อ่านสรุป บทที่ 106 ไม่ใช่แฟน จาก ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว
บทที่ บทที่ 106 ไม่ใช่แฟน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เมียวเมียว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่ 106 ไม่ใช่แฟน
เจียงสื้อสื้อหันหลังไป เป็นอย่างที่คิด จิ้นเฟิงเฉินยืนอยู่ด้านหลัง
เธอพูดอย่างอึดอัดใจว่า “บังเอิญจังเลยนะคะ”
ใครจะเข้าใจความรู้สึกตอนนี้ของเจียงสื้อสื้อ เธอแทบอยากจะตายอยู่ตรงนั้น เธอตื่นเช้าขนาดนั้น ยังให้บริษัทLGเลือกร่วมงานกับบริษัทอื่น ก็เพื่อที่จะหลบหน้าจิ้นเฟิงเฉิน
ใครจะคาดคิด ว่ายังจะมาเจอกันที่ร้านนี้เอง เขายังได้ยินที่เธอคุยกันอีก
จิ้นเฟิงเฉินใส่ชุดสูทสีดำ ใบหน้าหล่อเหลาสีหน้าเรียบเฉยมองมาที่เธอ เม้มปากแล้วพูดว่า “ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ได้?”
เจียงสื้อสื้อยิ้มแห้ง ๆ ตั้งสติได้แล้วก็ตอบว่า “มาคุยโปรเจคค่ะ” หยุดไปสักพัก เธอจึงแนะนำว่า “นี่คือ บริษัทLG ประธาน ประธานลู่ คุณ ลู่เจิง ลูกค้าใหม่ของบริษัทเราค่ะ”
ลู่เจิงในตอนนี้ยังอยู่ช็อกอยู่ เขารู้ว่าชายตรงหน้าคือประธานของจิ้นกรุ๊ป จิ้นเฟิงเฉิน แม้ว่าบริษัทLGจะอยู่ในระดับแถวหน้าของตลาด เมืองA โดยเฉพาะ ลู่เจิง ในช่วงหลายปีมานี้ที่รับช่วงกิจการต่อก็ได้ทำให้ผลประกอบการนั้นเติบโตขึ้นไม่รู้กี่เท่าตัว แต่ว่าจิ้นเฟิงเฉินนั้น แม้แต่เขาเองก็ยังไม่สามารถที่จะไปเปรียบเทียบได้เลย
จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตา ลู่เจิง เขารู้สึกคุ้น ๆ กับชื่อนี้
หยุดไปสักพัก เขานึกขึ้นมาได้ เมื่อวานจิ้นเฟิงเหราพูดว่ามีคนอยากได้เจียงสื้อสื้อ คนนั้นเหมือนจะชื่อลู่เจิง แล้วเขาก็ยังเป็นรุ่นพี่ของเจียงสื้อสื้อตอนมหาลัย ที่แท้ก็เป็นเขานี่เอง หยุดไปพักหนึ่ง จิ้นเฟิงเฉินพูดอย่างใจเย็นว่า “สวัสดีครับ”
ยังไงเสียก็ยังเป็นคนที่รู้จักมารยาทสังคม ลู่เจิงเมื่อได้สติ ก็ยังคงภาพลักษณ์ที่ดี ตอบกลับด้วยท่าทีดูดีว่า “สวัสดีครับประธานจิ้น ได้ยินชื่อเสียงของคุณมานาน วันนี้ได้มีโอกาสเจอแล้ว”
จิ้นเฟิงเฉินพูดเรียบ ๆ ว่า “ประธานลู่เกรงใจไปแล้ว”
ชายสองคน มาในสถานะที่ต่างกัน
ลู่เจิงมองทั้งสองคน จึงถามอย่างสงสัยว่า “ประธานจิ้นรู้จักกันกับสื้อสื้อหรือครับ?”
เจียงสื้อสื้ออึดอัด เธอพยักหน้าเบา ๆ จึงได้ยินจิ้นเฟิงเฉินพูดว่า “ใช่ครับ สนิทกันมาก”
เจียงสื้อสื้อ “???”
พวกเขาสนิทกันมากหรือ?
ลู่เจิงรู้สึกสงสัย มองไปที่เจียงสื้อสื้อถามว่า “ทำไมไม่เคยได้ยินคุณพูดถึงเลย?”
เจียงสื้อสื้อนั้นอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอด บนโลกนี้ ยังมีเรื่องที่น่าอึดอัดกว่านี้อีกไหม?
