เพื่อนๆของเย่เสี่ยวอี้ล้วนเป็นคนที่รักสนุกเฮฮา พอได้ยินว่าฟางยู่เชินเป็นแฟนของเย่เสี่ยวอี้ ก็พากันดื่มอวยพรให้เขา
เขาไม่ชินกับการดื่มตอนท้องว่าง หลายแก้มดื่มลงท้องไป กระเพาะก็เริ่มจะไม่ค่อยสบายเล็กน้อย
“ผมไม่ใช่แฟนของเย่เสี่ยวอี้”
ฟางยู่เชินวางแก้วลง มือกดอยู่ที่ท้อง เอ่ยปากอธิบาย
“ไม่ใช่แฟนเหรอ” ทุกคนต่างหันไปถามเย่เสี่ยวอี้
สีหน้าเย่เสี่ยวอี้ดูแย่เล็กน้อย รีบพูดว่า “พวกเราสองตระกูลก็ต้องเกี่ยวดองกัน เขาไม่ใช่แฟนของฉันจริงๆ เป็นว่าที่สามีถึงจะถูก”
“เกี่ยวดองเหรอ” ฟางยู่เชินขมวดคิ้วแน่น “ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่องนี้เลย”
“คือ……คุณลุงคุณป้าอาจจะลืมบอกคุณ” เย่เสี่ยวอี้เองก็คาดไม่ถึงว่าเขาจะไม่รู้เรื่องนี้ จึงสับสนมึนงงอยู่บ้างตอนนั้น
“จริงเหรอ”
ฟางยู่เชินคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย สีหน้าเย็นยะเยือก “ผมรู้สึกไม่สบายนิดหน่อย ออกไปสูดอากาศแป๊บนึง”
พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป
“ยู่เชิน” เย่สี่ยวอี้รีบตามไป
“ผมอยากอยู่คนเดียว ไม่ต้องตามผมมา”
ได้ยินเสียงฝีเท้าตามมาด้านหลัง ฟางยู่เชินก็เอ่ยขึ้นโดยไม่หันไม่มอง
เย่เสี่ยวอี้กลัวว่าจะทำให้เขาโกรธ จึงได้แต่หยุดฝีเท้า มองเขาเดินไกลออกไปตาปริบๆ
กลับมาที่ด้านในคฤหาสน์ เพื่อนของเธอก็ล้อมเข้ามาทันที
“เสี่ยวอี้ เขาเป็นว่าที่สามีของเธอจริงเหรอ ทำไมฉันรู้สึกว่าเขาไม่ชอบเธอเลยนะ”
“ใช่ ดูแล้วเย็นชามาก”
“พวกเธอจะไปรู้อะไร เดี๋ยวนี้ผู้ชายที่เก่งๆก็ล้วนค่อนข้างหยิ่งทระนง ไม่แน่ว่าเขากับเสี่ยวเย่อาจจะรักกันปานจะกลืนกินก็ได้นะ”
เพื่อนๆต่างพากันพูดไปต่างๆนานา เย่เสี่ยวอี้รำคาญจนทนไม่ไหว บวกกับฟางยู่เชินที่เย็นชากับเธอมากจริงๆ ในใจเธอก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดทรมาน
“พอแล้ว! หุบปากให้หมด!”
เย่เสี่ยวอี้กวาดตามองเพื่อนๆที่อยู่ล้อมรอบตนเองอย่างไม่พอใจ “นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน พวกเธอไม่ต้องพูดมาก”
ไม่ว่าฟางยู่เชินจะคิดกับเธออย่างไร คนนอกก็ไม่มีสิทธิ์จะมายุ่งวุ่นวาย
……
ในที่สุดก็ทำเสร็จแล้ว
เหลียงซินเวยมองถาดอาหารบุฟเฟ่ต์แต่ละอย่างมากมายละลานตา ก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย
เธอยกมือขึ้นมาลูบท้อง “หิวจัง”
“นี่ กินขนมปังรองท้องก่อน” เพื่อนร่วมงานยื่นขนมปังมาให้ชิ้นหนึ่ง
“ขอบคุณ” เหลียงซินเวยยิ้มอย่างซาบซึ้งให้เธอ
“ไปกินข้างหลังเถอะ ไม่งั้นถูกเห็นเข้าก็จะถูกว่าอีก” เพื่อนร่วมงานชี้ไปที่สวนดอกไม้ด้านหลังคฤหาสน์ “ฉันจะคอยดูอยู่ที่นี่ มีเรื่องอะไรค่อยเรียกเธอ”
“ได้”
เหลียงซินเวยถือขนมปังเดินไปทางสวนดอกไม้ด้านหลังคฤหาสน์
มันแตกต่างจากความคึกคักด้านหน้าอย่างสิ้นเชิง ในสวนนั้นเงียบมาก มีไฟถนนเพียงไม่กี่ดวงเปิดอยู่ แสงก็มืดสลัวเล็กน้อย ทำให้ยิ่งดูเปลี่ยววังเวง
เหลียงซินเวยมองไปรอบๆ อยากจะหาที่นั่ง ทันใดนั้นร่างที่นั่งอยู่บนม้านั่งยาวไม่ไกลก็ดึงดูดความสนใจของเธอไป
ทำไมถึงมีคนอยู่ที่นี่
เธอค่อยๆย่องเข้าไปดู เห็นแค่ว่าคนผู้นั้นแหงนหน้า มองไม่เห็นหน้า
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความรู้สึกคุ้นเคยพุ่งเข้ามา
คิ้วขมวดเล็กน้อย เธอลองเรียกดู “คุณฟางเหรอคะ”
ทันใดนั้นเสียงขลาดกลัวดังขึ้นข้างหู มีความคุ้นเคยเล็กน้อย
ฟางยู่เชินรีบนั่งตัวตรง พอเห็น ว่าเป็นเหลียงซินเวย
มุมปากก็กระดกขึ้นโดยไม่รู้ตัว “ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้”
เหลียงซินเวยยิ้มอย่างเขินอาย “ฉันหิวแล้ว ก็เลยแอบมากินตรงนี้ค่ะ”
ฟางยู่เชินสังเกตเห็นขนมปังในที่เธออยู่ในมือ ยักคิ้วพูดว่า “อย่างนั้นก็นั่งกินตรงนี้เถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!