จิ้นเฟิงเฉินจึงเดินออกจากห้องทำงาน และแค่ครู่เดียวเขาก็เห็นเจียงสื้อสื้อที่ศึกษาดูแฟ้มเอกสารอย่างตั้งใจ ตรงหน้าโต๊ะห้องทำงาน
เธอดูเอาจริงเอาจังอย่างมาก จนไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าเขาได้เข้ามาข้างในแล้ว
จนกระทั่ง.....
ก๊อกๆ!
จิ้นเฟิงเฉินงอนิ้วขึ้นเคาะพื้นโต๊ะเบาๆ
เจียงสื้อสื้อเงยหน้าขึ้น และเห็นว่าเป็นเขา จากนั้นรอยยิ้มที่สดใสก็ค่อยๆ เบ่งบานขึ้นบนใบหน้าของเธอ
"คุณมาได้ไง ทำงานเสร็จแล้วเหรอ?"
จิ้นเฟิงเฉินยกมือขึ้น และใช้ปลายนิ้วเคาะบนนาฬิกาข้อมือ "เที่ยงแล้วนะ"
"เหรอคะ?" เจียงสื้อสื้อจึงเหลือบมองเวลาที่ด้านล่างขวามือของคอมพิวเตอร์ทันที
สิบสองนาฬิกายี่สิบนาทีแล้วนิ
เที่ยงแล้วจริงๆ
เธอยิ้มอย่างจนปัญญา "ฉันไม่ได้ตั้งใจขนาดนี้มานานแล้ว เลยลืมดูเวลาไปเลย"
"ไปทานข้าวกันเถอะ" จิ้นเฟิงเฉินพูด
"ได้ค่ะ"
เจียงสื้อสื้อลุกขึ้น พร้อมกับสะพายกระเป๋าที่อยู่ข้างๆ
เมื่อเห็นดังนั้น จิ้นเฟิงเฉินจึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า "แค่ทานข้าวในโรงอาหารของบริษัทเอง ไม่ต้องนำกระเป๋าไปด้วยหรอก"
"เหรอคะ"
เจียงสื้อสื้อจึงวางกระเป๋าลงอย่างเชื่อฟัง แล้วเดินไปข้างๆ เขา
จิ้นเฟิงเฉินจึงถือโอกาสจูงเธอออกไป
พวกเขาเจอพนักงานระหว่างทางไม่น้อยเลย ซึ่งเหล่าพนักงานนั้นต่างก็พากันหยุดฝีเท้าลง พร้อมกับพูดทักทายด้วยความเคารพ "ท่านประธาน คุณนายสวัสดีครับ/ค่ะ"
ใบหน้าที่หล่อเหลาของจิ้นเฟิงเฉินดูสงบอย่างมาก และเขาก็เดินไปข้างหน้าอย่างเคร่งขรึม
แต่เจียงสื้อสื้อกลับยิ้มและพยักหน้าให้พวกเขา
ทันทีที่ไปถึงโรงอาหาร เดิมทีที่มีเสียงดังอยู่บ้างนั้น ก็เงียบลงทันที
และทุกคนก็พากันมองมา
และแค่ครู่เดียวพวกเขาก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกสายตา เจียงสื้อสื้อรู้สึกอึดอัด เธอจึงจับมือของจิ้นเฟิงเฉินไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว
เธอกลัวว่าทุกคนจะลุกขึ้น แล้วพากันทักทายอย่างสุขภาพว่า "ท่านประธาน" และ "คุณนาย"
โชคดีที่ไม่ได้เป็นอย่างนั้น
เพราะไม่นานทุกคนก็ละสายตาไปอย่างรวดเร็ว แล้วก้มหน้าทานข้าวในจานของตัวเองอย่างเงียบๆ
เจียงสื้อสื้อถอนหายใจด้วยความโล่งอกยาวๆ
จิ้นเฟิงเฉินจึงพาเธอไปยังที่ที่สั่งอาหาร "อยากทานอะไรก็เลือกเองเลยนะ"
