เจียงเจิ้นรีบอธิบายไป “เสว่มั่น ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น ผมรู้ว่าต่อให้ผมพูดขอโทษสักหมื่นครั้ง ก็ไม่สามารถลบล้างความเจ็บปวดที่เคยทำไว้กับคุณและสื้อสื้อได้”
“คุณรู้แบบรู้ก็ดีแล้ว”
ฟางเสว่มั่นก็ไม่อยากพูดอะไรมาก จึงพูดไปว่า “คุณไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เข้ามานั่งเถอะค่ะ ฉันยังกินข้าวเช้าไม่เสร็จเลย”
เจียงเจิ้นขยับปาก ยังอยากพูดอะไรอีก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ได้แต่เดินไปนั่งลง
ในห้องเงียบลงอีกครั้ง ฟางเสว่มั่นกินอาหารเช้าไปอย่างเงียบๆ เจียงเจิ้นก็นั่งมองเธออย่างเงียบๆ บรรยากาศดูเข้ากันอย่างน่าแปลก
เจียงสื้อสื้อแอบเปิดประตูเข้ามาดู เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นข้างใน ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ จากนั้นก็ค่อยๆ ปิดประตูลง
“ทำอะไรน่ะ?”
จากนั้น จู่ๆ เสียงที่ดังขึ้นก็ทำเธอตกใจจนสะดุ้ง เธอหันไปตบใส่ตัวของฟางยู่เชิน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดีว่า “พี่คะ นี่พี่ตั้งใจจะทำให้ฉันตกใจตายรึไงคะ?”
ฟางยู่เชินเลิกคิ้วขึ้น “ก็ฉันเห็นเธอทำตัวลับๆ ล่อๆอยู่นี่ กำลังทำอะไรอยู่เหรอ?”
“พ่อฉันมาค่ะ” เจียงสื้อสื้อชี้ไปที่ห้องคนไข้ “เราไม่ต้องเข้าไปรบกวนพวกเขาแล้วค่ะ”
“พ่อเธอมาอย่างนั้นเหรอ?” ฟางยู่เชินขมวดคิ้ว “แบบนี้มันไม่ได้นะ พ่อกับแม่ฉันเคยบอกแล้วนี่ว่าห้ามผู้ชายคนนั้นเข้าใกล้เธอกับคุณป้าอีก”
ระหว่างที่พูด เขาก็จะเดินไปเปิดประตู
เจียงสื้อสื้อรีบห้ามเขาไว้ก่อน ลากเขาไปข้างๆ แล้วพูดออกมาด้วยความรำคาญว่า “แม่ของฉันนั้นยังไม่เคยปล่อยวางเรื่องของพ่อได้เลย ตอนนี้เขามาแล้ว แบบนี้สองคนนั้นก็จะได้คุยกันดีๆ สักที”
“แต่ว่าเขา……”
ฟางยู่เชินอยากพูดว่าเจียงเจิ้นเคยทำเรื่องที่ทำร้ายพวกเธอถึงขนาดนั้น แล้วพวกเธอไปให้อภัยเขาง่ายๆ แบบนั้นได้ยังไง?
เจียงสื้อสื้อรู้ว่าเขาอยากพูดอะไร จึงได้ชิงพูดไปก่อนว่า “พี่ไม่ต้องเป็นห่วง เราไม่ได้ให้อภัยเขา เราแค่ปล่อยวางเท่านั้นค่ะ”
“แต่การปล่อยให้เขาอยู่กับคุณป้าตามลำพังแบบนี้ มันจะดีเหรอ?” ฟางยู่เชินรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ
เจียงสื้อสื้อหัวเราะออกมา “พี่ไม่ต้องเป็นห่วงไป เขาไม่มีทางทำร้ายแม่อีกแล้ว”
ในจุดนี้ เธอค่อนข้างมั่นใจในตัวเจียงเจิ้นเลย
ฟางยู่เชินจึงได้เบาใจลง “งั้นก็ดี แล้วเราจะกลับบ้านเลยมั้ย?”
“อืม กลับบ้านกันเถอะ ฉันยังต้องไปเจอเบอร์เกนอีกไม่ใช่เหรอคะ?”
“มันไม่ใช่วันนี้สักหน่อย”
เจียงสื้อสื้อเหลือบมองเขา “ไม่ใช่วันนี้ เราก็ต้องเตรียมการไว้ก่อนนี่คะ”
ฟางยู่เชินพยักหน้า “ก็จริง งั้นเรากลับกันเถอะ”
“ค่ะ”
เจียงสื้อสื้อหันมองไปยังประตูห้องคนไข้ที่ปิดอยู่ ยิ้มออกมาที่มุมปาก ขอให้พวกเขาคุยกันดีๆ นะ
……
ฟางยู่เชินส่งเจียงสื้อสื้อกลับบ้าน จากนั้นก็ไปที่บริษัท
พอเจียงสื้อสื้อเดินเข้าวิลล่า เด็กน้อยทั้งสองก็รีบวิ่งเข้ามาทันที
“หม่ามี๊ หม่ามี๊ไปเยี่ยมคุณยายมาเหรอคะ?” เถียนเถียนถามอย่างอ้อแอ้
เจียงสื้อมื้อนั่งลงไป ช่วยเธอจัดเสื้อกันหนาวที่ยังใส่ไม่เรียบร้อย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “ใช่จ้ะ มีอะไรรึเปล่า?”
“แล้วทำไมหม่ามี๊ไม่พาพวกเราไปด้วยเหรอคะ?” เถียนเถียนเอียงหัว จ้องมองเธออย่างไม่เข้าใจ
“เพราะว่ามันเช้ามากไงจ้ะ พวกหนูยังไม่ตื่นเลย หม่ามี๊เลยไม่ได้พาพวกหนูไปด้วยจ้ะ”
“อ๋อ แล้วต่อไปจะพาหนูกับพี่ชายไปด้วยได้มั้ยคะ? เราก็อยากไปเยี่ยมคุณยายกับตาทอดเหมือนกันค่ะ” เถียนเถียนทำปากจู๋ ตาดวงโตๆ กะพริบปริบๆ
เจียงสื้อสื้อยิ้ม “ก็ต้องได้อยู่แล้ว ถึงตอนนั้นหม่ามี๊จะบอกพวกหนูอีกทีนะ”
“ดีจังเล๊ย!” เถียนเถียนปรบมือด้วยความดีใจ เสี่ยวเป่าที่อยู่ข้างๆ ก็ยิ้มออกมาเหมือนกัน
เจียงสื้อสื้อเอามือลูบหัวเด็กทั้งสองคน มองไปรอบๆ แล้วถามไปว่า “แล้วคุณยายล่ะ?”
“คุณยายบอกว่าจะออกไปซื้อส่วนผสมของคุ๊กกี้ครับ” เสี่ยวเป่าตอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!