เย่เฉินหยุนส่งเหลียงซินเวยถึงบ้าน ก็จากไปทันที
เหลียงซินเวยมองรถของเขาขับไกลออกไป จนกระทั่งมองไม่เห็นจึงหมุนตัวขึ้นชั้นบน
พอได้ยินเสียงเปิดประตู อานอานก็รีบวิ่งมาทันที
“แม่ครับ แม่กลับมาแล้วเหรอครับ”
เหลียงซินเวยหัวเราะเบาๆ “อืม แม่กลับมาแล้ว”
อานอานมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพินิจพิจารณา บนใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “แม่ครับ นี่เป็นชุดที่แม่ซื้อมาใหม่เหรอครับ”
เหลียงซินเวยก้มหน้ามองเสื้อผ้าที่ตนเองสวมอยู่ ยิ้มพลางส่ายหน้า “ไม่ใช่จ้ะ ชุดของแม่เลอะ นี่เป็นชุดที่คนอื่นให้แม่ยืมใส่จ้ะ”
“อ๋อ” อานอานพยักหน้าอย่างผิดหวังเล็กน้อย “ผมคิดว่าแม่รู้จักซื้อเสื้อผ้าสวยๆมาให้ตัวเองแล้วเสียอีก”
ได้ยินดังนั้น เหลียงซินเวยกลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่ “ลูกคนนี้ เสื้อผ้าของแม่ไม่สวยเลยเหรอจ้ะ”
“ไม่ใช่ไม่สวย แต่มันเชยนิดหน่อย” อานอานก็ยังตอบคำถามของเธออย่างจริงจัง
“เอาละ แม่ทำงานในร้านอาหาร ไม่ใช่ทำงานในอาคารสำนักงาน ไม่ต้องใส่เสื้อผ้าสวยทันสมัยมากมายหรอกจ้ะ”
เหลียงซินเวยโอบเขาเดินมานั่งที่ห้องรับแขก หันมามองเขาอย่างจริงจัง “ทำการบ้านเสร็จแล้วเหรอ”
อานอานพยักหน้า “อืม ทำเสร็จแล้วครับ”
“เป็นเด็กดีจริงๆ” เหลียงซินเวยลูบศีรษะเขา มองเครื่องหน้าของเขาที่คล้ายกับพี่สาวอยู่บ้าง ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดและเจ็บปวด
บางครั้งที่เธอทำงานกะดึก ดึกมากจึงจะกลับบ้านได้ เขาก็ต้องอยู่บ้านเพียงคนเดียว
เขาอายุแค่แปดขวบ ก็ถูกบีบบังคับให้ต้องเรียนรู้หลายเรื่อง
อย่างเช่นอุ่นข้าวและกับข้าวด้วยตนเอง ล้างจานชามด้วยตนเอง
เมื่อเทียบกับเสี่ยวเป่าและเถียนเถียนแล้ว เขาก็เหมือนกับผู้ใหญ่คนหนึ่ง
“แม่ครับ แม่เป็นอะไรครับ” อานอานเห็นเธอจ้องตนเองไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร ก็เลยเอ่ยถามออกมา
เหลียงซินเวยตั้งสติกลับมาได้ ยิ้ม แล้วพูดว่า “ไม่มีอะไรจ้ะ”
เธอลูบศีรษะเขาอีก อยู่ดีๆ ก็ไม่รู้ว่าเป็นภาพลวงตาหรืออะไร รู้สึกว่าเขากับคุณเย่คนนั้นคล้ายกันอยู่บ้าง
ความคิดนี้น่าตกใจจนเธอรีบส่ายหน้า จะเหมือนคุณเย่คนนั้นได้อย่างไรกันนะ ต้องเป็นเพราะวันนี้ตนเองได้รับความตื่นตกใจแน่นอน ในหัวสมองจึงได้สับสนฟุ้งซ่านนิดหน่อย
อานอานเห็นเธอส่ายหน้าและบ่นพึมพำอีก ก็ขมวดคิ้วไม่หยุด “แม่ครับ แม่ไม่สบายหรือเปล่าครับ”
“แม่ไม่เป็นไร ลูกรีบไปนอนเถอะ” เหลียงซินเวยผลักเขาไป
อานอานยิ่งขมวดคิ้วแน่น สายตาที่มองเธอยิ่งเพิ่มความสงสัยมากขึ้น “ตอนนี้เพิ่งจะสามทุ่มกว่า อีกทั้งพรุ่งนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์”
“จริงด้วย” เหลียงซินเวยเพิ่งจะนึกออกว่าพรุ่งนี้เป็นวันหยุด
“แม่ครับ พวกเราไปเล่นกับเสี่ยวเป่าและเถียนเถียนได้มั้ยครับ” อานอานถามอย่างระมัดระวัง
เห็นท่าทางคาดหวังของเขา เหลียงซินเวยครุ่นคิด “แม่โทรไปถามคุณน้าสื้อสื้อของลูกก่อนนะ ถ้าได้ พวกเราค่อยนัดเสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนออกมา ดีมั้ย”
อานอานพยักหน้าแรงๆ “ดีครับ”
……
เพราะฟางยู่เชินได้กำชับเอาไว้เป็นพิเศษ ว่าช่วงนี้ให้เจียงสื้อสื้อพยายามไม่ออกจากบ้าน
ดังนั้นเมื่อเธอรับโทรศัพท์ของเหลียงซินเวย ก็ได้แต่ปฏิเสธอย่างจนปัญญา “เวยเวย ขอโทษด้วยนะ ช่วงนี้ฉันออกจากบ้านไม่ได้ ดังนั้น……”
“ไม่เป็นไร รอให้คุณว่างก่อน พวกเราค่อยนัดกัน”
แม้ว่าเหลียงซินเวยจะพูดขนาดนี้แล้ว แต่เจียงสื้อสื้อก็ยังรู้สึกไม่ดีอยู่ จึงเอ่ยข้อเสนอว่า “ไม่อย่างนั้นเธอพาอานอานมาเล่นที่บ้านตระกูลฟาง เป็นยังไง”
ปลายสายทางนั้นนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เสียงของเหลียงซินเวยจึงดังขึ้นมาอีกครั้ง “ไม่ต้องหรอกค่ะ ต่อไปมีโอกาสค่อยนัดกัน”
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว “ทำไมเหรอ”
รู้สึกเหมือนว่าการมาที่บ้านตระกูลฟางจะเป็นเรื่องที่ต้องต่อต้าน
“ไม่มีอะไร รู้สึกว่าจะเป็นการรบกวนคุณน้าฟางกับพวกเขามากเกินไป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!