‘ที่เดิม’ ที่ซูน่าพูดถึงทางโทรศัพท์ อันที่จริงแล้วมันเป็นพุ่มป่าเขียวพุ่มหนึ่งในสวนสาธารณะใกล้โรงแรม
ก่อนจะเริ่มแผน จิ่งหลิวเยว่ได้จัดเตรียมการทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว แม้กระทั่งเรื่องที่เธอจะถูกจับได้ก็พิจารณาเอาไว้เรียบร้อยเช่นกัน
เดิมทีก็เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่พอมันเกิดขึ้นจริงๆ จิ่งหลิวเยว่ยังรู้สึกรับไม่ได้อยู่เล็กน้อย
เขากับจี้ตงถางมาที่สวนสาธารณะ หยิบกล่องขนาดเล็กออกมาจากด้านในพุ่มไม้เขียว
ด้านในกล่องก็คือแฟลชไดรฟ์ที่พวกเขาต้องการ
เขากำแฟลชไดรฟ์ไว้ในฝ่ามือ อารมณ์ของจิ่งหลิวเยว่สับสนยุ่งเหยิงมาก เขามองไปที่จี้ตงถาง “ฉันอยากไปช่วยซูน่า”
“นายบ้าไปแล้วเหรอ?” จี้ตงถางประหลาดใจอย่างมาก “ถ้าเผื่อนายช่วยเธอออกมาไม่ได้ แถมยังเอาตัวเองพ่วงเข้าไปด้วยอีกจะทำยังไง?”
จิ่งหลิวเยว่เม้มริมฝีปากแน่น ไม่ส่งเสียงใด
จี้ตงถางรู้ว่าเขาทรมานใจมาก จึงเอื้อมมือออกไปตบไหล่เขา พลางพูดอย่างปลอบใจ “แต่เดิมซูน่าก็ถูกนายฝึกฝนออกมาเพื่อให้ทุ่มเททำงานอย่างสุดความสามารถอยู่แล้ว ฉันว่าเธอก็คงไม่หวังให้นายไปช่วยเธอหรอก”
ถึงจะว่าอย่างนั้นก็เถอะ แต่มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีความรู้สึก อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ อย่างไรก็มีความรู้สึกต่อกันแล้ว
จิ่งหลิวเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยัดแฟลชไดรฟ์ใส่ในมือของจี้ตงถาง แล้วตัดสินใจว่า “นายช่วยฉันมอบสิ่งนี้ให้พี่เฉินที ฉันจะไปช่วยซูน่า”
พูดจบ เขาก็หันตัววิ่งออกไปทันที
จี้ตงถางอยากจะห้ามก็ห้ามไม่ทัน ทำได้เพียงถือแฟลชไดรฟ์ยืนอยู่ที่เดิม ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี
…
จิ่งหลิวเยว่มาถึงโรงแรมที่พิเอร์สพักอยู่ เข้าไปสอบถามเคาน์เตอร์แผนกต้อนรับ แต่อีกฝ่ายไม่ยินยอมเปิดเผยหมายเลขห้องของพิเอร์ส
ขณะที่เขากำลังจะไล่ถามต่อ จู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
หยิบออกมาดูเห็นเป็นซูน่า
เขารีบหยิบขึ้นมากดรับสาย ยังไม่ทันได้เปิดปาก ก็มีเสียงสำเนียงแปลกๆ ดังสะท้อนมาจากปลายสาย “คุณจิ่ง สวัสดีครับ”
“พิเอร์ส?” จิ่งหลิวเยว่เอ่ยปากอย่างไม่แน่ใจ
“ถูกต้อง ผมเอง ไม่รู้ว่าคุณยังจำได้ไหมว่าแฟนสาวของคุณอยู่กับผม?”
“ผมจำได้แน่นอนอยู่แล้ว” จิ่งหลิวเยว่ตอบกลับอย่างใจเย็น “นี่ผมก็มารับเธอแล้วนี่ไง”
“หือ?”
จิ่งหลิวเยว่มองไปรอบๆ ในเวลานี้ที่ล็อบบี้ของโรงแรมมีคนอยู่ไม่เยอะมาก
“ผมอยู่ชั้นล่าง ห้องของคุณหมายเลขอะไร?” เขาถามอย่างตรงไปตรงมา
“2303 ผมจะรอคุณ คุณจิ่ง”
จิ่งหลิวเยว่วางสายโทรศัพท์ ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง ก่อนจะสาวเท้าเดินไปที่ลิฟต์
ในขณะเดียวกัน จี้ตงถางได้ติดต่อไปหาหยุนโม่เหิง “อะเยว่บุกเดี่ยวไปช่วยซูน่า ฉันกลัวว่าจะมีอันตราย นายพาคนมาด้วยสักหน่อยเถอะ”
หยุนโม่เหิงไม่พูดให้มากความ พาคนตรงไปสมทบกับจี้ตงถางที่โรงแรมทันที
ระเบียงทางเดินมืดสลัว เงียบเชียบไร้เสียง จิ่งหลิวเยว่เดินเหยียบบนพรมไปทีละก้าวๆ เดินตรงไปยังห้อง 2303
ห้อง 2303 มีชายชาวต่างชาติรูปร่างสูงใหญ่สองคนยืนอยู่ ใบหน้าดุดัน ทันทีที่พวกเขาเห็นจิ่งหลิวเยว่ แววตาก็ฉายแววดุร้ายออกมาทันที พลางจ้องเขม็งมาที่เขา
จิ่งหลิวเยว่นิ่งสงบไม่กระวนกระวาย มุมปากฉีกยิ้มออกจางๆ “ฉันมาหาคุณพิเอร์ส ช่วยแจ้งเขาให้ฉันที”
พวกเขาไม่ได้ไปแจ้ง แต่เปิดประตูให้เขาจิ่งหลิวเยว่เลย
ดวงตาของจิ่งหลิวเยว่ฉายแสงแวบผ่านไปอย่างรวดเร็ว เขายืดหลังตรงเดินเข้าไป
พิเอร์สนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก ขาทั้งสองข้างไขว้ไว้ด้วยกัน มือหนึ่งวางไว้ที่พนักหลังโซฟา อีกมือหนึ่งวางไว้บนขา มองมาที่จิ่งหลิวเยว่ด้วยใบหน้าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม
“คุณจิ่ง พวกเราเจอกันอีกแล้วนะ” พิเอร์สพูดด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม
จิ่งหลิวเยว่พยักหน้า “ใช่ครับ เจอกันอีกแล้ว”
เขามองไปรอบๆ “แฟนของผมล่ะ?”
“ที่แท้คุณจิ่งก็ยังจำแฟนของคุณได้อยู่นี่เอง ผมนึกว่าคุณลืมไปแล้วซะอีก”
จิ่งหลิวเยว่หัวเราะเบาๆ “ผมจะลืมได้ยังไงล่ะ?”
“คืนวันนั้นพวกคุณทะเลาะกันหนักมากเลยไม่ใช่เหรอ?” พิเอร์สเลิกคิ้วขึ้น
“คู่รักทะเลาะกันก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอครับ?” จิ่งหลิวเยว่ยักไหล่ ด้วยสีหน้าท่าทีว่าเห็นเป็นเรื่องธรรมดาคุ้นเคย
“นั่นมันก็จริง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!