เจียงสื้อสื้อมองดูเมนูอาหาร ซึ่งก็มีทั้งกับข้าวและก๋วยเตี๋ยว หรือแม้แต่อาหารญี่ปุ่นก็มีด้วย
เธอจึงสั่งข้าวหน้าปลาไหลไปจานหนึ่ง
"แล้วคุณอยากทานอะไรล่ะ?" เจียงสื้อสื้อหันหน้ามาแล้วถามเขาไป
"เหมือนคุณ"
ดังนั้น พวกเขาทั้งสองจึงหยิบข้าวปลาไหลชุดเดียวกันแล้วหาที่นั่งลง
ทันทีที่นั่งลง เจียงสื้อสื้อก็ได้ยินพนักงานจากด้านหลังพูดอย่างชัดเจนว่า "ท่านประธานกับภรรยาของเขานี่รักกันมากจริงๆ เน้อ อย่าพูดว่ารักกันจนไม่อาจพลาดจากกันได้เลย แม้แต่กับข้าวพวกเขายังสั่งอย่างเดียวกัน"
"ใช่แล้ว รักกันมากจริงๆ เลย ฉันอิจฉามากเลย"
แม้ว่าพวกเขาจะพยายามลดเสียงให้เบาลง แต่เจียงสื้อสื้อยังคงได้ยินทุกอย่างอย่างชัดเจน เธอจึงลืมตาขึ้นมองจิ้นเฟิงเฉินที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเธอ
และเขาก็คงจะได้ยินแล้วเช่นกัน
เมื่อได้ยินเหล่าพนักงานพูดถึงตัวเอง ไม่รู้ว่าเขาจะรู้สึกยังไงเน้อ
เจียงสื้อสื้อจึงอดสงสัยไม่ได้ เธอก้มลงทานอาหารไปคำหนึ่ง แล้วกะพริบตา แล้วเอ่ยปากถามไปว่า
"คุณคงไม่ชอบให้พนักงานพูดถึงตัวเองสินะ?"
จิ้นเฟิงเฉินจึงเปิดเปลือกตาออก และสายตาที่เย็นยะเยือกก็หยุดอยู่ที่ใบหน้าซึ่งอยากรู้อยากเห็นของเธอ จากนั้นมุมปากของเขาก็ค่อยๆ ยกยิ้มขึ้น "ที่พวกเขาพูดน่ะมันคือความจริง ดังนั้นผมจึงไม่รู้สึกรังเกียจ"
"มีใครรู้สึกว่าตัวเองรักกันมากที่ไหนกันล่ะ" เจียงสื้อสื้อทำท่าทีโกรธเขาไปครู่หนึ่ง
จิ้นเฟิงเฉินยิ้ม แต่กลับไม่พูดอะไร
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ พวกเขาก็กลับไปที่ห้องทำงาน และเจียงสื้อสื้อก็พักผ่อนไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เข้าสู่การทำงานอีกครั้ง
เมื่อเห็นว่าเธอจริงจังกับงานมาก จิ้นเฟิงเฉินก็แอบกังวลเล็กน้อย
เขาหวังว่าจิตใจของเธอจะยังอยู่กับตัวเขา
จิ้นเฟิงเฉินตกใจกับความคิดนี้ของตัวเอง จากนั้นเขาก็อดยิ้มไม่ได้ ทำไมเขาถึงรู้สึกหึงหวงเหมือนเด็กน้อยเลย?
เขาจึงหันกลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง
เมื่อประตูห้องทำงานของท่านประธานปิดลง เจียงสื้อสื้อก็เงยหน้าขึ้น และสายตาของเธอก็แอบส่องผ่านประตูกระจก จากนั้นมุมปากของเธอก็ค่อยๆ ยกขึ้นมา
ความรู้สึกในการทำงานด้วยกันของพวกเขาทั้งสองก็ไม่เลวเหมือนกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!