อ่านสรุป บทที่1322 ไม่จำเป็นต้องแยกห้องกันนอน จาก ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว
บทที่ บทที่1322 ไม่จำเป็นต้องแยกห้องกันนอน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เมียวเมียว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
"หรือว่าฉันพูดผิดหรือไง?"เจียงสื้อสื้อถาม
จิ้นเฟิงเหราส่ายหัว"เปล่าครับ คุณพูดถูก พี่ของผมเป็นคนตระกูลจิ้น ต้องกลับมาที่ตระกูลจิ้นแน่นอนอยู่แล้ว"
"ดังนั้น นายยังต้องลำบากไปอีกสักพัก"เจียงสื้อสื้อพูดขึ้น"พี่ของนายความจำยังไม่กลับคืนมา อย่าคิดว่าเขาจะสามารถจัดการเรื่องบริษัทได้หรอกนะ"
จิ้นเฟิงเหราหลุดขำ"วางใจได้ ผมแค่พูดล้อเล่นกับเขาเท่านั้น ต่อให้เขาความทรงจำกลับมาแล้ว ผมก็ไม่มีทางให้เขารับงานของผมในทันทีหรอกครับ"
"ขอบคุณนะ"
ช่วงเวลานี้ ถ้าไม่มีเขา จิ้นกรุ๊ปกับตระกูลจิ้นจะต้องวุ่นวายแน่ๆ
"คนครอบครัวเดียวกันไม่ต้องเกรงใจกันขนาดนี้หรอกครับ"จิ้นเฟิงเหรายิ้มให้กับเธอ
พอกินซุปเสร็จ แม่จิ้นเห็นว่าจิ้นเฟิงเฉินดูเหน็ดเหนื่อย ก็เลยให้เจียงสื้อสื้อพาเขาขึ้นไปพักผ่อนข้างบน
"แม่ให้คนรับใช้จัดการทำความสะอาดห้องไว้แล้ว ผ้าปูที่นอนผ้าห่มก็เปลี่ยนใหม่หมดแล้ว พวกลูกขึ้นไปนอนได้เลย"แม่จิ้นพูดขึ้น
เจียงสื้อสื้อตอบรับกลับมา"ค่ะ" ก่อนจะพาจิ้นเฟิงเฉินขึ้นไปข้างบน
พอกลับมาถึงห้อง เจียงสื้อสื้อก็มองเตียงใหญ่ที่มีแค่เตียงเดียว เงียบไปสักพัก ก่อนจะหันกลับไปพูดกับจิ้นเฟิงเฉิน"คุณนอนที่นี่แล้วกัน เดี๋ยวฉันจะไปนอนกับลูกเอง"
พูดเสร็จ เธอก็หันตัวกำลังจะออกไป
จิ้นเฟิงเฉินคว้าข้อมือของเธอเอาไว้
เจียงสื้อสื้อหันหน้ากลับมา
ตาสองคู่มองจ้องกัน
ริมฝีปากบางๆ ของจิ้นเฟิงเฉินเปิดออกเล็กน้อย น้ำเสียงทุ้มหนาดังขึ้นมาในห้องที่เงียบสงัด
"พวกเราเป็นสามีภรรยากัน ไม่จำเป็นต้องแยกห้องนอนหรอก"
แน่นอนว่าเจียงสื้อสื้อก็ไม่ได้อยากจะให้พวกเขาแยกห้องกันนอนอยู่แล้ว แต่แค่กลัวว่าตอนนี้เขายังความจำเสื่อมอยู่ ถ้าทั้งสองคนนอนเตียงเดียวกัน เดี๋ยวเขาจะรู้สึกอึดอัดได้
"คุณวางใจได้ ช่วงที่ผมความจำยังไม่กลับมา ผมจะไม่แตะต้องคุณแน่นอน"จิ้นเฟิงเฉินนึกว่าเธอกำลังกังวลเรื่องนี้