ลู่เจิงตอนนี้ถึงค่อย ๆ คิดขึ้นมาได้ว่า บริษัทจิ่นเส้อกับ จิ้นกรุ๊ปมีโปรเจคร่วมกันอันหนึ่ง เดิมเขาคิดว่าเจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉินรู้จักกันแค่ในงาน แต่ในตอนนี้ ก็ได้ยินจิ้นเฟิงเฉินหัวเราะและพูดว่า “เธอคงไม่กล้าพูด”
พูดจบ จิ้นเฟิงเฉินก็มองเจียงสื้อสื้อ ด้วยแววตากรุ้มกริ่ม
ลู่เจิงเองก็ไม่ได้โง่ เขาถึงได้รู้ว่าทั้งสองคนคงไม่ได้แค่รู้จักกันธรรมดา หยุดไปสักพัก เขาดูแววตาของเจียงสื้อสื้อนั้นก็มีอะไรแปลก ๆ
เจียงสื้อสื้อนั้นรู้สึกอึดอัดสุดขีด เธอกระแอมออกมา แล้วก็รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เอ่ยปากถามจิ้นเฟิงเฉินว่า “ประธานจิ้นก็มาคุยธุระกิจหรือคะ?”
ความหมายที่พูดก็คือ ถ้าหากเขามาคุยธุระกิจ ก็น่าจะรีบ ๆ ไปได้แล้ว
จิ้นเฟิงเฉินเม้มปาก พูดอย่างช้า ๆ ว่า “เปล่า ผมแค่มาทานข้าว”
จริง ๆ แล้ว จิ้นเฟิงเฉินนั้นมาเพื่อจะคุยธุระกิจ เขามาพร้อมกับเลขา แต่เมื่อเดินมาถึงด้านหน้าประตูก็เห็นเจียงสื้อสื้อทานข้าวกับผู้ชายคนหนึ่ง
ทั้งสองนั้นคุยไปหัวเราะไป จิ้นเฟิงเฉินไม่รู้ว่า ลู่เจิงเป็นลูกค้าของเจียงสื้อสื้อ ทั้งสองคนมาคุยธุระกิจกันอยู่
หลังเจียงสื้อสื้อไปถึงห้องน้ำ ล้างหน้าแล้วจึงสงบสติอารมณ์์ให้เย็นลงบ้าง
เธอคิดไม่ถึงว่าจะมาเจอจิ้นเฟิงเฉินที่นี่ เขายังนั่งลงทานอาหารร่วมกันกับพวกเขาอีกที่สำคัญคือ ทานข้าวก็ส่วนทานข้าว ตานี่ยังพูดอะไรที่ยังทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่าย ๆ อีก
อยากจะบอกว่า การทานอาหารมื้อนี้ช่างเป็นอะไรที่ลำบากจริง ๆ รอจบแล้วต้องรีบแยกย้ายให้เร็ว
เจียงสื้อสื้อคิดอยู่สักพัก ก็เดินออกมาเห็นจิ้นเฟิงเฉินกอดอกยืนพิงอยู่ที่กำแพง ใบหน้าหล่อดุจปีศาจนั่นช่างยากที่จะหาใครเปรียบได้ ทั้งเนื้อทั้งตัวนั้นดูดีสมาร์ทมาก ๆ ดวงตาคมเข้มคู่นั้น เหมือนใครที่ได้มองแล้วก็ต้องให้ถลำลึกลงไป
ทำไมเขามาอยู่ที่นี่ ใจของเจียงสื้อสื้อเต้นตึกตัก บอกกับตัวเองว่า จิ้นเฟิงเฉินต้องมารอเธอแน่ ๆ
นาทีนั้นเจียงสื้อสื้ออยากจะเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำ แต่ว่าจิ้นเฟิงเฉินมองเห็นเธอแล้ว
ผู้หญิงหลายคนที่เดินอยู่หน้าเธอต่างก็แอบมองจิ้นเฟิงเฉิน สายตาเหล่านั้นล้วนแฝงไปด้วยความชื่นชอบ เจียงสื้อสื้อก็ได้ยินที่พวกเธอแอบคุยกัน
“ผู้ชายคนนั้นหล่อจังเลย! อยากจะไปขอวีแชตเขาจังเลย!”
“ไปสิ ไปสิ สู้ ๆ นะ!”
หญิงสาวในชุดเดรสสีขาวที่กำลังคิดจะเดินเข้าไป ก็เห็นจิ้นเฟิงเฉินเดินมา แล้วก็พูดกับเจียงสื้อสื้อที่เดินตามพวกเธอมาว่า “ผมรอคุณอยู่นานแล้ว”
ผู้หญิงพวกนั้นมองมาที่เจียงสื้อสื้อ ทั้งอิจฉาทั้งเกลียดทั้งชัง ยังมีคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “ที่แท้ก็มารอแฟนหรอกหรือ”
เอ๊ะ ไม่ใช่ แฟนอะไรกัน!
เจียงสื้อสื้ออยากจะอธิบาย แต่ว่าพวกเธอก็เดินจากไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!