ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 1085

สรุปบท บทที่1085 เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

อ่านสรุป บทที่1085 เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง จาก ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

บทที่ บทที่1085 เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เมียวเมียว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ในรถนั้นเงียบไม่มีซุ่มเสียง

จิ้นเฟิงเฉินหลับหลับตาอยู่ ใบหน้าที่หล่อเหลาเย็นชาของเขาสงบและเรียบเฉย ไม่มีทีท่าร้อนรนเลยแม้แต่น้อย

เบอร์เกนขำออกมาทีหนึ่ง “คุณจิ้นคุณเป็นคนที่น่าทึ่งมาก ทั้งที่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ยังสามารถใจเย็นได้อยู่”

ไม่มีการตอบสนองใดๆ

เบอร์เกนก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร และพูดต่อไปว่า "ครั้งนี้ที่ผมเชิญคุณจิ้นมาเป็นแขกที่บ้าน ผมหวังว่าคุณจะพักอยู่ที่นี่สักพักนะครับ ผมจะดูแลคุณเป็นอย่างดีเลย"

ถ้าจะพูดให้ฟังดูดีก็คือการเชิญเขาเป็นแขก แต่ในความเป็นจริงนั้นคือการจับเขามาขังไว้

จิ้นเฟิงเฉินค่อยๆลืมตาขึ้น ริมฝีปากบางๆของเขาเปิดออกเล็กน้อย "การที่คุณเบอร์เกนทำแบบนี้ ไม่กลัวที่จะเป็นศัตรูกับตระกูลจิ้นเหรอครับ?"

"กลัวครับ ก็ต้องกลัวอยู่แล้ว"

เบอร์เกนยอมรับอย่างตรงไปตรงมา "แต่มันก็แค่เวลาไม่กี่วันเท่านั้น เมื่อการทดลองของศาสตราจารย์คูรี่เสร็จสิ้น ผมก็จะปล่อยคุณไปเอง"

เมื่อได้ยินแบบนั้น ดวงตาของจิ้นเฟิงเฉินก็รัดกุมขึ้นทันที และเตือนเขาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ถ้าคุณกล้าทำร้ายสื้อสื้อแม้แต่นิดเดียว ผมไม่มีวันปล่อยคุณไป แน่”

“ฮ่าฮ่า...” เบอร์เกนหัวเราะออกมาเสียงดัง “ไม่ต้องกังวลไปครับ ผมจะคืนเธอให้คุณอย่างครบถ้วนสมบูรณ์เลยครับ”

จิ้นเฟิงเฉินทำหน้าเคร่งขรึม ดวงตาสีเข้มดำของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น มือสองข้าวที่บนตักกำแน่น

เมื่อไหร่ก็ตามที่สื้อสื้อถูกพวกเขาจับไปทำการทดลอง แล้วจะให้กลับมาอย่างไร้รอยขีดข่วนก็เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด

ไม่ได้

เขาต้องหาทางหนีออกไปให้ได้

…...

เห้อซูหานกลับมาที่โรงแรมและรีบติดต่อกู้เนี่ยนที่อยู่ในประเทศทันที

“อะเนี่ยน คุณรีบส่งคนไปปกป้องคุณหญิงเดี๋ยวนี้เลย คุณต้องคุ้มกันเธอไว้ เข้าใจมั้ย?”

ไม่มีปี่มีขลุ่ยเลย กู้เนี่ยนรู้สึกสับสนไปหมด "ทำไม เกิดอะไรขึ้น?"

"เบอร์เกนส่งคนไปที่ประเทศเพื่อจับตัวคุณหญิง พวกเขาต้องการจับคุณหญิงไปเป็นตัวทดลอง"

กู้เนี่ยนเคร่งเครียดขึ้นมาทันทีเมื่อเธอได้ยินแบบนั้น "แล้วคุณชายล่ะครับ?"

“คุณชาย เขา...”

เมื่อเสียงของเห้อซูหานที่ผิดปกติไป กู้เนี่ยนจึงรีบถามไปว่า “คุณชายเป็นอะไรไป? เกิดเรื่องขึ้นกับคุณชายใช่มั้ย?”

“เพื่อช่วยผมกับคุณชีซา คุณชายเขายอมไปกับเบอร์เกนแล้ว”

“เห้อซูหาน!” กู้เนี่ยนโกรธมาก “คุณปกป้องคุณชายยังไงของคุณ? คุณปล่อยให้คุณชายต้องเอาตัวเข้าไปเสี่ยงได้ยังไง?!”

“ผมขอโทษ ผมมันไม่มีประโยชน์เอง”

กู้เนี่ยนหายใจเข้าลึก ๆ "ผมจะปกป้องคุณหญิงเอง แต่คุณต้องหาวิธีช่วยคุณชายออกมาให้ได้ เข้าใจมั้ย?"

"เข้าใจแล้วครับ"

หลังจากวางสาย กู้เนี่ยนก็รีบบอกเรื่องนี้ให้จิ้นเฟิงเหรารู้

สีหน้าของจิ้นเฟิงเหราเปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยินแบบนั้น "เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง?"

