ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 1261

สรุปบท บทที่ 1261 เป็นสามีของฉันซ่างกวนหยวน!: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

อ่านสรุป บทที่ 1261 เป็นสามีของฉันซ่างกวนหยวน! จาก ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

บทที่ บทที่ 1261 เป็นสามีของฉันซ่างกวนหยวน! คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เมียวเมียว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ช่วงสองวันที่ผ่านมาจิ้นเฟิงเฉินไม่ได้เจอซูหยุนเลย

หากจะกล่าวให้ถูกต้องยิ่งขึ้น ควรจะบอกว่าซูหยุนกำลังหลบหน้าเขาอยู่ต่างหาก

บ่ายวันนี้ เขาไปที่สวนหลังบ้านอยากจะไปหาและพูดคุยกับเธอ

แต่ทันทีที่เธอเห็นเขา เธอก็วิ่งหนีไปแล้ว วิ่งหนีเข้าไปหลบในห้อง

เขาอดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ หรือว่าหยวนหยวนไปพูดอะไรกับเธออีกแล้วอย่างนั้นเหรอ?

ถึงแม้ว่าเขาอยากจะไปถามเธอให้ชัดเจน แต่พอเห็นเธอหลบหน้าตัวเองแบบนี้ ก็รู้แล้วว่าในระยะเวลาอันสั้นนี้เธอคงไม่หวังให้ตัวเองไปหาเธออย่างแน่นอน

เขาทำได้เพียงแค่ยอมแพ้ และเดินขึ้นชั้นบนไป

เจียงสื้อสื้อเปิดประตูห้อง ยื่นศีรษะออกมามองซ้ายมองขวา ก็ไม่เห็นร่างที่เฝ้าคิดถึงทั้งวันทั้งคืนร่างนั้นอยู่แล้ว

แววความผิดหวังแวบผ่านขึ้นมาในดวงตา

เธอปิดประตูลง ก้มศีรษะลงต่ำ ถอนหายใจพ่นออกมาทางริมฝีปากแรงๆ

ระยะนี้เธอเอาแต่หลบหน้าเขาตลอด เพราะซ่างกวนหยวนส่งคนมาคอยจับตาดูเธออยู่ตลอดเวลา

ทันทีที่พบว่าเธอแอบเจอกับเฟิงเฉินเป็นการส่วนตัว เธอก็จะถูกไล่ออกจากบ้านตระกูลซ่างกวนทันที

ดังนั้น เธอจึงทำได้เพียงแค่หักห้ามใจที่อยากจะพบเขาเอาไว้ และอยู่แต่ในสวนดอกไม้หลังบ้านอย่างเชื่อฟัง ว่าง่าย

"ต้องเรียนรู้ที่จะอดทน เรียนรู้ที่จะรอโอกาส"

นี่คือสิ่งที่ซ่างกวนเชียนบอกกับเธอ

เธอรู้ว่าหลายครั้งก่อนหน้านี้เธอใจร้อนเกินไป ถึงได้ทำให้ซ่างกวนหยวนเกิดหวาดระแวงและคิดอยากจะกีดกันเธอขึ้นมา

และในตอนนี้ สิ่งที่เธอต้องทำคือปล่อยให้ซ่างกวนหยวนค่อยๆ ผ่อนคลายความระแวดระวังที่มีต่อเธอลง

จะต้องมีโอกาสแน่นอน

เจียงสื้อสื้อบอกตัวเองแบบนี้ในใจ

เมื่อกลับขึ้นชั้นบน จิ้นเฟิงเฉินก็ตรงไปที่ห้องหนังสือ

ซ่างกวนหยวนกำลังจัดการงานบางอย่างอยู่ในห้องหนังสือ ทันทีที่เห็นเขาเข้ามา เธอก็วางแฟ้มในมือลงทันที มุมปากกระตุกโค้งขึ้น เอ่ยปากถามเสียงเบา "มีอะไรเหรอคะ?"

จิ้นเฟิงเฉินส่ายหัวไปมา "เปล่า แค่เบื่อนิดหน่อย"

เขาเดินเข้าไป พลางเหลือบมองแฟ้มเอกสารที่เธอเพิ่งดูอยู่เมื่อครู่นี้ด้วย

"กำลังดูแผนเสนอโปรเจ็กต์?"

"อืม กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ แล้วนี่ก็เป็นแผนการตลาด"

เมื่อพูดถึงตรงนี้ ซ่างกวนหยวนก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย "แต่ว่า ฉันไม่ค่อยพอใจกับแผนนี้เท่าไหร่"

"ให้ผมดูหน่อยได้ไหม?" จิ้นเฟิงเฉินถาม

"ได้สิ"

ซ่างกวนหยวนยื่นแผนโครงการให้เขา

จิ้นเฟิงเฉินอ่านดูคร่าวๆ อย่างจริงจังหนึ่งรอบ แล้วก็คิดบางอย่างออก "นี่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ให้ดารามาเป็นตัวแทนโปรโมทให้ตั้งแต่แรกแบบนี้จะเหมาะเหรอ?"

"แล้วมันไม่เหมาะเหรอ?" ซ่างกวนหยวนถามกลับ

จิ้นเฟิงเฉินยิ้มเล็กน้อย "มันไม่ค่อยเหมาะนิดหน่อย เพราะยังไงก็เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ถ้าเธอหาดาราทั่วไปมาเป็นตัวแทนโปรโมทก็คงจะไม่บรรลุผลในการประชาสัมพันธ์ แต่ถ้าหาดาราดังที่มีชื่อเสียง ค่าโปรโมทก็สูงมาก คำนวณดูแล้วเงินทุนสูงมากเกินไป"

คาดไม่ถึงว่าเขาจะวิเคราะห์ออกมาจริงๆ ทำเอาซ่างกวนหยวนตกตะลึงไปเล็กน้อย

แต่เมื่อคิดอีกที เขาเป็นถึงท่านประธานของจิ้นกรุ๊ป มีอำนาจทางด้านการตลาดมาตั้งไม่รู้กี่ปี แผนการตลาดง่ายๆ แค่นี้มันจะยากสำหรับเขาได้ยังไง?

