เหลียงซินเวยออกมาก็เห็นเจียงสื้อสื้อวางมือถือลงบนโต๊ะชาพอดี
เธอรีบวิ่งเข้าไป “พี่สื้อสื้อ นี่พี่……”
“หือ?” เจียงสื้อสื้อหันหน้ามา สบตากับสายตาที่สงสัยของเธอ แล้วยิ้มออกไป “พี่ชายโทรมาหาเธอ พอฉันเห็นว่าเป็นเขา กลัวจะมีเรื่องอะไร เลยช่วยเธอรับสายน่ะ”
“แบบนี้นี่เอง” เหลียงซินเวยรู้สึกโล่งอก เดินเข้าไปหยิบมือถือ เม้มๆ ปาก แล้วแสร้งถามไปอย่างไม่ใส่ใจว่า “พี่ฟางได้พูดอะไรรึเปล่าค่ะ?”
“เขาไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ถามว่าฉันมาที่นี่แล้วรึยังเท่านั้น”
“แค่นี้เหรอคะ?”
การที่ฟางยู่เชินโทรมาหาเธอนั้น คงต้องการถามสถานการณ์ของพี่สื้อสื้อแน่นอน แต่เขาก็ไม่ได้หลุดปาก
แต่ว่า ดูจากสีหน้าที่ไม่ผิดปกติของพี่สื้อสื้อ ก็น่าจะไม่รู้อะไรจริงๆ นั่นแหละ
“ใช่ แค่นี้แหละ”
เจียงสื้อสื้อยืนขึ้นมา “เราจะไปกันได้รึยัง?”
“ได้ค่ะ” เหลียงซินเวยสะพายกระเป๋าไว้ที่หลัง “เราไปกันเถอะค่ะ”
……
เจียงสื้อสื้อไม่มีทางนึกถึงเลยว่า แค่มาซื้อเสื้อผ้าตัวหนึ่งยังจะได้เจอกับคนที่ไม่ควรเจอด้วย
เหลียงซินเวยเอาชุดราตรีที่เลือกได้เดินเข้าไปในห้องลองชุด ด้วยความที่ไม่มีอะไรทำ เธอจึงเดินเล่นไปรอบๆ ร้าน แล้วเสียงที่แหลมคมก็ดังขึ้นเบาๆ
“สื้อสื้อ”
เธอหันมองไปตามเสียง แล้วก็ได้เห็นใบหน้าที่ดีใจของเย่เสี่ยวอี้เดินเข้ามาหาตัวเอง
บังเอิญขนาดนี้ได้ไง?
เธอยืนอยู่กับที่ มองดูเย่เสี่ยวอี้ที่กำลังเดินเข้ามา
“สื้อสื้อ เธอเองก็มาเลือกชุดราตรีเหมือนกันเหรอ?” พอเดินมาใกล้เย่เสี่ยวอี้ก็ถามออกมา
สื้อสื้อเหรอ?
นี่พวกเธอไปสนิทกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?
ด้วยความสุภาพ เจียงสื้อสื้อจึงยิ้มให้เธอไป “พอดีฉันมากับเพื่อนน่ะ”
“อย่างนี้นี่เอง ฉันเป็นลูกค้าวีไอพีของที่นี่ ถ้าตอนที่จ่ายเงินก็แจ้งชื่อของฉันได้เลยนะ จะมีส่วนลดให้สิบเปอร์เซ็นต์เลย”
บางทีเย่เสี่ยวอี้อาจจะหวังดี แต่สีหน้าที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าตัวเองเหนือกว่านั้น มันเป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้คนรู้สึกดี
รอยยิ้มที่มุมปากของเจียงสื้อสื้อดูลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม เธอพูดออกไปอย่างเรียบเฉยว่า “ไม่เป็นไร ฉันเองก็เป็นลูกค้าวีไอพีเหมือนกัน”
ทันใดนั้นเอง เย่เสี่ยวอี้ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอเป็นถึงสะใภ้ของตระกูลจิ้น แบบนี้เพื่อนของเธอก็คงต้องเป็นลูกค้าที่รวยมากแน่ๆ แล้วจะไปต้องการความช่วยเหลือด้านส่วนลดจากเธอได้ยังไง?
แถมเธอยังเป็นน้องสาวของยู่เชินอีก
พอนึกถึงตรงนี้ เย่เสี่ยวอี้รีบพูดขอโทษอย่างระมัดระวังทันที “ขอโทษทีนะ สื้อสื้อ ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น”
“อะไรเหรอ?” เจียงสื้อสื้อแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจความหมายที่เธอพูด
ในเมื่อเธอไม่เข้าใจ เย่เสี่ยวอี้ก็ไม่อยากพูดถึงมันอีก และได้พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร”
เจียงสื้อสื้อถามไปอย่างไม่ใส่ใจว่า “เธอก็มาเลือกชุดราตรีเหมือนกันเหรอ?”
“ถูกต้อง อีกไม่กี่วัน ที่ศูนย์การค้าของบ้านฉันจะจัดงานเลี้ยงปีใหม่ ฉันเลยมาเลือกชุดราตรีนี่ไง”
ศูนย์การค้าของบ้านเธออย่างนั้นเหรอ?
คงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง?
คิ้วบางๆของเจียงสื้อสื้อเลิกขึ้น “ศูนย์การค้าไหนเหรอ?”
พอเย่เสี่ยวอี้พูดชื่อศูนย์การค้ามา เจียงสื้อสื้อก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา บังเอิญขนาดนั้นจริงๆด้วย
“จริงด้วย สื้อสื้อ พอถึงตอนนั้นเธอกับครอบครัวของยู่เชินต้องมาร่วมงานกันนะ”
พอเย่เสี่ยวอี้พูดจบ ผ้าม่านตรงห้องลองชุดก็เปิดออกเสียง “พรึ่บ” ดังขึ้น เธอหันไปมอง
เหลียงซินเวยมือถกกระโปรงแล้วเดินออกจากห้องมา
ตอนที่ได้เห็นเหลียงซินเวย สีหน้าของเย่เสี่ยวอี้ก็เปลี่ยนไปทันที เธอหันไปมองเจียงสื้อสื้อด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “นี่เหรอเพื่อนที่เธอพูดถึง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!