ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 1164

สรุปบท บทที่​1164 ความหวังอันริบหรี่​: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

บทที่​1164 ความหวังอันริบหรี่​ – ตอนที่ต้องอ่านของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

ตอนนี้ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่​1164 ความหวังอันริบหรี่​ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“คุณ​จะไม่พาเธอไปเหรอ” จิ้นเฟิงเหรามองเบอร์​เกนอย่างประหลาด​ใจ​

เขาไม่เชื่อในคำพูดของเบอร์​เกน

เบอร์​เกนชำเลืองมองเขา แล้วหันกลับไป “เชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่คุณ​”

พอพูดจบ เขาก็เดินไปที่ม้านั่งตามเดิม แล้วมองไปที่ห้องผ่าตัด

จิ้นเฟิงเหรากับกู้เนี่ยนมองหน้ากัน ถึงแม้​เบอร์​เกนจะพูดอย่างนั้น แต่พวกเขาก็ยังไม่กล้าที่จะไว้วางใจ ใครจะรู้ว่าอีกฝ่ายจะจงใจหลอกพวกเขาหรือเปล่า​

“คุณชายรอง คุณ​เองก็ไปนั่งรอก่อนเถอะครับ” กู้เนี่ยนชี้ไปที่ที่นั่งข้างๆเบอร์​เกน ก่อนจะพูดกับจิ้นเฟิงเหรา

จิ้นเฟิงเหราส่ายหน้า​ “ไม่ต้องหรอก​”

การผ่าตัดใช้เวลานานกว่าสองชั่วโมงถึงจะเสร็จ​ ทันทีที่ประตูห้องผ่าตัดเปิดออก จิ้นเฟิงเหรา กู้เนี่ยน รวมถึงเบอร์​เกนต่างก็รีบเดินไปข้างหน้า​ทันที

พอหมอเดินออกไป แล้วเห็นทั้งสามคนพุ่งตัว​เข้าหา​จึงสะดุ้ง​ตกใจ แล้วก้าวถอยหลังตามสัญชาตญาณ​

“หมอครับ พี่สะใภ้ของผมเป็นยังไงบ้าง” จิ้นเฟิงเหราถามอย่างร้อนใจ

“ตำแหน่งที่ถูก​ยิงอยู่ห่างจากหัวใจประมาณสองเซนติเมตร​ ถือเป็นความโชคดี​ในความโชคร้ายเลยก็ได้ครับ” หมอพูดขณะถอดหน้ากากอนามัย​ออก

“ผู้บาดเจ็บเสียเลือดมากเกินไป หลังจากที่เราพยายาม​ช่วยชีวิต ตอนนี้​ผู้ป่วย​พ้นอันตรายแล้วครับ แต่คงต้องรอดูอาการในห้องพัก​ผู้ป่วย​ก่อนครับ”

หลังจากได้ยินคำพูดของหมอ ชายหนุ่ม​ทั้งสามก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“ขอบคุณครับคุณ​หมอ” จิ้นเฟิงเหราเอ่ยขอบคุณหมอ

“นี่เป็นหน้าที่ของพวกเราอยู่แล้ว​ครับ” คุณ​หมอหันหลังเดินกลับเข้าห้องผ่าตัดอีกครั้ง

ตอนที่​เจียงสื้อสื้อถูกส่งไปยังห้องพัก​ฟื้น ยาสลบยังไม่หมดฤทธิ์​ จึงยังคงหลับอยู่

เพราะเสียเลือดมากเกินไป ใบหน้าของเธอจึงซีดราวกับกระดาษ ไม่มีสีเลือดเลย

พอคิดถึงสองสามชั่วโมงก่อนหน้านี้ เธอยังหัวเราะและล้อเล่นกับตัวเองอยู่เลย จิ้นเฟิงเหราก็อดที่จะเศร้า​ใจขึ้นมา​ไม่ได้

“พี่สะใภ้ ขอโทษด้วยครับ ผมประมาทมากเกินไป ถึงทำให้พี่สะใภ้​ต้องเจ็บตัวแบบนี้” จิ้นเฟิงเหรากล่าวโทษตัวเอง

พวกเขามัวแต่ดีใจที่หวั่นหวั่นได้เพิ่มสมาชิกใหม่ให้กับตระกูล​จิ้น จนลืมที่จะต้อง​ปกป้องเธอไป

ถ้าพี่ชายของเขารู้ เขาคงไม่รอดอย่างแน่นอน

“คุณ​ชายรองครับ คุณ​อย่าโทษตัวเองเลย ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่ผม” กู้เนี่ยนมองเจียงสื้อสื้อที่นอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าตำหนิตัวเอง

จิ้นเฟิงเหราเหลือบมองด้านข้าง ก่อนจะยกมือขึ้นมาตบไหล่เขาเบาๆ “เอาล่ะ เราต้องรับผิดชอบทั้งคู่​”

จากนั้นเขาก็หันไปมองเบอร์​เกน “แน่นอน ความรับผิดชอบของเขาเยอะที่สุด”

พอได้ยินแบบนี้ กู้เนี่ยนก็หันกลับไป หยุดลงที่ใบหน้า​เย็น​ชาของเบอร์​เกน ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณเบอร์​เกน ผมหวังว่าคุณจะอยู่ให้ห่างจากคุณ​นายน้อยของพวกเรา ไม่เข้ามายุ่งกับเธอเลยยิ่งดี”

เบอร์​เกนเงยหน้า​ขึ้น แววตาไม่ทุกข์​ไม่ร้อน ริมฝีปากบางอ้าปากขึ้น “การวิจัยของผมต้องการเธอ”

