ทางด้านจิ้นเฟิงเฉินมาถึงซิซิลีประเทศอิตาลีแล้ว
เห้อซูหานมารับเขาที่สนามบิน ทันทีที่ขึ้นรถ เขาก็เอ่ยถามขึ้นทันทีว่า “หาสถาบันวิจัยของศาสตราจารย์คูรี่เจอแล้วหรือยัง?”
“ยังเลยครับ” เห้อซูหานเหลือบมองจิ้นเฟิงเฉินในกระจกมองหลังปราดหนึ่ง แล้วพูดต่อว่า “พวกเราสงสัยว่าศาสตราจารย์คูรี่กับทีมของเขาอาจจะไม่ได้อยู่ในอิตาลี”
จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว “ยังไง”
“เพราะพวกเราค้นหามาหลายที่มาก จนแทบจะพลิกหาทั้งอิตาลีแล้ว แต่ก็ไม่เจอศาสตราจารย์คูรี่เลย”
“ดังนั้นพวกนายเลยสงสัยว่าจะไม่ได้อยู่ในอิตาลี?”
เห้อซูหานพยักหน้า “ใช่ครับ”
จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย “ที่ที่อันตรายที่สุด คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด บางทีก็อาจจะอยู่ใกล้ๆ”
“คุณชาย คุณหมายถึงว่าอาจจะอยู่ใกล้ๆ กับสถาบันวิจัยเหล่านั้น?”
“พวกนายลองหาอย่างละเอียดดูอีกครั้ง คงจะพบเห็นอะไรบ้าง” จิ้นเฟิงเฉินกล่าว
“ครับ หลังจากส่งคุณถึงโรงแรมแล้ว ผมจะรีบไปตรวจสอบทันที”
หลังจากนั้นภายในรถก็เงียบลง
จิ้นเฟิงเฉินเอนตัวพิงพนักหลัง หลับตาลงพักผ่อน
เห้อซูหานเหลือบมอง ก่อนจะปรับแอร์ในรถเพิ่มขึ้นอย่างเงียบๆ
เมื่อมาถึงโรงแรม เห้อซูหานเอากระเป๋าเดินทางเข้าไปเก็บไว้ในห้องพัก แล้วกลับออกไปทันที
จิ้นเฟิงเฉินเดินไปนั่งที่โซฟา รอบด้านเงียบสงัด เขาเงียบและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรออก
ปลายสายกดรับสายอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยเสียงที่ดังสะท้อนขึ้นอย่างสงสัย “จิ้นเฟิงเฉิน ทำไมถึงมีเวลาติดต่อมาหาฉันล่ะ?”
“ฉันอยู่ที่อิตาลี” คำพูดถูกพ่นออกจากริมฝีปากบาง
“นายอยู่อิตาลี? นายอย่ามาโกหกฉันนะ!” คนทางนั้นแสดงออกว่าไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด
จิ้นเฟิงเฉินลุกขึ้น เดินไปที่ริมหน้าต่าง กวาดมือเปิดผ้าม่านออก แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาภายในพริบตา เขามองดูวิวบนถนนด้านนอก มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย
“ชีซา สนใจร่วมงานกับฉันไหม?”
…
ชีซาวางสายโทรศัพท์ ขับรถไปถึงที่โรงแรมรวดเร็วดุจสายลม
โชคดีที่ตอนนี้มีรถไม่มากนัก บนท้องถนนมีรถอยู่ไม่มาก ใช้เวลาเพียงสิบกว่านาทีก็ขับถึงโรงแรมแล้ว
ตอนที่จิ้นเฟิงเฉินเปิดประตูออกมาเห็นเธอ เขาก็แปลกใจเล็กน้อย “ทำไมเธอเคลื่อนไหวเร็วขนาดนี้?”
“คนอย่างนายมาถึงที่อิตาลีทั้งที ในฐานะเพื่อนเก่าของนาย ยังไงก็ต้องรีบมาดูนายหน่อยสิ”
จิ้นเฟิงเฉินเลิกคิ้ว ไม่ได้รับคำต่อ
เขาเดินมานั่งที่โซฟา ขาเรียวยาวไขว้เข้าหากัน ปล่อยร่างจมลงในโซฟา แผ่กระจายไอความเหนื่อยหน่ายเฉื่อยชาออกมารอบๆ ตัว
ชีซาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เดินไปนั่งตรงข้ามเขา ริมฝีปากแดงโค้งขึ้น “ว่ามาสิ นายมาอิตาลีครั้งนี้มาทำอะไร?”
“เธออยากดื่มอะไรหยิบเองเลยนะ”
เมื่อจู่ๆ จิ้นเฟิงเฉินก็พูดประโยคนี้ขึ้นมา ชีซานิ่งอึ้งไป ก่อนจะได้สติและส่ายหน้าพลางหัวเราะออกมา “นิสัยตอบไม่ตรงคำถามของนายนี่นะ ยอมนายเลยจริงๆ”
ขณะที่พูดเธอก็ลุกขึ้นเดินไปที่บาร์ด้านข้าง พลางเอ่ยถาม “นายอยากดื่มอะไร?”
“กาแฟ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ชีซาจึงหันกลับมามองเขาปราดหนึ่ง “นายกินข้างแล้วหรือยัง?”
“ยัง”
“ไม่กินข้างแล้วยังจะกล้าดื่มกาแฟอีก กระเพาะนายไม่อยากมีแล้วหรือไง?”
ชีซาช่วยอุ่นนมให้เขาหนึ่งแก้ว และชงกาแฟให้ตัวเองอีกหนึ่งแก้ว
“เอาไป ดื่มนมเลย” ชีซายื่นนมให้เขา
“นายน่ะ ต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ ไม่อย่างนั้นเมียนายที่อยู่จีนจะเป็นห่วงเอาได้” ชีซานั่งลง พูดกึ่งล้อเล่นกึ่งจริงจัง
“ขอบใจ” จิ้นเฟิงเฉินดื่มนมลงไป
ชีซามองเขา “ตอนนี้นายจะบอกฉันได้หรือยัง ว่านายมาที่อิตาลีคิดจะทำอะไรกันแน่?”
จิ้นเฟิงเฉินเหลือบตาขึ้นมองเธอ “อยากรู้?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!