เจียงสื้อสื้อเขินจนหน้าแดงทันที"คุณคิดเยอะเกินไปแล้ว ฉันแค่กลัวคุณรู้สึกอึดอัดเท่านั้น ก็เลยอยากที่จะแยกห้องนอน"
ถ้าเขาไม่ได้ความจำเสื่อม ก็เรียกได้ว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยาที่แต่งงานกันมานานมากแล้ว
แต่เธอยังรู้สึกเขินอายอยู่
น่ารักจริงๆ
จิ้นเฟิงเฉินยกมุมปากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว สายตาที่มองเธอมันดูอ่อนโยนเป็นพิเศษ
"คุณวางใจได้ ผมจะไม่รู้สึกอึดอัดแน่นอน"เขาพูด
"ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย"
ในเมื่อเขาพูดขนาดนี้แล้ว เจียงสื้อสื้อก็เลยอยู่ห้องนี้ต่อ
เธอเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว หยิบชุดนอนของเขาออกมา วางลงบนมือของเขา"ไปอาบน้ำก่อนสิ จะได้สบายตัว"
"ครับ"
จิ้นเฟิงเฉินเดินถือชุดนอนเข้าไปในห้องน้ำ
ส่วนเจียงสื้อสื้อไปอยู่เป็นเพื่อนกับเด็กน้อยทั้งสองคนที่ห้องเด็กเล่น
พอเธอกลับมาที่ห้อง จิ้นเฟิงเฉินก็อาบน้ำเสร็จออกมาแล้ว กำลังใช้ผ้าขนหนูเช็ดผม
เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ หยิบไดร์เป่าผมออกมา
"ฉันช่วยคุณเป่าผมเอง"
จิ้นเฟิงเฉินอยากจะปฏิเสธ แต่ยังไม่ทันพูดออกมา ก็ถูกเธอกดให้นั่งลงที่ขอบเตียงแล้ว
มีเสียงลม"ฟู่ๆ "ดังขึ้นมาที่ข้างๆ หู นิ้วมือของเธอสางผมของเขาเบาๆ
จิ้นเฟิงเฉินเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่จริงจังของเธอ รู้สึกอิ่มเอมไปทั้งหัวใจ
เป่าผมเสร็จ เจียงสื้อสื้อก็มองต่ำลง มองเข้าไปเห็นลูกตาดำที่ลึกของเขาเข้าพอดี อึ้งไปสักพัก ก่อนจะยิ้มออกมา"ทำไมถึงมองฉันขนาดนี้ล่ะ?"
"เพราะว่าคุณสวย"
เจียงสื้อสื้อหัวเราะออกมา"มองฉันมานานขนาดนี้แล้ว ยังมองไม่เบื่ออีกเหรอ"
"ผมคิดว่าผมไม่น่าจะเบื่อ ไม่ว่าจะเป็นผมเมื่อก่อน หรือว่าผมตอนที่ความจำเสื่อม"จิ้นเฟิงเฉินตอบกลับมาอย่างจริงจัง
เจียงสื้อสื้อกัดริมฝีปากล่าง ก่อนจะก้มหัวลงไป จูบลงที่ริมฝีปากของเขา
ตอนแรกเธอกะที่จะจูบลงไปเบาๆ
ใครจะไปรู้ว่าเอวของเธอเข้าไปแนบใกล้ชิดเขาอย่างแนบแน่น
เขาจูบดูดดื่มมากขึ้น
ใจเต้นแรงไม่น้อย
เจียงสื้อสื้อค่อยๆ หลับตาลง ยอมให้เขามายึดครองตัวเธอ
บรรยากาศในห้องค่อยๆ อ่อนโยน
ตึ้ง!
