ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 266

บทที่ 266 ไล่คนออกไป

เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมใหม่ บวกกับมีเรื่องในใจหนักมาก เจียงสื้อสื้อคิดไปคิดมาอยู่บนเตียง จนถึงฟ้าใกล้จะสว่างจึงหลับไป

ตื่นขึ้นมาอีกที เป็นตอนเที่ยงแล้ว

หลับไปสักตื่น คนสบายขึ้นเยอะเลย สมองก็ชัดเจนมากขึ้นด้วย

ในเมื่อเธอก็เลือกที่จะไปแล้ว สิ่งที่ควรปล่อยวางลงก็ต้องปล่อยวาง อย่าจมอยู่กับความรักนั้นที่ไม่ได้เป็นของตนเองอีกต่อไป

เธอยกมือตบแก้มตบแล้วตบอีก งอริมฝีปากขึ้น “ไม่ผิด ห้ามหมดอาลัยตายอยากอีกต่อไปแล้ว ค่ารักษาของแม่ยังรอให้ฉันไปหาอยู่ล่ะ”

หลังจากล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อเรียบร้อยแล้ว เจียงสื้อสื้อก็ออกไปเลย

เธอต้องไปหางานทำ เพียงแค่ยุ่งขึ้นมา ก็จะไม่ไปคิดเรื่องเหล่านั้นอีก

……

ผ่านไปแล้วครึ่งเดือน ล้วนไม่มีข่าวสักนิดเหมือนเดิม

อารมณ์ของจิ้นเฟิงเฉินรุนแรงขึ้นวันแล้ววันเล่า นิดๆหน่อยๆก็โมโห ทำให้พนักงานทั้งหมดที่อยู่ในบริษัททุกๆคนล้วนตึงเครียดมาก กลัวว่าเกิดความผิดพลาดแล้ว ไฟจะมาเผาที่กายของตนเอง

แม้แต่ผู้ช่วยของจิ้นเฟิงเฉินล้วนระมัดระวังอย่างมากด้วย

เป็นเช่นนี้อีกต่อไป จะทำให้อายุสั้นลงจริงๆ

ผู้ช่วยน้ำตาตกในอย่างเงียบๆ แต่งานที่ต้องรายงานยังต้องฝืนใจไปรายงาน

“ท่านประธาน นี่คืองบการเงินของบริษัทเดือนนี้”

ผู้ช่วยนำรายงานวางไว้บนโต๊ะทำงานอย่างระมัดระวัง จ้องมองผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหน้าหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศสหนึ่งที หมุนตัวเบาๆกำลังจะออกไป

“รอสักครู่”

อยู่ดีๆเสียงก็ดังขึ้น ในใจของผู้ช่วยถูกยกขึ้นมาทันที

“ท่านประธาน ท่านยังมีอะไรจะสั่งหรือ?”

“เรียกคุณชายรองมา”

ที่แท้ก็คือจะหาคุณชายรอง

ผู้ช่วยโล่งใจหนึ่งที ตอบกลับว่า “ผมจะไปเดี๋ยวนี้”

จากนั้นออกไปอย่างรวดเร็ว

หาเจียงสื้อสื้อไม่เจอ จิ้นเฟิงเหรากลุ้มใจจนเส้นผมล้วนใกล้จะขาวแล้ว ได้ยินว่าพี่เขาจะหาเขา ยิ่งกลุ้มใจเลย

ยังมีความหวาดกลัวเล็กน้อย

ช่วงเวลานี้ เพราะว่าสืบข่าวของเจียงสื้อสื้อไม่ได้สักนิด อารมณ์ของพี่เขายิ่งมายิ่งรุนแรง เห็นได้ชัดก็คือไฟไหม้ง่ายระเบิดง่าย ไม่ระวังเล็กน้อยก็จะถูกระเบิดจนใบหน้าเต็มไปด้วยฝุ่น

แม้ว่าหวาดกลัว แต่ว่าเขาก็ยังไปอย่างเชื่อฟัง

เดินเข้าไปในออฟฟิศท่านประทาน ในทันทีนั้นก็ได้กลิ่นควันบุหรี่ที่กระจายในอากาศ

เป็นกลิ่นที่รุนแรงมาก

จิ้นเฟิงเหราจ้องมองที่เขี่ยบุหรี่ที่อยู่บนโต๊ะหนึ่งที มีเศษบุหรี่เต็ม อีกทั้งใส่ไม่ลงยังหล่นออกมาข้างนอก

จิ้นเฟิงเหราบ่นอยู่ในปาก นี่ต้องเป็นบุหรี่กี่ซองล่ะ?

พี่เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วหรือ

เขาเดินไปที่ข้างตัวจิ้นเฟิงเฉิน “พี่ ผมรู้ว่าคุณต้องกลุ้มใจมาก แต่ว่าก็สูบบุหรี่ถึงขนาดนี้ไม่ได้ล่ะ? จะฆ่าชีวิตได้”

“สื้อสื้อหายไปแล้ว ผมต้องการชีวิตอยู่มีประโยชน์อะไรหรือ?”

จิ้นเฟิงเฉินหันหน้าไป จ้องมองเขาอย่างเคร่งขึม

จิ้นเฟิงเหรามุมปากกระตุก “เอาล่ะ ผมรู้ว่าพี่สะใภ้สำคัญกว่าชีวิตของคุณ แต่ว่าคุณทำร้ายตนเองขนาดนี้ก็ไม่ได้ล่ะ พี่สะใภ้ถ้ารู้แล้วจะรู้สึกรู้สึกละอายใจมากขนาดไหนล่ะ”

“คนก็ยังหาไม่เจอ เธอจะรู้ได้ยังไงล่ะ?”

“เอาล่ะ ถือว่าผมไม่เคยพูด” จิ้นเฟิงเหราลูบจมูกอย่างเยาะเย้ย

“มีข่าวหรือยัง?” จิ้นเฟิงเฉินถาม

“ไม่มี”

คำตอบตามที่คาดเดาไว้

จิ้นเฟิงเฉินหลับตาลง ริมฝีปากบางๆเม้มย่างแน่นกลายเป็นเส้นตรงหนึ่งเส้น

ครึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ เขาล้วนไม่รู้ว่าเคยฟังมากมายมาสักกี่รอบแล้ว ความร้อนใจตั้งแต่แรก จนถึงโกรธโมโห และถึงเงียบสงบในปัจจุบันนี้อีก ใครจะไปรู้ล่ะเขาผ่านอะไรมาบ้าง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!