ช่วงสองวันที่ผ่านมาจิ้นเฟิงเฉินไม่ได้เจอซูหยุนเลย
หากจะกล่าวให้ถูกต้องยิ่งขึ้น ควรจะบอกว่าซูหยุนกำลังหลบหน้าเขาอยู่ต่างหาก
บ่ายวันนี้ เขาไปที่สวนหลังบ้านอยากจะไปหาและพูดคุยกับเธอ
แต่ทันทีที่เธอเห็นเขา เธอก็วิ่งหนีไปแล้ว วิ่งหนีเข้าไปหลบในห้อง
เขาอดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ หรือว่าหยวนหยวนไปพูดอะไรกับเธออีกแล้วอย่างนั้นเหรอ?
ถึงแม้ว่าเขาอยากจะไปถามเธอให้ชัดเจน แต่พอเห็นเธอหลบหน้าตัวเองแบบนี้ ก็รู้แล้วว่าในระยะเวลาอันสั้นนี้เธอคงไม่หวังให้ตัวเองไปหาเธออย่างแน่นอน
เขาทำได้เพียงแค่ยอมแพ้ และเดินขึ้นชั้นบนไป
เจียงสื้อสื้อเปิดประตูห้อง ยื่นศีรษะออกมามองซ้ายมองขวา ก็ไม่เห็นร่างที่เฝ้าคิดถึงทั้งวันทั้งคืนร่างนั้นอยู่แล้ว
แววความผิดหวังแวบผ่านขึ้นมาในดวงตา
เธอปิดประตูลง ก้มศีรษะลงต่ำ ถอนหายใจพ่นออกมาทางริมฝีปากแรงๆ
ระยะนี้เธอเอาแต่หลบหน้าเขาตลอด เพราะซ่างกวนหยวนส่งคนมาคอยจับตาดูเธออยู่ตลอดเวลา
ทันทีที่พบว่าเธอแอบเจอกับเฟิงเฉินเป็นการส่วนตัว เธอก็จะถูกไล่ออกจากบ้านตระกูลซ่างกวนทันที
ดังนั้น เธอจึงทำได้เพียงแค่หักห้ามใจที่อยากจะพบเขาเอาไว้ และอยู่แต่ในสวนดอกไม้หลังบ้านอย่างเชื่อฟัง ว่าง่าย
"ต้องเรียนรู้ที่จะอดทน เรียนรู้ที่จะรอโอกาส"
นี่คือสิ่งที่ซ่างกวนเชียนบอกกับเธอ
เธอรู้ว่าหลายครั้งก่อนหน้านี้เธอใจร้อนเกินไป ถึงได้ทำให้ซ่างกวนหยวนเกิดหวาดระแวงและคิดอยากจะกีดกันเธอขึ้นมา
และในตอนนี้ สิ่งที่เธอต้องทำคือปล่อยให้ซ่างกวนหยวนค่อยๆ ผ่อนคลายความระแวดระวังที่มีต่อเธอลง
จะต้องมีโอกาสแน่นอน
เจียงสื้อสื้อบอกตัวเองแบบนี้ในใจ
เมื่อกลับขึ้นชั้นบน จิ้นเฟิงเฉินก็ตรงไปที่ห้องหนังสือ
ซ่างกวนหยวนกำลังจัดการงานบางอย่างอยู่ในห้องหนังสือ ทันทีที่เห็นเขาเข้ามา เธอก็วางแฟ้มในมือลงทันที มุมปากกระตุกโค้งขึ้น เอ่ยปากถามเสียงเบา "มีอะไรเหรอคะ?"
จิ้นเฟิงเฉินส่ายหัวไปมา "เปล่า แค่เบื่อนิดหน่อย"
เขาเดินเข้าไป พลางเหลือบมองแฟ้มเอกสารที่เธอเพิ่งดูอยู่เมื่อครู่นี้ด้วย
"กำลังดูแผนเสนอโปรเจ็กต์?"
"อืม กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ แล้วนี่ก็เป็นแผนการตลาด"
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ซ่างกวนหยวนก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย "แต่ว่า ฉันไม่ค่อยพอใจกับแผนนี้เท่าไหร่"
"ให้ผมดูหน่อยได้ไหม?" จิ้นเฟิงเฉินถาม
"ได้สิ"
ซ่างกวนหยวนยื่นแผนโครงการให้เขา
จิ้นเฟิงเฉินอ่านดูคร่าวๆ อย่างจริงจังหนึ่งรอบ แล้วก็คิดบางอย่างออก "นี่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ให้ดารามาเป็นตัวแทนโปรโมทให้ตั้งแต่แรกแบบนี้จะเหมาะเหรอ?"
"แล้วมันไม่เหมาะเหรอ?" ซ่างกวนหยวนถามกลับ
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มเล็กน้อย "มันไม่ค่อยเหมาะนิดหน่อย เพราะยังไงก็เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ถ้าเธอหาดาราทั่วไปมาเป็นตัวแทนโปรโมทก็คงจะไม่บรรลุผลในการประชาสัมพันธ์ แต่ถ้าหาดาราดังที่มีชื่อเสียง ค่าโปรโมทก็สูงมาก คำนวณดูแล้วเงินทุนสูงมากเกินไป"
คาดไม่ถึงว่าเขาจะวิเคราะห์ออกมาจริงๆ ทำเอาซ่างกวนหยวนตกตะลึงไปเล็กน้อย
แต่เมื่อคิดอีกที เขาเป็นถึงท่านประธานของจิ้นกรุ๊ป มีอำนาจทางด้านการตลาดมาตั้งไม่รู้กี่ปี แผนการตลาดง่ายๆ แค่นี้มันจะยากสำหรับเขาได้ยังไง?
"ถ้าอย่างนั้นคุณคิดว่าควรทำยังไงคะ?" ซ่างกวนหยวนถาม
"อืม......" จิ้นเฟิงเฉินครุ่นคิดอย่างจริงจังอยู่ครู่หนึ่ง "ตอนนี้เป็นยุคสื่อในตัวเองไม่ใช่เหรอ?"
ซ่างกวนหยวนพยักหน้า "ใช่จริงด้วย"
"คุณสามารถหาบัญชีสื่อส่วนตัวที่มีคุณภาพสูงสักสองสามบัญชี ให้พวกเขาโพสต์ข้อความโฆษณาก่อน ผมคิดว่าแบบนี้น่าจะได้ผลการโปรโมทมากกว่าการจ้างดาราระดับสามนะ"
"แต่ถ้าหาสื่อส่วนตัวมาโปรโมทอย่างเดียว เกรดมันจะดูต่ำเกินไปไหม?"
ในความคิดของซ่างกวนหยวน เมื่อเทียบกับการเชิญดารามาเป็นตัวแทนโปรโมทแล้ว การให้สื่อส่วนตัวมาโปรโมทระดับเกรดค่อนข้างต่ำเกินไปจริงๆ ถ้าโปรโมทไม่ดี มันคงได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์โปรโมทผ่านวีแชทในปากของหมู่ผู้คนแน่
"ขอเพียงโปรโมทชื่อผลิตภัณฑ์ออกไป หลังจากปูฐานชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักได้บ้างแล้ว คุณค่อยเชิญดารามาโปรโมทใหม่อีกครั้งก็ได้"
ซ่างกวนหยวนครุ่นคิดอย่างจริงจังอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า "ฉันเชื่อคุณค่ะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!