เจียงสื้อสื้อรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสองสามวัน จนแผลเกือบจะหายดีแล้ว หมอจึงอนุญาตให้เธอกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้
“สื้อสื้อ กลับไปแล้ว ถ้าอยากทำอะไร ก็เรียกให้คนใช้ทำ อย่าทำเอง รู้ไหม” แม่จิ้นพูดย้ำเตือน ในขณะที่กำลังเก็บของ
เจียงสื้อสื้อยิ้มอย่างเหนื่อยใจ “คุณแม่ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอกค่ะ ฉันไม่ใช่เด็กๆแล้วนะคะ”
“ในสายตาของแม่ ลูกยังเป็นเด็กอยู่ รวมถึงเฟิงเฉิน เฟิงเหรา และหวั่นชิงต่างก็ยังเป็นเด็กน้อย” แม่จิ้นถลึงตามองเธอ
เจียงสื้อสื้อยิ้มแหย ไม่พูดอะไรอีก ภายในใจของเธอรู้สึกอบอุ่นเป็นพิเศษ
เพราะต้องดูแลส้งหวั่นชีง แม่จิ้นจึงไม่ได้พร้อมกับเธอ แต่ขอให้กู้เนี่ยนส่งเธอกลับไปแทน
“รอหวั่นชิงเข้าห้องอยู่เดือน แม่จะกลับบ้านไปดูแลลูกนะจ๊ะ” แม่จิ้นตบหลังมือของเจียงสื้อสื้อเบาๆ
โชคดีที่หวั่นชิงจะไปห้องอยู่เดือนวันพรุ่งนี้ ไม่อย่างนั้นนั้นเธอจะกลัวจริงๆถ้าเธอไม่ดูแลสื้อสื้อดีๆ จะเกิดอะไรขึ้นอีก
“คุณแม่คะ มีคนรับใช้อยู่ที่บ้านดูแลหนูตั้งเยอะแยะ ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ” เจียงสื้อสื้อพูดปลอบโยน
แม่จิ้นนพยักหน้า “ได้จ้ะ กลับถึงบ้านแล้วโทรบอกแม่ด้วย”
“อืม”
แม่จิ้นช่วยพยุงเธอเข้าไปในรถ จากนั้นก็พูดย้ำอีกหลายรอบ ก่อนจะปิดประตูรถลง
เธอยืนมองรถแล่นออกไปจนลับตา แม่จิ้นจึงหันหลังเดินเข้าไปในโรงพยาบาลอีกครั้ง
ในรถ เจียงสื้อสื้อถอนสายตาจากหน้าต่าง แล้วมองไปทางกู้เนี่ยนที่นั่งตำแหน่งคนขับ แล้วถามออกมาว่า “เบอร์เกน กลับมาอิตาลีไปแล้วหรือยังคะ”
กู้เนี่ยนเงยหน้าขึ้นมองกระจกมองหลัง แล้วตอบออกไปตามความจริง “ยังครับ แต่ลี่ซากลับไปแล้ว”
พอได้ยินว่าลี่ซากลับอิตาลีแล้ว เจียงสื้อสื้อก็อดที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอกไม่ได้
พูดตามตรง ตอนนี้ลี่ซาน่ากลัวกว่าเบอร์เกนมาก
เบอร์เกนเพียงต้องการใช้เธอทำการวิจัยให้สำเร็จ แต่ลี่ซากลับต้องการฆ่าเธอจริงๆ
“คุณนายน้อยครับ”
เจียงสื้อสื้อเงยหน้าขึ้นมอง “มีอะไรเหรอคะ”
กู้เนี่ยนแตะจมูกของตัวเอง “เราจะกลับไปที่เมืองหลวงเมื่อไหร่ครับ”เจียงสื้อสื้อเลิกคิ้ว แล้วพูดหยอกล้อ “คิดถึงใครหรือเปล่า ทำไมคุณถึงอยากกลับไปเมืองหลวงเร็วๆ”
“ไม่ใช่นะครับ” กู้เนี่ยนทำตัวไม่ถูก“ผมแค่ถามดูเฉยๆ”
“แค่ถามเฉยๆหรอกเหรอคะ” เจียงสื้อสื้อยิ้มมากขึ้น
“คุณนายน้อย อย่าล้อผมเล่นสิครับ” กู้เนี่ยนรู้สึกทำตัวไม่ถูก
เจียงสื้อสื้อยกยิ้ม ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา จึงพูดขึ้นมา “ถ้าคุณไม่พูดถึง ฉันคงลืมไปเลยว่าเวยเวยไม่เคยโทรหาฉันเลย”
“จริงเหรอครับ” กู้เนี่ยนเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เขานึกว่าเหลียงซินเวยจะติดต่อเธอซะอีก เพราะเขามองออกว่าเหลียงซินเวยถือว่าคุณนายน้อยเป็นเพื่อนสนิทของเธอจริงๆ
“อืม หลายวันมานี้นอกจากน้าสะใภ้เล็กกับพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของฉันแล้ว ก็ไม่มีใครโทรหาฉันเลย”
เพื่อปกปิดอาการบาดเจ็บ เธอจึงไม่กล้าวิดีโอแชทกับน้าสะใภ้เล็กของเธอเลย
“เธอ...อาจจะยุ่งมากมั้งครับ” กู้เนี่ยนช่วยเหลียงซินเวยหาเหตุผล
เจียงสื้อสื้อสูดหายใจเข้าลึก “น่าจะเป็นอย่างนั้นแหละค่ะ”
เหลียงซินเวยไม่ได้ติดต่อเธอ เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
“เธอเองก็ไม่ติดต่อคุณด้วยเหรอ” เจียงสื้อสื้อถาม
กู้เนี่ยนชะงักไป “ทำไมเธอถึงต้องติดต่อผมล่ะครับ”
เจียงสื้อสื้อหัวเราะ “ฉันคิดว่าคุณกับเธอเป็นเพื่อนกันนานแล้ว ระหว่างเพื่อนจะติดต่อหากันก็เป็นเรื่องปกตินี่คะ”
หลังจากได้ยินแบบนี้ กู้เนี่ยนก็เงียบไปสักพัก ก่อนจะพูดออกมา “เพื่อนที่ไม่ติดต่อกันเลยก็มีครับ”
“มันก็จริง” เจียงสื้อสื้อพยักหน้า
ตลอดทางกลับบ้านตระกูลจิ้น ไม่มีใครพูดอะไรอีกเลย
……
หลายวันมานี้เหลียงซินเวยงานยุ่งมากจริงๆ เพื่อนร่วมงานขอลากลับบ้าน เธอต้องทำงานทั้งวันติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน
แม้แต่ไปรับอานอานตอนเลิกเรียนก็ทำไม่ได้ เธอได้แต่ขอให้เพื่อนบ้านตอนไปรับหลานชายของเขาช่วยรับอานอานกลับมาด้วย
“เวยเวย เหนื่อยไหม” ผู้จัดการเดินเข้ามา เห็นเหลียงซินเวยกำลังนั่งพิงกำแพงเพื่อพักผ่อนอยู่ จึงรู้สึกเป็นเป็นห่วงเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!