จากการโน้มน้าวใจของเซิ่นมู่ป๋าย เสี่ยวเป่านำเอาเรื่องราวทุกข์ยากที่เขาได้พบเจอทั้งหมดมาเล่าให้
เมื่อพูดถึงเรื่องราวเหล่านี้ ก็แสดงท่าทีโมโหเดือดดาล ใบหน้าเล็กๆ อันบอบบางของเสี่ยวเป่าเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
เซิ่นมู่ป๋ายยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัว แอบดีใจแทนจิ้นเฟิงเฉิน ที่รู้เรื่องได้เร็วแบบนี้ แม้อย่างนั้นจิตใจของเสี่ยวเป่าคงจะบิดเบี้ยวไปจริงๆ เมื่อวานตอนค่ำ หลังจากที่จิ้นเฟิงเฉินติดต่อมา เขาก็จัดการทำแผนการรักษาขึ้นมาหนึ่งแผน
วันนี้เป็นเพียงแค่การสำรวจอาการของเสี่ยวเป่า ในปัจจุบันก่อน ตอนนี้ ก็เห็นแล้วว่ามันรุนแรงกว่าที่เขาคิดเอาไว้
แต่ว่าด้วยความสามารถในสายงานนี้ของเขา เขามีความเชื่อมั่นว่าการรักษาจะผ่านไปได้ด้วยดีอย่างแน่นอน
เมื่อผ่านไปสามสิบนาที เซิ่นมู่ป๋ายกับเสี่ยวเป่าก็เดินตามกันออกมาจากห้อง
"เสี่ยวเป่า วันนี้ลุงเพียงแค่ทดสอบทำความเข้าใจกับอาการของนาย ในตอนนี้ หลังจากนี้ยังมีการรักษาบำบัดอย่างอื่นอีก นายจะต้องมาตามเวลานัด รู้ใช่ไหม?"
"ครับ" เสี่ยวเป่าดูแล้วไม่มีท่าทีต่อต้านและคัดค้าน ณ จุดนี้ทำให้เซิ่นมู่ป๋ายเบาใจเป็นอย่างมาก
"นายไปนั่งรอตรงนั้นสักครู่ ลุงจะไปโทรหาคุณอาของนาย ให้เขามารับนาย"
เสี่ยวเป่าก็เดินมานั่งที่โซฟาอย่างว่าง่าย รอให้จิ้นเฟิงเหรามารับเขา
ผ่านไปราวๆ ยี่สิบนาทีจิ้นเฟิงเหราก็รีบร้อนเข้ามา
"เป็นยังไงบ้าง" ทันทีที่เห็นเซิ่นมู่ป๋าย เขาก็ถามออกมาในทันที
เซิ่นมู่ป๋าย มองไปยังเสี่ยวเป่า คลี่ยิ้มออกมาบางๆ "อาการตอนที่ดูตอนนี้ยังไม่ร้ายแรงมาก หลังจากนี้ยังมีการบำบัดอีก ถึงตอนนั้นคอยมาดูผลกันอีกที"
"ถ้าอย่างนั้นก็ฝากนายด้วยแล้วกัน" ตอนนี้ก็มีเพียงแค่เขาที่จะสามารถรักษาปัญหาทางจิตใจของเสี่ยวเป่าให้ดีขึ้นได้
"หลังจากกลับไปแล้ว พยายามให้เขารักษาสุขภาพทางจิตของเขา อย่าให้เขาเห็นอะไรที่ดูท่าจะเป็นสิ่งที่สะเทือนจิตใจ" เซินมู่ป๋ายกำชับ จิ้นเฟิงเหราพยักหน้าอย่างเร่งรีบ "นายวางใจได้เลย พวกเราจะทำตามทุกอย่างที่นายบอก"
เซิ่นมู่ป๋ายหัวเราะออกมา ก่อนจะหันหน้าไปทางเสี่ยวเป่าแล้วพูดว่า "เสี่ยวเป่า ถ้ามีเรื่องอะไร ก็บอกกับแด๊ดดี้กับหม่ามี๊ได้เลย อย่าเก็บเอาไว้ในใจ ไม่งั้นมันจะไม่เป็นผลดีกับสุขภาพของนาย"
"อื้อ" เสี่ยวเป่าพยักหน้ารับปาก แต่ในความเป็นจริงแล้วจะทำตามได้ไม่นั้น ก็ยังไม่สามารถรู้ได้
