ฟางอี้หมิงเอียงศีรษะกลับมา และจ้องไปที่ฟางเฉิงเป็นเวลานาน ก่อนที่เขาจะถอนหายใจยาว แล้วพูดอย่างหดหู่ใจ “เขารู้ทุกอย่างแล้วครับ”
ท่าทางของฟางเฉิงดูงงๆกับคำพูดที่ไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด “เขารู้เรื่องอะไรกัน”
“เรื่องที่เราแอบขายสมุนไพรให้SAกรุ๊ปครับ”
“อะไรนะ” ฟางเฉิงตกใจมาก “เขา... เขารู้ได้ยังไงกัน”
“ก่อนหน้านี้เราเคยขอให้เขาทำงานกับเรา และเขาก็ติดต่อกับSAกรุ๊ปอยู่แล้วด้วย” ฟางอี้หมิงพูด
ฟางเฉิงนึกขึ้นมาได้ว่ามีเรื่องนี้อยู่ด้วย เขาตบต้นขาของตัวเอง แล้วพูดด้วยความร้อนใจ “ทำไมพ่อถึงลืมเรื่องนี้ไปได้นะ ตายแน่ๆ ถ้าคณะกรรมการรู้เรื่องนี้ พวกเราก็จบสิ้นกันแล้ว”
“จบสิ้นกันแล้วอะไรล่ะครับ” ฟางอี้หมิงยิ้มเยาะเย้ย “ผมยังมีประโยชน์กับเขาอยู่ และเขาเองก็ทำอะไรผมตอนนี้ไม่ได้ด้วย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟางเฉิงก็รู้สึกงุนงง “ลูกหมายความว่ายังไง”
ฟางอี้หมิงนั่งลงบนเก้าอี้ ก่อนจะหลับตาลง และบอกฟางเฉิงในสิ่งที่จิ้นเฟิงเฉินเพิ่งบอกให้เขาทำ
พอฟางเฉิงฟังจนจบ ยังรู้สึกไม่มั่นใจเล็กน้อย “หมายความว่า เขายังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับฟางยู่เชินชั่วคราว ใช่ไหม”
ฟางอี้หมิงพยักหน้า “ตอนนี้ยังไม่บอกครับ แต่ไม่รับประกันว่าจะไม่บอกในอนาคต”
“แล้วตอนนี้เราควรทำอย่างไรดี”
พอเห็นความสำเร็จอยู่ตรงหน้าแล้ว ใครจะรู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมากลางทาง
เรื่องนี้ทำให้ ฟางเฉิงทั้งโกรธและทำอะไรไม่ถูก
“เวลาที่กำหนดโดยคณะกรรมการใกล้จะมาถึงแล้ว ถึงตอนนั้นให้กรรมการพวกนั้นอาละวาดสักหน่อย ถึงจะทำให้ฟางยู่เชินหลุดจากตำแหน่งประธานบริษัท แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาจะปวดหัวไปได้สักพัก”
ฟางเฉิงพยักหน้า “ตอนนี้ก็คงทำได้แค่นี้แล้วล่ะ”
ฟางอี้หมิงมีแผนของเขาเอง เขาไม่จะยอมแพ้ไปง่ายๆแบบนี้
ฟางซื่อกรุ๊ป เขาจะต้องครอบครองมันให้ได้
……
จิ้นเฟิงเฉินกลับไปที่ห้องทำงานของประธานบริษัท ฟางยู่เชินก็รีบทักทายเขาอย่างดีใจทันทีที่เห็นเขา
“เป็นยังไงบ้างครับ”
“อืม”
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้าเล็กน้อย หมายความว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี
ฟางยู่เชินถอนหายใจอย่างโล่งอก “ดีแล้ว ผมได้โทรคุยกับทางตำรวจแล้ว พวกเขาจะหยุดการสืบสวนและตามจับคนร้ายไว้ชั่วคราว”
“ลำบากคุณแล้ว” จิ้นเฟิงเฉินเอ่ยพูด
ปัญหาเรื่องสมุนไพรสามารถแก้ไขได้ในคราวเดียว แต่เพื่อสื้อสื้อแล้ว ฟางยู่เชินจึงยอมถอยให้
เพราะเรื่องนี้ สถานการณ์ของเขาจะยิ่งลำบากขึ้น เมื่อเส้นตายหมดลง ทั้งที่รู้ว่าเป็นฝีมือของฟางอี้หมิง แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้
ความรู้สึกแย่แบบนี้ทำให้เขาไม่ชอบใจเอาซะเลย
ดังนั้น จิ้นเฟิงเฉินจึงรู้สึกผิดกับฟางยู่เชินเอามากๆ
ไม่รู้ว่าเพราะมองเห็นความรู้สึกผิดของเขาหรือเปล่า ฟางยู่เชินยิ้มและโบกมือ “เรื่องของสื้อสื้อสำคัญที่สุดครับ ผมไม่ได้ลำบากอะไรเลย”
จิ้นเฟิงเฉินยกยิ้ม“ขอบคุณ”
ฟางยู่เชินส่ายหัว “นี่คือสิ่งที่ผมควรทำครับ”
จิ้นเฟิงเฉินพูดคุยกับเขาอีกสักพัก ก่อนจะเดินจากไป
ตอนที่กลับไปถึงบ้านตระกูลฟาง และเห็นเจียงสื้อสื้อนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนั่งเล่น จิ้นเฟิงเฉินก็เดินเข้าไป
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เจียงสื้อสื้อก็เงยหน้าขึ้นมอง พอเห็นรองเท้าแตะสีขาวที่ใช้ในบ้าน ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างด้วยความยินดี จนสบตาเข้ากับดวงตาสีดำสนิทคู่หนึ่ง
มุมปากของเธอยกยิ้มกว้าง และกล่าวต้อนรับเสียงหวาน “กลับมาแล้วเหรอคะ”
จิันเฟิงเฉินยิ้มกลับ “กลับมาแล้วครับ”
เจียงสื้อสื้อยืนขึ้น โดยเอามือไว้ข้างหลัง และมองเขายิ้มๆ “ทำไมวันนี้คุณออกไปเช้าจังคะ ฉันตื่นนอนมาก็ได้ยินว่าคุณออกไปข้างนอกแล้ว”
เสียงพูดที่แสนอ่อนหวานและแฝงแววออดอ้อนไว้ในตัว
หัวใจของจิ้นเฟิงเฉินอ่อนเป็นน้ำทันที เขาเอื้อมมือออกไปช่วยเธอจัดผมที่หล่นอยู่ที่แก้มทัดใบหูให้เธอ และบอกด้วยเสียงที่อ่อนโยนว่า “ผมไปหาฟางอี้หมิงเพื่อคุยเขาสักหน่อย”
“คุณไปหาฟางอี้หมิงมาเหรอคะ” เจียงสื้อสื้อตกตะลึง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!