"ถ้าอย่างนั้นคุณคิดว่าควรทำยังไงคะ?" ซ่างกวนหยวนถาม

"อืม......" จิ้นเฟิงเฉินครุ่นคิดอย่างจริงจังอยู่ครู่หนึ่ง "ตอนนี้เป็นยุคสื่อในตัวเองไม่ใช่เหรอ?"

ซ่างกวนหยวนพยักหน้า "ใช่จริงด้วย"

"คุณสามารถหาบัญชีสื่อส่วนตัวที่มีคุณภาพสูงสักสองสามบัญชี ให้พวกเขาโพสต์ข้อความโฆษณาก่อน ผมคิดว่าแบบนี้น่าจะได้ผลการโปรโมทมากกว่าการจ้างดาราระดับสามนะ"

"แต่ถ้าหาสื่อส่วนตัวมาโปรโมทอย่างเดียว เกรดมันจะดูต่ำเกินไปไหม?"

ในความคิดของซ่างกวนหยวน เมื่อเทียบกับการเชิญดารามาเป็นตัวแทนโปรโมทแล้ว การให้สื่อส่วนตัวมาโปรโมทระดับเกรดค่อนข้างต่ำเกินไปจริงๆ ถ้าโปรโมทไม่ดี มันคงได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์โปรโมทผ่านวีแชทในปากของหมู่ผู้คนแน่

"ขอเพียงโปรโมทชื่อผลิตภัณฑ์ออกไป หลังจากปูฐานชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักได้บ้างแล้ว คุณค่อยเชิญดารามาโปรโมทใหม่อีกครั้งก็ได้"

ซ่างกวนหยวนครุ่นคิดอย่างจริงจังอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า "ฉันเชื่อคุณค่ะ"

"แล้วซูหยุนล่ะ?" ซ่างกวนเชียนเอ่ยถามอีกครั้ง

"วันนี้เธอทำตัวดีอยู่แต่ในสวนหลังบ้านอย่างเดียวเลยครับ" ได้ยินดังนั้น ซ่างกวนเชียนก็แอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ดูเหมือนว่าเธอจะเชื่อฟังคำพูดของเขาแล้ว

จากนั้นเขาก็เดินขึ้นชั้นบนมาถึงประตูหน้าห้องหนังสือ

ประตูห้องไม่ได้ปิดสนิท แต่เหลือช่องว่างเล็กๆ เอาไว้

ขณะที่เขากำลังจะเอื้อมมือออกไปจะผลักเปิดออก เสียงของซ่างกวนหยวนก็สะท้อนออกมาจากข้างใน

"เฟิงเฉิน คุณนี่เป็นอัจฉริยะด้านการตลาดจริงๆ ไม่ว่าจะแผนโปรเจ็กต์ไหนคุณก็สามารถคิดแผนที่เหมาะสมที่สุดได้"

ได้ยินดังนั้น ซ่างกวนเชียนรีบผลักประตูเปิดออกและเดินเข้าไป

เห็นจิ้นเฟิงเฉินนั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงาน กำลังก้มหน้าดูเอกสาร

เขาขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น รีบสาวเท้าเดินเข้าไป แล้วเอ่ยถามขึ้นเสียงดังว่า "หยวนหยวน เธอให้เขาดูแผนโปรเจ็กต์ของบริษัทเราได้ยังไง?"

ทันทีที่คำพูดนี้เปล่งออกมา ซ่างกวนหยวนกับจิ้นเฟิงเฉินเงยหน้าขึ้นพร้อมกัน

"ไม่ได้เหรอ?" ซ่างกวนหยวนถามกลับ

"มันไม่ได้อยู่แล้ว เขาเป็นถึง......"

ซ่างกวนเชียนสบสายตามึนงงของจิ้นเฟิงเฉิน ก่อนจะชะงักไป

"เขาเป็นอะไร?" ซ่างกวนหยวนลุกขึ้น มุมปากฉีกโค้งขึ้นอย่างเยาะเย้ย "นายกำลังจะบอกว่าาเขาเป็นประธานของจิ้นกรุ๊ปเหรอ?"

ซ่างกวนเชียนไม่ได้พูดอะไร

เขาอยากจะพูดแบบนั้นจริงๆ แต่จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าเขาความจำเสื่อม จำสถานะและตัวตนของตัวเองไม่ได้เลย

ดังนั้นแม้ว่าเขาจะดูแผนโปรเจ็กต์ไปแล้วก็ไม่มีผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น

ซ่างกวนหยวนหรี่ตา "ซ่างกวนเชียน โปรดจำเอาไว้ด้วยว่านั่นคือตัวตนในอดีตของเขา นับแต่นี้เป็นต้นไป ตัวตนเดียวของเขาคือสามีของซ่างกวนหยวน!"

ซ่างกวนเชียนมองเธออย่างนิ่งเงียบ ผ่านไปพักใหญ่ถึงได้เอ่ยปากพูดขึ้น "ใช่เหรอ? เธอคิดว่าพวกเธอจะได้แต่งงานกันจริงๆ เหรอ?"

"แน่นอน" ซ่างกวนหยวนตอบอย่างมั่นใจ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!