หลังออกมาจากห้องทำงานแล้ว จิ้นเฟิงเหราก็พาเสี่ยวเป่าไปส่งที่โรงเรียน ระหว่างทางจิ้นเฟิงเหราก็คอยหันหน้าไปมองเสี่ยวเป่าอยู่เสมอ อันที่จริงแล้วถ้าไม่ใช่ว่าพี่ชายของเขาบอกว่าเสี่ยวเป่ามีปัญหาทางจิต เขาก็ยังดูไม่ออกจริงๆ เพราะว่าเสี่ยวเป่าก็ดูเหมือนปกติ ไม่มีอะไรที่ดูผิดปกติเลย เสี่ยวเป่ารับรู้ถึงสายตาที่มองมาที่เขา เลยหันหน้ากลับไป
"คุณอาบนหน้าของผมมีอะไรเหรอ?" จิ้นเฟิงเหราชะงักไป แล้วก็รีบเปลี่ยนสีหน้ากลับมาเป็นปกติในทันที
เขายิ้มออกมาแล้วพูดว่า "ไม่มีอะไร"
เสี่ยวเป่าก้มหน้าลง "คุณอาขอโทษนะครับที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วง"
แม้จะเป็นการขอโทษออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว จิ้นเฟิงเหราก็ฟังออกว่าน้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดของเขา เลย ยื่นมือออกไปขยี้หัวของเขา "หลังจากนี้ถ้าพบเจอกับเรื่องอะไรจำไว้ว่า ต้องบอกแด๊ดดี้กับหม่ามี๊เสมอ แบบนี้เนี่ยถึงจะไม่ทำให้ทุกคนต้องเป็นห่วง"
"อื้อ"
"เด็กดีจริงๆ " จิ้นเฟิงเหรายิ้มออกมาพลางขยี้ผมของเขาจนยุ่ง
"คุณอา!" เสี่ยวเป่าถลึงตามองด้วยความไม่พอใจ แล้วยกมือขึ้นมาจัดทรงผมให้เรียบร้อยดังเดิม แล้วจิ้นเฟิงเหรา ก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข.
......
จิ้นเฟิงเฉินหลังจากที่ประชุมเสร็จแล้วเขาก็กลับมาที่ห้องทำงานเห็นเจียงสื้อสื้อกำลังนั่งเอามือเท้าคาง ทำสีหน้าท่าทางราวกับคนใจลอยและไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ก๊อก ก๊อก!
เขาเคาะลงบนโต๊ะเบาๆ
เจียงสื้อสื้อก็ได้สติ กลับมาทันที พอเห็นว่าเป็นเขา ก็ยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ "คุณทำอะไรน่ะ"
"กำลังคิดอะไรอยู่เหรอ" จิ้นเฟิงเฉิน เอาสองมือค้ำไว้ที่ขอบโต๊ะ แล้วค่อยๆ โน้มตัวลงมาแล้วมองเข้าไปในดวงตากลมใสของเธอ เจียงสื้อสื้อเม้มปากแน่น แล้วตอบกลับไปตามความจริงว่า "กำลังคิดเรื่องของเสี่ยวเป่าอยู่"
จิ้นเฟิงเฉินเลิกคิ้วขึ้น
"คุณบอกว่าพวกเราจะต้องให้ความใส่ใจ กับเสี่ยวเป่าเยอะขึ้นสักหน่อยใช่มั้ย ฉันเองก็กลัวว่าเพราะเรื่องในครั้งนี้จะทำให้เขาได้รับบาดแผลทางจิตใจ" พูดถึงตรงนี้เจียงสื้อสื้อก็แสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลใจออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!