ซ่างกวนหยวนมาเพื่อลองถามเจียงสื้อสื้อ แต่ในเมื่อถามอะไรไม่ได้เลย เธอจึงไม่จำเป็นต้องอยู่อีกต่อไป
“สื้อสื้อ ฉันต้องกลับไปทำงานที่บริษัทแล้ว คงอยู่คุยด้วยไม่ได้แล้วล่ะ” เธอลุกขึ้นยืนแล้วพูดยิ้มๆ
“อืม เดินทางปลอดภัยนะ”
เจียงสื้อสื้อเดินไปส่งเธอที่ประตู พอเห็นเธอจากไปแล้วจึงหันกลับและเดินเข้าบ้านไป
ขณะที่เธอเดินขึ้นไปชั้นบน เธอก็คิดไปด้วยว่าตกลงแล้วซ่างกวนหยวนมาหาเธอจริงหรือเปล่า
เธอหยุดเดินขึ้นมากะทันหัน
ไม่ใช่สิ อีกฝ่ายไม่ได้มาหาเธอจริงๆ แต่แค่จะมาหลอกถามเธอ
ไม่อย่างนั้นคงไม่ถามคำถามพวกนั้นออกมา
“สื้อสื้อ ถ้าฉันบอกว่าคนที่ฉันชอบคือประธานจิ้น เธอจะโกรธไหม”
พอคิดถึงคำถามนี้ ริมฝีปากของเจียงสื้อสื้อก็ยกยิัม แต่รอยยิ้มนั้นกลับไม่ปรากฏในแววตาของเธอ
เธอยังเคยคิดว่าซ่างกวนหยวนอยากเป็นเพื่อนกับเธอจริงๆ แต่เธอไม่คิดเลยว่ามันจะมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง
พอนึกถึงตนเองที่คิดว่าซ่างกวนหยวนเป็นเพื่อนสนิท และปฏิบัติต่อเธอด้วยความจริงใจ แต่ท้ายที่สุด อีกฝ่ายกลับอยากแย่งสามีของเธอ
เธอรู้สึกอึดอัดและไม่ชอบใจเอามากๆ
เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ และแอบบอกตัวเองในใจว่าจากนี้ไปต้องลดการติดต่อกับซ่างกวนหยวนให้น้อยที่สุด
…...
จิ้นเฟิงเฉินเดินทางไปที่ฟางซื่อกรุ๊ปพร้อมกับฟางยู่เชินตั้งแต่เช้า
“เฟิงเฉิน คุณแน่ใจเหรอว่าต้องการจะคุยกับฟางอี้หมิงตรงๆ” ฟางยู่เชินเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ
เขากลัวว่าฟางอี้หมิงจะไม่ยอมรับ
จิ้นเฟิงเฉินตอบเสียงเรียบนิ่งออกมาว่า “อืม”
ฟางยู่เชินไม่รู้ว่าจะพูดอะไรแล้ว จึงพูดออกมาเพียงประโยคเดียว “ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้คุณโชคดี”
ฟางยู่เชินยืนมองจิ้นเฟิงเฉินเดินออกจากห้องทำงานของประธานไป
ในห้องทำงานรองประธานบริษัท ฟางอี้หมิงหยิบปฏิทินบนโต๊ะขึ้นมา แล้วขีดกากบาทบนตัวเลขวันที่ด้วยปากกา
“หนึ่ง สอง สาม……”
เขานับตัวเลขที่ถูกกากบาทไว้บนนั้น แล้วยกยิ้มกริ่ม “วันนี้เป็นวันที่ห้าแล้ว ฉันจะคอยดูว่าฟางยู่เชินจะเปลี่ยนกระแสวิกฤตนี้ไปได้อย่างไรในอีกสามวันที่เหลือ”
“ก๊อกก๊อก”
มีเสียงเคาะประตูสั้นๆดังขึ้น
เขาหันกลับไปมอง “มีอะไร”
“รองประธานครับ ประธานจิ้นมาขอพบครับ” เสียงที่พูดรายงานอย่างระมัดระวังของผู้ช่วยดังขึ้นจากอีกด้านหนึ่งของประตู
จิ้นเฟิงเฉินอย่างนั้นเหรอ
สีหน้าของฟางอี้หมิงเปลี่ยนไปทันที ไม่ทันคิดพิจารณาว่าทำไมอีกฝ่ายถึงมาที่นี่ เขารีบวางปฏิทินลง รีบลุกขึ้นและเดินไปเปิดประตูด้วยตัวเอง
พอเปิดประตู ก็เห็นจิ้นเฟิงเฉินที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ช่วยของเขาด้วยท่าทางสงบนิ่ง
“น้องเขย มาได้ยังไงกันครับ”
ฟางอี้หมิงพยายามใช้คำเรียกที่สนิทสนมว่า “น้องเขย” เพื่อดึงความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองให้ดูใกล้ชิดกันมากขึ้น
จิ้นเฟิงเฉินทำเหมือนไม่ได้ยิน เขาเพียงถามเสียงเรียบนิ่ง “รองประธานฟาง คุณมีเวลาไหม ผมอยากคุยกับคุณสักหน่อย”
“มีครับ มีแน่นอน” สีหน้าของฟางอี้หมิงเต็มไปด้วยรอยยิ้มประจบประแจง เขาจะกล้าบอกว่าไม่มีได้อย่างไร
“เชิญข้างในห้องเลยครับ”
ฟางอี้หมิงหันข้าง หลบทางให้เขาเข้าไป ก่อนจะหันกลับไปสั่งงานผู้ช่วย “ไปชงกาแฟมาสองแก้ว”
“ครับ” ผู้ช่วยรีบเดินออกไป
หลังจากปิดประตู ก็มีแสงเย็นวาบผ่านดวงตาของฟางอี้หมิงไป เขาสูดลมหายใจ ก่อนจะปรับสีหน้าให้ยิ้มอีกครั้ง ก่อนจะหันหลังกลับแล้วเดินไปหาจิ้นเฟิงเฉิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!