“คุณชายรอง ผมจะไปช่วยคุณชายที่อิตาลี เรื่องคุณหญิงต้องรบกวนคุณแล้วครับ”

กู้เนี่ยนรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเห้อซูหานเลยจริงๆ เขาต้องการไปช่วยจิ้นเฟิงเฉินด้วยตนเอง

“คุณพาคนไปเยอะหน่อย ไม่ว่ายังไงก็ต้องช่วยพี่ออกมาให้ได้” จิ้นเฟิงเหราพูดกับเขาอย่างเคร่งขรึม

กู้เนี่ยนพยักหน้า "คุณไม่ต้องเป็นห่วง ผมต้องพาคนกลับมาได้อย่างแน่นอนครับ"

จิ้นเฟิงเหราตบไหล่เขา “ผมเชื่อคุณ ส่วนเรื่องพี่สะใภ้ ผมจะส่งคนไปปกป้องเธอให้เยอะๆเลย คุณไปอิตาลีอย่างสบายใจได้เลย”

“ขอบคุณครับคุณชายรอง”

กู้เนี่ยนโค้งคำนับด้วยความเคารพ แล้วเดินจากไป

จิ้นเฟิงเหราคิดอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจเดินทางไปที่เมืองหลวงด้วยตัวเอง

ก่อนที่พี่ชายของเขาจะกลับมา เขาต้องปกป้องพี่สะใภ้เอาไว้ให้ได้ เขาไม่มีทางให้เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้นเด็ดขาด

…...

เจียงสื้อสื้อทำตามคำพูดของจิ้นเฟิงเฉิน เธอพยายามไม่ออกไปไหน แต่เด็กน้อยที่ซุกซนและไร้เดียงสาทั้งสองจะทนอยู่บ้านได้อย่างไรล่ะ?

แน่นอนว่าต้องไม่ไหวอยู่แล้ว ตอนนี้สองคนนั้นก็กำลังงอแงให้เธอพาพวกเขาออกไปเที่ยวเล่นอยู่เนี่ย

“ของเล่นในบ้านมากมายขนาดนี้ ยังไม่พอเล่นอีกเหรอ?” เธอมองดูเสี่ยวเป่าและเถียนเถียนอย่างจนปัญญา

เหลียงซินเวยยิ้มออกมาทันที เธอเอื้อมมือไปลูบหัวของพวกเขา "เด็กดี"

จากนั้น เธอก็ดึงเด็กชายตัวเล็กข้างเธอเข้ามา " อานอาน รีบเรียกคุณน้าเร็ว แล้วก็…... พี่ชายกับน้องสาว"

“คุณน้าสวัสดีครับ สวัสดีครับพี่ชาย สวัสดีจ้ะน้องสาว” อานอานทักทายทุกคนด้วยความว่าง่าย

“อานอาน สวัสดีจ้ะ” เจียงสื้อสื้อมองเขาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

อานอานซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเหลียงซินเวยด้วยความเขินอาย

เหลียงซินเวยขอโทษพร้อมรอยยิ้ม “เขาเป็นคนค่อนข้างเก็บตัว ถ้าคุ้นเคยแล้วก็จะดีขึ้นเอง”

“ไม่เป็นไร เรารีบนั่งลงเถอะ”

ผู้ใหญ่สองคนกับเด็กสามคนนั่งล้อมรอบโต๊ะ

“ฉันจะสั่งอาหาร อยากกินอะไรกันบ้าง?”

พอเจียงสื้อสื้อถามออกมาแบบนั้น เสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนก็ตะโกนออกมาทันทีว่า "ผม/หนูอยากกินแฮมเบอร์เกอร์กับเฟรนซ์ฟรายส์ครับ/ค่ะ"

“โอเค แฮมเบอร์เกอร์กับเฟรนซ์ฟรายส์” เจียงสื้อสื้อมองไปที่อานอาน แล้วถามไปอย่างอ่อนโยนว่า “แล้วอานอานล่ะจ้ะ?”

“เหมือนกันครับ” อานอานตอบอย่างเขินอาย

“รอฉันด้วยแปบหนึ่งนะ” เจียงสื้อสื้อหันหลังแล้วเดินไปสั่งอาหาร

ตอนแรกอานอานก็เขินและเก็บตัวมาก แต่หลังจากเถียนเถียนที่แสดงความปรารถนาดีครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่นานทั้งสองฝ่ายก็คุ้นเคยกันและสามารถเล่นด้วยกันได้

เหลียงซินเวยมองดูพวกเขาอย่างเงียบๆ รอยยิ้มจางๆ ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอ

ไม่มีใครสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงหัวมุมของร้านเลย เธอสวมแว่นดำ และจ้องตรงมาที่พวกเธอผ่านแว่นที่สวมอยู่

“คุณข่ายสื้อ เราจะลงมือกันเมื่อไหร่คะ?” หูฟังที่เธอสวมอยู่จู่ๆก็ดังขึ้น

เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย มุมปากของเธอก็แย้มขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน “นี่พวกคุณโง่กันใช่มั้ย ที่นี่คนเยอะจะตายแล้วจะให้ลงมือได้ยังไง?”

อีกฝ่ายเงียบไปทันที

ข่ายสื้อลินหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา แล้วถ่ายรูปเด็กๆและเจียงสื้อสื้อไปสองสามรูป แล้วส่งพวกมันทั้งหมดให้ฝู้จิงเหวิน

และไม่ลืมที่จะเพิ่มไปหนึ่งประโยคว่า พวกเธอดูมีความสุขมากเลยนะคะ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!