“เธออยากให้ฉันช่วยอะไร?” เย่เฉินหยุนถาม
เย่เสี่ยวอี้เงียบไปแป๊บหนึ่ง แล้วค่อยพูดออกไปว่า “พี่คะ พี่ชอบเหลียงซินเวยนั่นใช่มั้ยคะ?”
“ว่าไงนะ?” เย่เฉินหยุนนึกว่าตัวเองได้ยินผิด
“พี่บอกว่าเหลียงซินเวยนั่นเป็นน้องสาวของเพื่อนพี่ไม่ใช่รึไง?”
เย่เฉินหยุนพยักหน้า “ถูกต้อง แล้วทำไมเธอถึงคิดว่าฉันชอบผู้หญิงคนนั้นล่ะ?”
“ถ้าไม่ใช่ แล้วทำไมพี่ต้องทำดีกับเธอขนาดนั้นด้วยคะ?”
ก่อนหน้านี้เพื่อที่จะปกป้องเหลียงซินเวย เขายังเคยดุเธอด้วย
ตั้งแต่เล็กจนโต เขาไม่เคยแสดงท่าทีที่ใจร้ายแบบนั้นใส่เธอมาก่อนเลย ดังนั้นเธอถึงได้สงสัยว่าเขากำลังชอบเหลียงซินเวยอยู่ใช่มั้ย
เย่เฉินหยุนอดหัวเราะไม่ได้ “ที่ฉันทำดีกับเธอ เป็นเพราะเธอเป็นน้องสาวของเพื่อนฉันเท่านั้น ไม่ได้มีเหตุผลอื่นเลย”
“จริงๆ เหรอคะ?” เย่เฉินหยุนรู้สึกไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไหร่
“ก็ต้องแน่นอนอยู่แล้วสิ” เย่เฉินหยุนขมวดคิ้ว “ไม่ใช่สิ เธอมีเรื่องอยากให้ฉันช่วยไม่ใช่เหรอ? แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่ฉันชอบเวยเวยรึเปล่า?”
“อันนี้มัน……” เย่เสี่ยวอี้สายตาหมุนวน แล้วถามไปอย่างระมัดระวังว่า “พี่คะ พี่ช่วยชอบเหลียงซินเวยจะได้มั้ยคะ? ฉันไม่ว่าอะไรถ้าจะได้เธอมาเป็นพี่สะใภ้เลย”
ยังไงต่อไปเธอก็จะแต่งไปบ้านตระกูลฟางอยู่แล้ว
“ทำไมล่ะ?” เย่เฉินหยุนรู้สึกสงสัยมาก “ทำไมจู่ๆ เธอถึงมีความคิดแบบนี้ขึ้นมาล่ะ?”
“มันก็เพราะผู้หญิงคนนั้นกับยู่เชินทำตัวไม่ชัดเจนกันอยู่นะสิคะ”
เย่เสี่ยวอี้เดินไปนั่งลงที่ขอบเตียง สองมองกอดอก ทำหน้าบึ้งตึง
“นี่เธอคิดมากไปรึเปล่า?” เย่เฉินหยุนไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูด
เหลียงซินเวยที่เขารู้จัก ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะไปมีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนกับผู้ชายเลย
“ตรงไหนคะที่บอกว่าฉันคิดมากไป?” เย่เสี่ยวอี้ตะโกนออกมาอย่างไม่พอใจ “แม่นั่นกับยู่เชินนั้นไม่ชัดเจนกันจริงๆ ทำไมพี่ถึงไม่ยอมเชื่อในสิ่งที่ฉันพูดเนี่ย?”
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อ ฉันแค่เชื่อมั่นในตัวของเหลียงซินเวยที่ฉันรู้จักเท่านั้น”
“พี่คะ!” โกรธจนต้องลุกขึ้นมา “คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ พี่เข้าใจมั้ยคะ?”
“เข้าใจสิ!” เย่เฉินหยุนยักคิ้ว “แต่การที่ฉันเจอคนมามากมายขนาดนั้น แล้วคิดว่าฉันจะมองคนคนเดียวไม่ออกเลยรึไง?”
“มันก็ต้องมีช่วงที่มองพลาดกันบ้างแหละค่ะ” เย่เสี่ยวอี้ทำเสียงฮึดฮัด
เย่เฉินหยุนก้มมองนาฬิกา แล้วถามไปว่า “เอาล่ะ สรุปเธอจะให้ฉันช่วยอะไรกันแน่?”
เย่เสี่ยวอี้เกาหัวด้วยความรำคาญ “เมื่อกี้ฉันก็บอกไปแล้วไม่ใช่รึไง?”
เย่เฉินหยุนไตร่ตรองไปแป๊บหนึ่ง “สิ่งที่เธอต้องการคือให้ฉันชอบเวยเวย ให้ฉันไปจีบเธอ ทำให้เธอมาเป็นแฟนของฉันถูกต้องมั้ย?”
จากสิ่งที่เธอพูดมาทั้งหมด ก็สรุปได้ประมาณนี้
“ใช่ค่ะ ได้มั้ยคะ?” เย่เสี่ยวอี้มองเขาด้วยความคาดหวัง
มุมปากของเย่เฉินหยุนเปิดออก “ไม่ได้”
“พี่คะ!” เย่เสี่ยวอี้วิ่งเข้าไปหาเขา คว้าแขนของเขาแล้วเขย่าเป็นการใหญ่ “ถือซะว่าสงสารฉันแล้วกันนะคะ ช่วยฉันหน่อยนะคะ”
เย่เฉินหยุนก้มหน้าลง แล้วเห็นเธอมองเขาด้วยท่าทางที่น่าสงสาร
เสียงถอนหายใจถูกปล่อยออกมาจากริมฝีปาก เขาพูดด้วยความจนใจ “เสี่ยวอี้ ต่อให้ฉันรับปากว่าจะช่วยเธอ เรื่องนี้ก็เป็นไปไม่ได้ เวยเวยไม่ได้ชอบฉันเลยสักนิด”
“ถึงเธอจะไม่ชอบ พี่ก็หาวิธีทำให้เธอชอบพี่สิคะ พี่คะ ฉันขอร้องล่ะนะ”
เมื่ออยู่ต่อหน้าการอ้อนวอนของน้องสาว คนที่เป็นพี่ชายก็ยากที่จะปฏิเสธได้
เย่เฉินหยุนถอนหายใจออกมา พยักหน้าไปอย่างฝืนๆ “ก็ได้ ฉันจะช่วย”
เย่เสี่ยวอี้ทำหน้าดีใจขึ้นมาทันที “ขอบคุณมากเลยนะคะพี่ พี่ดีกับฉันที่สุดเลย”
“อย่าเพิ่งพูดแบบนั้นเลย” เย่เฉินหยุนยกมือขึ้นมาห้ามเธอ “ฉันไม่กล้ารับปากหรอกนะว่าฉันจะจีบเวยเวยติดรึเปล่า”
เย่เสี่ยวอี้ถลึงตาใส่เขาอย่างไม่พอใจ “พี่ชายของฉันเก่งขนาดนี้ จะจีบไม่ติดได้ยังไงล่ะคะ?”
เย่เฉินหยุนยิ้มออกมา และไม่ได้พูดอะไรอีก
ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น เขาสามารถพูดได้เต็มปากว่าจีบติดแน่นอน แต่เหลียงซินเวยนั้น ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
อีกอย่าง ยังมีอานอานอยู่ด้วยอีกคน
……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!