“ถ้าอย่างนั้นคุณอาจจะผิดหวังแล้วล่ะ” จิ้นเฟิงเหราพูด “ไวรัสในร่างกายของพี่สะใภ้ผมถูกควบคุมได้แล้ว​ และจะถูกกำจัดในไม่ช้าแล้วด้วย ดังนั้นคุณไม่สามารถใช้เธอเพื่อทำการทดลองยาที่คุณพัฒนาขึ้นได้อีกแล้ว​”

เบอร์​เกนขมวดคิ้ว “หมายความว่ายังไง”

“ความหมายก็ชัดเจนมาก นั่นก็คือไวรัสในร่างกายของเธอค่อยๆถูก​กำจัดลงช้าๆ”

“เป็นไปไม่ได้” เบอร์​เกนส่ายหน้า​ระรัว “นอกจากพวกคุณจะพัฒนายาเพื่อกำจัด​ไวรัสออกมาได้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางหายได้”

ความซับซ้อนของไวรัส มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะศึกษาโครงสร้าง​ได้ทั้งหมด​

แม้แต่ศาสตราจารย์คูรี่ยังต้อง​ใช้เวลาในการศึกษาไวรัสอยู่ตั้งนานกว่าจะวิจัย​ได้ชัดเจน

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะวิจัยยาเพื่อกำจัด​ไวรัสเลย

จิ้นเฟิงเหราหัวเราะ “คุณเบอร์​เกน อย่ามองว่าคนอื่นไร้ความสามารถขนาดนั้น คุณมีทีมนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก พวกเราเองก็มี และพวกเขาเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกคุณเลย”

จิ้นเฟิงเหราพยักหน้าเห็นด้วย “ผมรู้ เราต้องเพิ่มการป้องกัน​มากขึ้น เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น​ จะต้องไม่ปล่อยให้เรื่องอย่างวันนี้เกิดขึ้นอีก”

เขามองกู้เนี่ยนอย่างเคร่งเครียด​ แล้วพูดต่อ “ไม่อย่างนั้นพวกเราจะบอกกับพี่ใหญ่​ได้ยังไง​”

กู้เนี่ยนยิ้มอย่างขมขื่น “พูดตามตรง ฉันขอโดนคุณ​ชายลงโทษ ​ยังดีกว่าเขาหายตัว​ไป​แบบนี้”

“ไม่ต้องเศร้าใจ​ ผมเชื่อว่าพี่ชายของผมจะต้องกลับมาในไม่ช้านี้แน่ๆ” จิ้นเฟิงเหราตบไหล่เขาพร้อมกับพูดปลอบ

ทั้งที่คนที่ควรจะเสียใจที่สุดน่าจะเป็นเขาที่เป็นน้องชาย แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะต้องมาปลอบผู้ช่วยของพี่ชายแทน

จิ้นเฟิงเหราอดที่จะส่ายหน้าไม่ได้ สีหน้า​เหนื่อย​ใน

“คุณชายรอง สถานการณ์ทางฝั่งโม่เหยียกับหานยู่เป็นอย่างไรบ้าง” กู้เนี่ยนเอ่ยถาม

จิ้นเฟิงเหราขมวดคิ้ว “หลายวันก่อนโม่เหยียบอกกับผม ว่ายาต้านไวรัส​จะวิจัยได้เร็ว ๆ นี้ แต่พวกเขาไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะใช้ได้ผลกับไวรัส แล้ว​อีกอย่าง ... “

เขาหยุดพูด น้ำเสียงของเขาดูกังวลเล็กน้อย “อีกอย่างกลัวว่ายาจะมีผลข้างเคียง ถ้าผลข้างเคียงรุนแรงเกินไปพวกเขากลัวว่าร่างกายของพี่สะใภ้จะรับไม่ไหว”

“ดังนั้น​...พวกคุณไม่คิดจะให้คุณหญืงลองใช่ไหม​ครับ​”

“ถึงเวลาต้องลองก็คงต้องลอง ไม่เช่นนั้นถ้าไวรัสกำเริบ ผลที่จะตามมายากที่จะคิด”

กู้เนี่ยนพยักหน้า “ผมเห็นด้วยครับ ผมคิดว่าถ้าคุณ​ชายอยู่ที่นี่ เขาก็ต้องเห็นด้วยแน่นอน”

“มันก็ใช่” จิ้นเฟิงเหราสูดหายใจเข้าลึก “พี่ชายของผมมักพูดอยู่เสมอว่าขอแค่มีความหวังอันริบหรี่ ถึงแม้​จะ​ล้มเหลว​ เขาก็สามารถเรียนรู้จากความล้มเหลว​ได้ หลังจาก​นั้นก็ทำการปรับเปลี่ยน จะต้อง​ทำสำเร็จแน่นอน​”

“คุณชายรองครับ ดูเหมือนว่าคุณจะถูกคุณชายสอนสั่งมาไม่น้อยเลยนะครับ​” กู้เนี่ยนพูดติดตลก

จิ้นเฟิงเหรายักไหล่ “ใครที่ไม่ถูก​พี่ชายผมเทศนาบ้างล่ะ”

ไม่ว่ายังไง ก็ต้องทดลองยา ไม่อย่างนั้นถ้าทางฝั่งเบอร์​เกนรู้ว่าในตัวพี่สะใภ้ยังมีไวรัสอยู่ เรื่องราวก็จะยิ่งยุ่งยากเข้าไปใหญ่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!