ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 1172

สรุปบท บทที่ 1172 นี่ไม่ใช่ประธานจิ้นเหรอ: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

สรุปตอน บทที่ 1172 นี่ไม่ใช่ประธานจิ้นเหรอ – จากเรื่อง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

ตอน บทที่ 1172 นี่ไม่ใช่ประธานจิ้นเหรอ ของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์เรื่องดัง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดยนักเขียน เมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

“พี่ไม่ได้พูดแทนเธอ แต่ว่าเธอทำเกินไปแล้วจริงๆ”

เย่เฉินหยุนโกรธแล้วจริงๆ เขาไม่สามารถทนรับน้องสาวของตนเองกลายเป็นคนที่โวยวายหาเรื่องอย่างไร้เหตุผลแบบนี้ได้

“ฉันทำเกินไปตรงไหน”เย่เสี่ยวอี้ยิ้มอย่างโมโห“ที่ฉันพูดมีตรงไหนไม่ถูกบ้าง หรือว่าเธอไม่ได้สะเพร่าในการทำงาน”

“เธอ……”

เย่เฉินหยุนยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง เวลานี้ เหลียงซินเวยตัดบทอย่างทนไม่ไหวว่า“พอแล้ว”

หลายคนตกใจ มองมาที่เธอเป็นสายตาเดียวกัน

เหลียงซินเวยสูดลมหายใจเข้าลึก“คุณเย่ ในเมื่อวันนี้คุณพูดอย่างนั้นแล้ว ฉันก็คงต้องพูดให้เข้าใจชัดเจน ฉันกับคุณฟางไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด ระหว่างฉันกับเขาก็เป็นแค่เพื่อนธรรมดาๆแบบนั้น สำหรับพี่ชายคุณ เขาเป็นเพื่อนของพี่สาวฉัน

ผมหวังว่าต่อไปคุณจะไม่มาดูถูกเหยียดหยามฉันส่งเดชอีกนะคะ ใช่ ฉันเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่ง แต่ฉันก็ไม่เคยทำเรื่องที่ผิดศีลธรรม”

จากนั้น เธอก็หันไปโค้งคำนับผู้จัดการ“ผู้จัดการคะ เรื่องวันนี้ฉันเป็นคนผิดจริงๆ ฉันยอมลาออกเพื่อรับผิดชอบทั้งหมดค่ะ”

“เวยเวยเธอ……”ผู้จัดการตกใจมาก เรื่องราวไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นต้องให้เธอลาออก

เหลียงซินเวยยิ้มหวาน“มาอยู่ที่นี่นานขนาดนี้ เพราะการดูแลของคุณ ฉันถึงได้ดีขึ้นเรื่อยๆ”

ผู้จัดการเผยให้เห็นรอยยิ้มปลอบโยน“เป็นเพราะความพยายามของเธอเอง อีกอย่าง เธอไม่ต้องลาออก นี่ก็แค่ความสะเพร่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”

เธอตบหลังเหลียงซินเวยเบาๆ แสดงความหมายว่าไม่เป็นไร แล้วหันไปมองเย่เสี่ยวอี้พูดว่า“คุณผู้หญิงท่านนี้ ครั้งนี้นอกจากทานฟรีแล้ว ต่อไปถ้าคุณมารับประทานที่ร้าน ขอแค่คุณแจ้งชื่อแก่พนักงาน จะได้ส่วนลดยี่สิบเปอร์เซ็นต์ คุณว่าแบบนี้โอเคมั้ยคะ ”

เย่เสี่ยวอี้มองเธออย่างน่าขัน“คุณคิดว่าฉันไม่มีปัญญาจ่ายเหรอ สิ่งที่ฉันมีพร้อมที่สุดก็คือเงิน ฉันแค่ต้องการให้คุณไล่เธอออก แล้วก็จะไม่เอาเรื่องอะไรอีก”

“ขอโทษนะคะ ฉันไม่สามารถไล่พนักงานออกสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ค่ะ คุณผู้หญิงได้โปรดอย่าบังคับฝืนใจกันเลยนะคะ”ผู้จัดการสบตากับเธออย่างไม่หวั่นเกรง

“คุณ!”เย่เสี่ยวอี้โกรธจัดทันที“ไม่ได้ ฉันต้องการพบเจ้านายของพวกคุณ ฉันไม่เชื่อว่าจะไล่เธอออกไม่ได้!”

“พอแล้ว เย่เสี่ยวอี้!”เย่เฉินหยุนตะคอกอย่างเกรี้ยวกราด

เย่เสี่ยวอี้มองเห็นสีหน้าที่ดุดันน่ากลัวของเขา ก็รู้ว่าเขาโกรธมากจริงๆ ถ้าตนเองยังโวยวายต่อไป ต้องมีจุดจบไม่สวยแน่

แต่เธอก็ไม่ยอมที่จะปล่อยไปง่ายๆอีกแล้ว

เธอถลึงตาใส่เหลียงซินเวยที่อยู่ด้านหลังผู้จัดการอย่างรังเกียจ สุดท้ายเบะปากอย่างไม่เต็มใจ“ช่างเถอะ ไม่ถือสาหาความอะไรกับคนอย่างเธอแล้ว”

พอเธอพูดคำนี้ออกมา ผู้จัดการและเหลียงซินเวยต่างก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

