หลังจากพวกของเจียงสื้อสื้อไปแล้ว ซ่างกวนหยวนนั่งอยู่ที่ห้องรับแขกนานมากถึงลุกขึ้นไปชั้นบน
เดินเข้าไปในห้องหนังสือ เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาซ่างกวนหยวนที่อยู่ไกลถึงสิงคโปร์
พอมีคนรับสาย เขาก็พูดว่า“คุณย่าใกล้จะไม่ไหวแล้ว ถ้าเธอยังคิดว่าคุณย่าเป็นญาติของเธอ เธอก็รีบกลับมาเยี่ยมท่าน”
พูดจบ ก็ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบโต้อะไร เขาก็วางสายทันที
กำโทรศัพท์ไว้ในมือแน่น ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย ฉายลำแสงแห่งความยืนหยัดหนักแน่น
ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องให้เธอกลับมาเมืองหลวงให้ได้
……
ซ่างกวนหยวนวางโทรศัพท์มือถือลง คิ้วขมวดแน่น
“เกิดอะไรขึ้นหรือ”หลี่จี้เห็นเธอหลังจากรับสายแล้ว ก็ดูเหมือนจะเกิดอารมณ์หดหู่ท้อแท้ลงไปไม่น้อย จึงรีบถามอย่างเป็นห่วง
ซ่างกวนหยวนส่ายหน้า“ไม่เป็นไร”
“ไม่มีอะไรจริงเหรอ”หลี่จี้ไม่เชื่อคำพูดของเธอ
เพราะสีหน้าท่าทางของเธอดูแล้วไม่เหมือนคนที่ไม่เป็นอะไร
“พ่อ”ซ่างกวนหยวนกัดริมฝีปาก“หนูจะกลับเมืองหลวงสักครั้ง”
“กลับเมืองหลวงเหรอ”หลี่จี้ขมวดคิ้ว“ทำไมจู่ๆจะกลับไปล่ะ”
“พ่อก็รู้เรื่องสุขภาพร่างกายของคุณย่าหนู หนูต้องกลับไปเยี่ยมท่าน”
และครั้งนี้ซ่างกวนหยวนดูเหมือนจะโกรธมาก ดูท่าอาการของคุณย่าจะไม่สู้ดีนักจริงๆ
“เธอไม่ใช่ว่าจะส่งคนกลับไปเยี่ยมเหรอ”หลี่จี้ถาม
เมื่อก่อนเขาก็เคยเกลี้ยกล่อมให้เธอกลับไปเยี่ยมหญิงชรา แต่ถูกเธอปฏิเสธ
ทว่าครั้งนี้ เธอกลับเป็นฝ่ายอยากจะกลับไปเอง ทำให้เขารู้สึกแปลกใจมาก
“พ่อ นั่นคือย่าของฉันนะคะ ถ้าฉันไม่กลับไปด้วยตนเอง มันฟังไม่ขึ้น”
แม้ว่าในใจเธอจะยังแค้นเคืองคุณย่าอยู่ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างพวกเธอได้
เธอไม่ทิ้งความเสียใจให้ตนเอง
หลี่จี้ยิ้ม“งั้นก็กลับไปเถอะ คุณย่าเห็นลูกต้องดีใจมากแน่นอน”
ซ่างกวนหยวนยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรอีก
จู่ๆหลี่จี้ก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้“ลูกกลับไปแล้ว เฟิงเฉินทำยังไง”
“เขา……”ซ่างกวนหยวนครุ่นคิด“พ่อคะ รบกวนพ่อช่วยดูแลเขาหน่อยได้มั้ยคะ”
“พ่อเหรอ”หลี่จี้แปลกใจมาก“ลูกไม่ได้พูดผิดใช่มั้ย”
“ไม่ผิดค่ะ ตอนนี้คนที่หนูเชื่อใจมากที่สุดก็คือพ่อ”
ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะเขายื่นมือช่วยเธอเอาไว้ เกรงว่าเธอก็คงจะถูกตีตายที่ข้างถนนในต่างประเทศไปนานแล้ว
หลายปีนี้ เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเหมือนเป็นลูกสาวแท้ๆ ดังนั้นตอนที่เธอพาจิ้นเฟิงเฉินหนีมาจากอิตาลี ก็พุ่งตรงมาหาเขาที่นี่โดยไม่ต้องคิด
“พ่อดีใจมากที่ลูกเชื่อใจพ่อขนาดนี้ แต่……”หลี่จี้ถอนหายใจอีก“แต่ฉันมาสามารถช่วยเธอดูแลเฟิงเฉินได้”
“ทำไมคะ”ซ่างกวนหยวนถามอย่างสงสัย
“คนที่เฟิงเฉินต้องการก็คือลูก ไม่ใช่พ่อ อีกอย่างลูกคิดว่าเขาจะห่างจากลูกได้เหรอ”
พอเขาพูดขนาดนี้ ซ่างกวนหยวนจึงพบว่าเรื่องมันไม่ได้ง่ายอย่างที่ตนเองคิด
“งั้นทำยังไงดีคะ”เธอไม่อยากพาเฟิงเฉินกลับไปเมืองหลวง ถ้าเกิดตระกูลจิ้นและตระกูลฟางรู้เข้า เธอก็คงต้องแยกจากเขา
เธอไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด
หลี่จี้มองออกถึงความกังวลของเธอ ยิ้มพลางเอ่ยว่า“ให้พ่อส่งคนกลับไปเป็นเพื่อนลูกเพิ่มขึ้นอีกหน่อยมั้ย แบบนี้ลูกจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเฟิงเฉิน”
ซ่างกวนหยวนขบคิดอย่างจริงจัง ตัดสินใจว่าจะไม่กลับไปแล้ว
“ช่างเถอะค่ะ หนูไม่กลับไปแล้ว”
“ลูกคนนี้ทำไมถึงได้เปลี่ยนใจเร็วขนาดนี้นะ”หลี่จี้ส่ายหน้าถอนหายใจ“ครั้งนี้ลูกไม่กลับไป ต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”
ซ่างกวนหยวนไม่พูดอะไร
หลี่จี้พูดต่อว่า“นั่นคือย่าแท้ๆของลูก ต่อให้ที่ผ่านมาเขาจะทำไม่ถูก แต่เขาก็รักลูกมากอย่างจริงใจ ลูกไม่กลับไปดูหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้ายเหรอ”
คำพูดของเขาก็เหมือนกับก้อนหินก้อนใหญ่กดทับอยู่บนหัวใจของเธอ อึดอัดจนทรมาน
เธอจะไม่รู้ว่าคุณย่าดีกับเธอมากแค่ไหนได้อย่างไร แต่เธอก็กลัวอีกว่าการกลับไปครั้งนี้จะต้องพรากจากเฟิงเฉิน
วินาทีนี้ เธอก็พบว่าการรักษาความรักฉันชู้สาวและความรักของคนในครอบครัวนั้นมันยากมากขนาดนี้
“กลับไปเถอะ ลูก”
หลี่จี้ไม่อยากให้เธอต้องมาเสียใจจริงๆ
ซ่างกวนหยวนสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้ ฉันจะกลับไป พ่อ ก็เอาตามที่พ่อบอก ส่งคนไปกลับไปเป็นเพื่อนหนูเพิ่มขึ้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!