“คุณจะไม่พาเธอไปเหรอ” จิ้นเฟิงเหรามองเบอร์เกนอย่างประหลาดใจ
เขาไม่เชื่อในคำพูดของเบอร์เกน
เบอร์เกนชำเลืองมองเขา แล้วหันกลับไป “เชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่คุณ”
พอพูดจบ เขาก็เดินไปที่ม้านั่งตามเดิม แล้วมองไปที่ห้องผ่าตัด
จิ้นเฟิงเหรากับกู้เนี่ยนมองหน้ากัน ถึงแม้เบอร์เกนจะพูดอย่างนั้น แต่พวกเขาก็ยังไม่กล้าที่จะไว้วางใจ ใครจะรู้ว่าอีกฝ่ายจะจงใจหลอกพวกเขาหรือเปล่า
“คุณชายรอง คุณเองก็ไปนั่งรอก่อนเถอะครับ” กู้เนี่ยนชี้ไปที่ที่นั่งข้างๆเบอร์เกน ก่อนจะพูดกับจิ้นเฟิงเหรา
จิ้นเฟิงเหราส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก”
การผ่าตัดใช้เวลานานกว่าสองชั่วโมงถึงจะเสร็จ ทันทีที่ประตูห้องผ่าตัดเปิดออก จิ้นเฟิงเหรา กู้เนี่ยน รวมถึงเบอร์เกนต่างก็รีบเดินไปข้างหน้าทันที
พอหมอเดินออกไป แล้วเห็นทั้งสามคนพุ่งตัวเข้าหาจึงสะดุ้งตกใจ แล้วก้าวถอยหลังตามสัญชาตญาณ
“หมอครับ พี่สะใภ้ของผมเป็นยังไงบ้าง” จิ้นเฟิงเหราถามอย่างร้อนใจ
“ตำแหน่งที่ถูกยิงอยู่ห่างจากหัวใจประมาณสองเซนติเมตร ถือเป็นความโชคดีในความโชคร้ายเลยก็ได้ครับ” หมอพูดขณะถอดหน้ากากอนามัยออก
“ผู้บาดเจ็บเสียเลือดมากเกินไป หลังจากที่เราพยายามช่วยชีวิต ตอนนี้ผู้ป่วยพ้นอันตรายแล้วครับ แต่คงต้องรอดูอาการในห้องพักผู้ป่วยก่อนครับ”
หลังจากได้ยินคำพูดของหมอ ชายหนุ่มทั้งสามก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ขอบคุณครับคุณหมอ” จิ้นเฟิงเหราเอ่ยขอบคุณหมอ
“นี่เป็นหน้าที่ของพวกเราอยู่แล้วครับ” คุณหมอหันหลังเดินกลับเข้าห้องผ่าตัดอีกครั้ง
ตอนที่เจียงสื้อสื้อถูกส่งไปยังห้องพักฟื้น ยาสลบยังไม่หมดฤทธิ์ จึงยังคงหลับอยู่
เพราะเสียเลือดมากเกินไป ใบหน้าของเธอจึงซีดราวกับกระดาษ ไม่มีสีเลือดเลย
พอคิดถึงสองสามชั่วโมงก่อนหน้านี้ เธอยังหัวเราะและล้อเล่นกับตัวเองอยู่เลย จิ้นเฟิงเหราก็อดที่จะเศร้าใจขึ้นมาไม่ได้
“พี่สะใภ้ ขอโทษด้วยครับ ผมประมาทมากเกินไป ถึงทำให้พี่สะใภ้ต้องเจ็บตัวแบบนี้” จิ้นเฟิงเหรากล่าวโทษตัวเอง
พวกเขามัวแต่ดีใจที่หวั่นหวั่นได้เพิ่มสมาชิกใหม่ให้กับตระกูลจิ้น จนลืมที่จะต้องปกป้องเธอไป
ถ้าพี่ชายของเขารู้ เขาคงไม่รอดอย่างแน่นอน
“คุณชายรองครับ คุณอย่าโทษตัวเองเลย ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่ผม” กู้เนี่ยนมองเจียงสื้อสื้อที่นอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าตำหนิตัวเอง
จิ้นเฟิงเหราเหลือบมองด้านข้าง ก่อนจะยกมือขึ้นมาตบไหล่เขาเบาๆ “เอาล่ะ เราต้องรับผิดชอบทั้งคู่”
จากนั้นเขาก็หันไปมองเบอร์เกน “แน่นอน ความรับผิดชอบของเขาเยอะที่สุด”
พอได้ยินแบบนี้ กู้เนี่ยนก็หันกลับไป หยุดลงที่ใบหน้าเย็นชาของเบอร์เกน ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณเบอร์เกน ผมหวังว่าคุณจะอยู่ให้ห่างจากคุณนายน้อยของพวกเรา ไม่เข้ามายุ่งกับเธอเลยยิ่งดี”
เบอร์เกนเงยหน้าขึ้น แววตาไม่ทุกข์ไม่ร้อน ริมฝีปากบางอ้าปากขึ้น “การวิจัยของผมต้องการเธอ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณอาจจะผิดหวังแล้วล่ะ” จิ้นเฟิงเหราพูด “ไวรัสในร่างกายของพี่สะใภ้ผมถูกควบคุมได้แล้ว และจะถูกกำจัดในไม่ช้าแล้วด้วย ดังนั้นคุณไม่สามารถใช้เธอเพื่อทำการทดลองยาที่คุณพัฒนาขึ้นได้อีกแล้ว”
เบอร์เกนขมวดคิ้ว “หมายความว่ายังไง”
“ความหมายก็ชัดเจนมาก นั่นก็คือไวรัสในร่างกายของเธอค่อยๆถูกกำจัดลงช้าๆ”
“เป็นไปไม่ได้” เบอร์เกนส่ายหน้าระรัว “นอกจากพวกคุณจะพัฒนายาเพื่อกำจัดไวรัสออกมาได้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางหายได้”
ความซับซ้อนของไวรัส มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะศึกษาโครงสร้างได้ทั้งหมด
แม้แต่ศาสตราจารย์คูรี่ยังต้องใช้เวลาในการศึกษาไวรัสอยู่ตั้งนานกว่าจะวิจัยได้ชัดเจน
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะวิจัยยาเพื่อกำจัดไวรัสเลย
จิ้นเฟิงเหราหัวเราะ “คุณเบอร์เกน อย่ามองว่าคนอื่นไร้ความสามารถขนาดนั้น คุณมีทีมนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก พวกเราเองก็มี และพวกเขาเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกคุณเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!