกประธานจิ้นได้ยังไง​กัน​ ฉันกลัวว่าเธอจะโกรธเอา” ซ่างกวนหยวนพูดติดตลกครึ่ง​หนึ่ง​และจริงจังครึ่งหนึ่ง

เจียงสื้อสื้อยิ้ม “ฉันไม่ได้ใจแคบขนาดนั้น”

ซ่างกวนหยวนนิ่งคิดเรื่องนี้อยู่สักพัก​ เธอจึงถามลองเชิง​ดู “สื้อสื้อ แล้วถ้าฉันบอกว่าคนที่ฉันชอบคือประธานจิ้นล่ะ เธอจะโกรธฉันไหม”

นี่หมายความ​ว่า​เธอยอมรับแล้วใช่ไหม​

เจียงสื้อสื้อมองที่เธอ บนใบหน้ายังคงยิ้มแย้มตลอดเวลา “ฉันจะไม่โกรธหรอก แต่ฉันคงจะไม่ชอบใจเอามากๆ”

น้ำเสียงตอบกลับ​ของเธอดูจริงจังมาก

ซ่างกวนหยวนยิ้มอย่างทำตัวไม่ถูก​ “มันก็จริง ถ้าเป็นฉันก็คงไม่ชอบใจมากเหมือนกัน​”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!