ไดร์เป่าผมตกลงบนพื้น
จิ้นเฟิงเฉินสะดุ้ง รีบผลักเจียงสื้อสื้อออกทันที
ทุกคำตอบของจิ้นเฟิงเฉิน เหมือนกับรู้มาก่อนว่าเขาจะถามอะไรอย่างนั้นแหละ
ยิ่งคิดก็ยิ่งแปลก
ดังนั้น ซ่างกวนเชียนจึงให้ผู้ช่วยไปตรวจสอบดูว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
ไม่นานก็ได้ผลลัพธ์มา
"คุณผู้หญิงกับคุณชายเฟิงเฉินไม่ได้เช็คอินครับ ถึงขนาดที่ไม่ได้ไปที่สนามบินเลยด้วยซ้ำครับ"
พอได้ยินรายงานของผู้ช่วย ซ่างกวนเชียนก็รู้สึกตกใจไม่น้อย"นายไม่ได้ทำผิดพลาดใช่ไหม? พวกเขาจะไม่ได้เช็คอินได้ยังไง?"
"มันเป็นแบบนี้จริงๆ ครับ"
ซ่างกวนเชียนขมวดคิ้ว"ถ้าไม่ได้เช็คอิน แล้วไปไหนล่ะ?"
"ผมตรวจสอบมาแล้วครับ แต่ไม่พบอะไรเลย"
ความหมายก็คือไม่รู้ว่าพวกเขาไปที่ไหน
ในเวลานี้ ซ่างกวนเชียนตระหนักได้ถึงความรุนแรงของเรื่องที่เกิดขึ้น รีบพูดสั่งขึ้นทันที"ตรวจสอบต่อไป ต้องหาพวกเขาให้เจอให้ได้"
"ครับ"
ผู้ช่วยรับคำสั่งก่อนจะออกไปอย่างเร่งรีบ
ซ่างกวนเชียนโทรออกไปยังเบอร์ของจิ้นเฟิงเฉินอีกครั้ง
ครั้งนี้ อีกฝั่งปิดเครื่องไปแล้ว
ซ่างกวนเชียนเอามือลงอย่างช้าๆ แววตาดูดุร้ายขึ้นมา
ดูท่าจิ้นเฟิงเฉินมีอะไรแปลกไปจริงๆ
......
ในเวลานี้ ซ่างกวนหยวนที่ถูกขังไว้ที่วิลล่า พยายามหนีไปหลายครั้ง แต่ก็ถูกจับกลับมาทุกครั้ง
"พวกแกเป็นคนที่พ่อเลี้ยงของฉันเลี้ยงดูมา แต่พวกแกกลับทรยศเขาเนี่ยนะ ไม่กลัวเขาจะไม่ปล่อยพวกแกไปหรือไง?"ซ่างกวนหยวนพูดตะคอกใส่คนที่เฝ้าเธอด้วยความโมโหเกรี้ยวกราด
อีกฝั่งไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย
พอเห็นแบบนี้ ซ่างกวนหยวนก็พูดตะคอกขึ้นอีก"พวกแกไปบอกจิ้นเฟิงเฉิน ว่าฉันอยากพบเขา!ได้ยินไหม? ฉันอยากพบเขา!"
"คุณผู้หญิงครับ คุณสงบจิตสงบใจรอที่นี่นั่นแหละ ถ้าคุณชายเฟิงเฉินอยากพบคุณ เขาจะมาหาคุณเอง"อีกฝั่งพูดขึ้นอย่างไม่เร่งไม่รีบ
พอได้ยินแบบนี้ ซ่างกวนหยวนก็สบถออกมาอย่างเย้ยหยัน"เขาจะมาหาฉันเหรอ? ตอนนี้เขากำลังอยู่กับผู้หญิงคนนั้น เป็นไปได้ยังไงที่จะจำฉันได้?"
พอพูดถึงตรงนี้ สีหน้าของเธอก็โศกเศร้าไม่น้อย"เขาใจอำมหิตเกินไปแล้วจริงๆ ถึงทำกับฉันได้ขนาดนี้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!