"คุณเป็นอะไรไป?" จิ้นเฟิงเฉินเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเธอ ดังนั้นเขาจึงถามด้วยความเป็นห่วงไป
เจียงสื้อสื้อก้มหน้าลง และครุ่นคิดอย่างเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้นมา แล้วยิ้มให้เขา "ไม่เป็นไรนิคะ"
"จริงเหรอ?" ปฏิกิริยาเมื่อครู่นี้ของเธอมันดูเหมือนไม่มีเรื่องอะไรที่ไหนกัน
"จริงค่ะ" เจียงสื้อสื้อมองไปรอบๆ แต่กลับไม่มีคนที่จะเป็นที่น่าสงสัยเลย
บางทีอาจเป็นแค่ตัวเองหลอนไปจริงๆ แต่คงไม่ต้องพูดกับจิ้นเฟิงเฉินหรอก
จิ้นเฟิงเฉินมองเธอ ด้วยท่าทางครุ่นคิด
"ฉันเหนื่อย เรากลับบ้านกันเถอะ" เจียงสื้อสื้อพูด
"ได้เลย"
เมื่อกลับถึงบ้านก็เกือบจะห้าทุ่มแล้ว เจียงสื้อสื้อจึงอาบน้ำและเข้านอนไป บางทีอาจเป็นเพราะเธอเหนื่อยจริงๆ ไม่นานจึงเผลอหลับไป
จิ้นเฟิงเฉินช่วยห่มผ้าห่มให้เธอ แล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป
ทันทีที่เข้ามาในห้องหนังสือ เขาก็รีบโทรหากู้เนี่ยนและอิ้งเทียนทันที โดยให้พวกเขามาที่นี่หน่อย
ผ่านไปประมาณยี่สิบกว่านาที คนทั้งสองก็มาถึงพร้อมกัน
"คุณชายครับ เรียกพวกเรามาดึกขนาดนี้มีธุระสำคัญอะไรหรือเปล่าครับ?" กู้เนี่ยนเป็นคนเอ่ยปากถามก่อน
เพราะตอนที่รับสาย เขาเกือบจะหลับไปแล้ว
เมื่ออิ้งเทียนเห็นว่าสีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินดูเคร่งขรึมอย่างมากนั้น เขาก็ถามไปว่า "ถามเรื่องไร้สาระอะไรกัน? มันต้องมีเรื่องที่สำคัญมากสิ ไม่อย่างนั้นคุณชายจะเรียกพวกเรามาดึกขนาดนี้กันทำไม?"
กู้เนี่ยนเอียงตามองเขาไปแวบหนึ่ง "ฉันถามคุณชาย ไม่ใช่ถามนายซะหน่อย"
"ฉัน..."
อิ้งเทียนอยากตีโต้กลับ แต่ในขณะที่เขากำลังจะเอ่ยปากพูดก็ถูกจิ้นเฟิงเฉินขัดจังหวะอย่างเย็นชาทันที "พวกนายช่วยฉันตรวจสอบสักเรื่องหน่อย"
เมื่อพูดถึงธุระสำคัญ กู้เนี่ยนและอิ้งเทียนก็เปลี่ยนสีหน้าขึ้นมาทันที
"คุณชายครับ คุณชายต้องการตรวจสอบอะไรครับ" กู้เนี่ยนถาม
จิ้นเฟิงเฉินนึกถึงปฏิกิริยาของสื้อสื้อบนยอดเขา เขาก็หรี่ตาลง "มีคนกำลังลอบติดตามสื้อสื้ออยู่"
"ลอบติดตามเหรอครับ?"
กู้เนี่ยนและอิ้งเทียนส่งเสียงร้องด้วยความตกใจพร้อมกัน
จิ้นเฟิงเฉินครุ่นคิดไปชั่วขณะหนึ่ง "คืนนี้ฉันรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังจ้องมองฉันกับสื้อสื้อ"
กู้เนี่ยนขมวดคิ้ว "มันเป็นเพราะคุณชายหลอนไปเองหรือเปล่าครับ?"
"เป็นไปไม่ได้หรอก" จิ้นเฟิงเฉินลืมตาขึ้น จากนั้นสายตาที่เย็นชาของเขาก็หยุดอยู่ที่ใบหน้าของเขา เขาพูดอย่างมั่นใจและละเอียดไปว่า "ฉันรู้สึกได้อย่างนั้นจริงๆ และทั้งสื้อสื้อเองก็สังเกตได้อย่างนั้นเหมือนกัน"
แต่เธอแค่ไม่ได้บอกกับเขาเท่านั้น
อิ้งเทียนก้มหน้าลง "คุณชายครับ ผมจะส่งคนไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้เลยครับ"
"ตรวจสอบต้องตรวจสอบอยู่แล้ว แต่จะต้องดำเนินการอย่างลับๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการแหวกหญ้าให้งูตื่น"
และเขาก็ไม่อยากทำให้ผู้อยู่เบื้องหลังรู้ตัวด้วย
"ครับ" อ้งเทียนตอบรับด้วยความเคารพ
"คุณชายครับ ตอนนี้มีคนกำลังลอบติดตามพวกคุณอยู่ พวกคุณจะเข้าจะออกไปไหนต้องระวังหน่อยนะครับ และพยายามอย่าเข้าไปในที่เปลี่ยว" กู้เนี่ยนพูด
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า "ฉันรู้แล้วล่ะ พวกนายไปทำงานกันเถอะ"
"ครับ"
กู้เนี่ยนและอิ้งเทียนรับคำสั่งแล้วเดินจากไปอย่างรีบเร่ง
......
ซ่างกวนหยวนกดดันทนายความให้ซ่างกวนเชียน ช่วยเธอออกมาโดยเร็วอย่างไม่หยุดหย่อน
"ท่านประธานครับ ผมเกรงว่าถ้าคุณหนูยังอยู่อย่างนี้ต่อไป คุณหนูจะยิ่งสติแตกนะครับ" ทนายความเจียงพูดด้วยความกังวล
ซ่างกวนเชียนยกมือขึ้นลูบหว่างคิ้วที่เจ็บของตัวเอง แล้วพูดหัวเราะเยาะตัวเองไปว่า "ผมว่าผมต่างหากที่เป็นฝ่ายสติแตกไปก่อนเสียอีก"
ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องกับซ่างกวนหยวนมา เขาก็นอนไม่หลับเลยสักวัน
"ถ้าอย่างนั้นท่านประธานคิดจะมองดูคุณหนูติดคุกไปหน้าตาเฉยอย่างนี้เหรอครับ?" ทนายความเจียงถาม
"ผมพูดแบบนั้นไปเมื่อไหร่กัน?" ซ่างกวนเชียนวางมือลง พร้อมกับขมวดคิ้ว แล้วมองไปที่เขาด้วยสีหน้าสงบ
ทนายความเจียงจึงก้มหน้าลงด้วยความหวาดกลัว "แน่นอนว่าท่านประธานไม่ได้พูดอย่างนั้นครับ แต่ว่าท่านประธานจะนั่งดูเฉยๆ ไม่ได้นะครับ? สถานการณ์ของคุณหนูแย่มากจริงๆ นะครับ"
ทุกครั้งที่เขาไปเยี่ยมซ่างกวนหยวน เขาก็สามารถรู้สึกได้ถึงว่าสภาพจิตใจของเธอดูแย่ขึ้นทุกครั้ง ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไป คุณหนูคงจะอกแตกตายแน่เลยครับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!