เย่เสี่ยวอี้หยิบกระเป๋าขึ้นมา เหล่มองเหลียงซินเวยอย่างเยือกเย็น“พี่ พวกเราไปกันเถอะค่ะ”

“ผู้จัดการ ขอโทษด้วยนะครับ ที่สร้างความวุ่นวายให้พวกคุณ”เย่เฉินหยุนยิ้มให้กับผู้จัดการ

ผู้จัดการส่ายหน้า“ไม่เป็นไรค่ะ เป็นความสะเพร่าของร้านอาหารเราถึงจะถูกค่ะ”

“ไม่ใช่หรอกครับ เวยเวยทำได้ดีมาก” ตอนที่พูดประโยคนี้เย่เฉินหยุนเงยหน้ามองไปยังเหลียงซินเวย ส่งยิ้มให้เป็นการปลอบใจ

เหลียงซินเวยหลุบสายตา พยักหน้าน้อยๆ

“พี่คะ รีบไปสิ”

เย่เสี่ยวอี้ที่เดินไปถึงประตูหันมาพบว่าเย่เฉินหยุนไม่ได้เดินตามมา ก็ร้องเรียกอย่างอดไม่ได้

“เวยเวย ผมไปนะ”เย่เฉินหยุนหันไปโบกมือให้เหลียงซินเวย แล้วเดินไปทางประตู

ส่งเขาออกไปด้วยสายตา เส้นประสาทที่ตึงเครียดของเหลียงซินเวยผ่อนคลายลง เธอถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก

“ผู้จัดการ ขอโทษนะคะ เป็นเพราะฉัน……”

“อย่าพูดเรื่องพวกนี้เลย”ผู้จัดการตัดบทเธอ“รีบไปทำงานเถอะ”

เหลียงซินเวยรู้ว่าผู้จัดการไม่อยากให้เธอลำบากใจ รู้สึกซาบซึ้งในใจอย่างมาก แต่ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรอีก ได้แต่พูดว่า“ขอบคุณค่ะ”แล้วก็วิ่งไปช่วยที่ครัวด้านหลัง

……

“เย่เสี่ยวอี้ วันนี้เธอทำเกินไปแล้วจริงๆ”

เมื่อขึ้นรถแล้ว เย่เฉินหยุนตำหนิเธอออกมาอย่างทนไม่ไหว

ฟางยู่เชินวางเอกสารในมือลง เงยหน้าขึ้น“ข่าวดีอะไร”

“ถ่ายรูปประธานจิ้นได้แล้วครับ”ส้งหยาวยื่นโทรศัพท์มือถือของตนเองไปให้เขา

ฟางยู่เชินรีบรับมาดู ก็ขมวดคิ้ว“อยู่ไหน”

“อยู่ไหนเหรอครับ”ส้งหยาวโน้มตัวมาขยายภาพให้ใหญ่ขึ้น ชี้คนที่อยู่ด้านข้างพูดว่า“นี่ไม่ใช่ประธานจิ้นเหรอครับ”

ฟางยู่เชินเพ่งมอง ตอนที่มองเห็นคนบนรูป ก็ยิ้ม“คือน้องเขยของผมจริงด้วย”

“นี่ถ่ายที่ตรงไหน”ฟางยู่เชินถาม

“ด้านนอกของที่พักเจ้าสำนักหยาน”

ฟางยู่เชินขมวดคิ้ว“งั้นก็แสดงว่าซ่างกวนหยวนเอาคนไปซ่อนไว้ที่นั่น”

“ใช่ครับ”ส้งหยาวพยักหน้า“อีกอย่างที่น่าแปลกใจมากคือครั้งนี้พวกเราถ่ายคนไว้ได้แล้ว”

“หมายความว่าอะไร”

“ในเมื่อคุณหนูซ่างกวนคิดจะเอาคนซ่อนเอาไว้ ก็ควรที่จะระมัดระวังมาก หลายครั้งก่อนหน้านี้ที่พวกเราตามคุณช่างกวนไปที่สิงคโปร์ ล้วนคว้าน้ำเหลว แต่ครั้งนี้กลับถ่ายรูปคนได้ง่ายๆขนาดนี้ น่าแปลกใจนิดหน่อย”

ฟางยู่เชินขมวดคิ้วครุ่นคิด“ความหมายของนายคือจงใจให้พวกเราถ่ายได้เหรอ”

“ผมเดาว่าอย่างนี้ครับ เพราะคนที่ส่งไปกลับมารายงานผมว่า คุณซ่างกวนดูเหมือนจะรู้ว่ามีคนตามเขาอยู่”

ฟางยู่เชินขมวดคิ้ว“นี่ก็อาจเป็นไปได้ ด้วยนิสัยของซ่างกวนเชียนน่าจะไม่ยอมให้น้องสาวตัวเองเอาคนไปซ่อนไว”

“อย่างนั้นตอนนี้พวกเราไปขอคนออกมาโดยตรงเลย หรือว่าคิดหาวิธีอื่นดีครับ”ส้งหยาวถาม

“ผมจะเมืองจิ่นสักครั้ง เอาเรื่องนี้ไปบอกกับสื้อสื้อแล้วก็เฟิงเหรา จะเอายังไงค่อยว่ากันอีกที”

เรื่องนี้เขาไม่อยากตัดสินใจเอง ถ้าหากไปทำให้ซ่างกวนหยวนตื่นตกใจ นำคนไปซ่อนที่อื่นอีกก็จะยุ่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!