สรุปเนื้อหา บทที่ 271 ก็เป็นคนๆหนึ่งที่ไม่สำคัญ – ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว
บท บทที่ 271 ก็เป็นคนๆหนึ่งที่ไม่สำคัญ ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ในหมวดนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เมียวเมียว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 271 ก็เป็นคนๆหนึ่งที่ไม่สำคัญ
ถ้าคิดว่าสื้อสื้อยังคงอยู่ในเมืองจิ่น นี่ก็เป็นเรื่องที่ดี
พอเป็นแบบนี้ สื้อสื้อยังสามารถใช้ชีวิตในเมืองหนานอย่างสบายใจได้
ลู่เจิงคิดสักพัก โทรศัพท์หาเจียงสื้อสื้อ
“รุ่นพี่”
มีน้ำเสียงที่อ่อนโยนดังขึ้นข้างหู มุมปากของลู่เจิงอดไม่ได้ที่จะกระตุกขึ้นยิ้ม “งานเป็นยังไงบ้าง?”
เจียงสื้อสื้อเหลือบมองเพื่อนร่วมงานข้างๆที่ก้มหัวทำงานอยู่ ยิ้มเล็กน้อย“ ก็ไม่เลว”
“ปรับตัวได้หรือยัง?เพื่อนร่วมงานเข้ากันได้ง่ายไหม?”
ได้ยินความกังวลในคำพูดของลู่เจิง รอยยิ้มของเจียงสื้อสื้อก็ยิ้มมากขึ้น“ รุ่นพี่ งานนี่พี่เป็นคนแนะนำให้ จะไม่ดีได้ยังไงละ?”
ลู่เจิงยิ้มอย่างสะใจ“ เธอปรับตัวได้ก็ดีแล้ว”
เจียงสื้อสื้อยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรอีก
ทั้งสองคนเงียบไปสักพัก ลู่เจิงค่อยออกเสียงเรียก:“สื้อสื้อ”
“อืม”
ลู่เจิงลังเลสักพัก ค่อยพูดว่า :“เขากำลังหาเธอออยู่”
แม้ว่าลู่เจิงจะไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่ก็ยังรู้ว่า “เขา”ในปากของเขานั้นหมายถึงใคร
เขากำลังหาเธออยู่
ในใจเจียงสื้อสื้อรู้สึกเศร้าและอึดอัด และมือที่ถือโทรศัพท์อดไม่ได้ที่กำแน่นขึ้นมา
เธอไม่ออกเสียง ลู่เจิงก็รู้ว่าเธออึดอัดใจ ถอนหายใจเบาๆ จากนั้นปลอบว่า :“เธอวางใจ เขายังหาเธอไม่เจอชั่วคราว”
เรื่องของเธอยังต้องไปรบกวนรุ่นพี่เขาช่วยเธอกังวลอีก
เจียงสื้อสื้อรู้สึกไม่สบายใจ แต่นอกจากจะขอบคุณ เธอไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี
“รุ่นพี่ ขอบคุณพี่นะคะ”
“สื้อสื้อ ฉันช่วยเธอ ไม่ใช่เพื่อคำขอบคุณของเธอ เป็นเพราะเธอเป็นเพื่อนของฉัน”
หลังจากวางสายไป คำพูดของรุ่นพี่ดูเหมือนยังดังก้องอยู่ในหู เจียงสื้อสื้อรู้สึกซับซ้อนเล็กน้อย
ก็เพราะว่าเป็นเพื่อน เธอถึงรู้สึกว่าไปเดือดร้อนเขามันไม่สมควร
คิดถึงตรงนี้ เธออดไม่ได้ถอนหายใจคำหนึ่ง
“เป็นอะไร?”
เพื่อนร่วมงานได้ยินเธอกำลังถอนหายใจพอดี เลยหันมามอง ถามด้วยความเป็นห่วง
เจียงสื้อสื้อยิ้มแล้วส่ายหัว “ฉันไม่เป็นไร”
เพื่อนร่วมงานก็ไม่ได้ถามอะไรมาก แค่ถ้าเธอทำงานเหนื่อยให้ไปพักผ่อนที่ห้องน้ำชา
พูดคำขอบคุณ เจียงสื้อสื้อลุกขึ้น ถือแก้วน้ำแล้วเดินไปที่ห้องน้ำชา
แม้ว่าบริษัทนี้จะไม่ใหญ่เท่าบริษัทจิ่นซื่อ และไม่มีธุรกิจมากกว่าบริษัทจิ่นซื่อ แต่เพื่อนร่วมงานก็เป็นมิตรที่ดีกันมาก ไม่หลอกลวงดูแลคนมาใหม่อย่างเธอเป็นอย่างดี
ด้วยประสบการณ์การทำงานของตัวเองที่บริษัทจิ่นซื่อ ทำให้เธอปรับตัวเข้ากับที่นี่ได้อย่างรวดเร็ว
บวกกับเธอตั้งใจทำงาน ประสิทธิภาพสูง ตั้งหลักได้อย่างรวดเร็วในบริษัทนี้และเจ้านายก็ชื่นชมเธอเช่นกัน
ทุกอย่างกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดี แต่เธอก็ยังอึดอัดใจ
เธอรู้ว่าเป็นเพราะจิ้นเฟิงเฉิน
ตัวเองเหมือนวิ่งหนีไปจากเมืองจิ่น ต้องทำร้ายจิตใจของเขาและเสี่ยวเป่าแน่ๆ
พอคิดได้ว่าเสี่ยวเป่าจะร้องไห้โห่ร้องหาเธอ หัวใจของเธอก็เริ่มเจ็บปวด
“เสี่ยวเป่า ขอโทษนะ”เธอกัดริมฝีปาก น้ำตาที่เกือบจะไหลออกมาจากดวงตาก็ถูกฝืนกลับไป
เธอสูดจมูก มุมริมฝีปากโค้งงอขึ้น แบบนี้ก็ดี ต่อไปจิ้นเฟิงเฉินจะหาผู้หญิงที่ดีมาใช้ชีวิตด้วย และเสี่ยวเป่าก็จะมีแม่ที่ดีเช่นกัน
แต่ไม่ใช่แม่คนหนึ่งที่โดนคนอื่นชี้สั่งและรังเกียจ
น้ำตาก็อดไม่ได้ที่จะไหลลงมา
ร้องอะไรร้อง?
เธอเงยหน้าขึ้น เช็ดน้ำตาอย่างแรง มุมปากยังคงยิ้มขึ้น
นี่คือทางเลือกที่ตัวเองเลือก ไม่มีอะไรน่าร้อง
“เสี่ยวเป่า ลูกทำแบบนี้ไม่ถูกต้องนะ”แม่จิ้นหน้ามืดมนอีกแล้ว
เสี่ยวเป่าร้องไห้ออกมา“ วา” “คุณยายไม่ชอบผม คุณยายโกหก!”
“เสี่ยวเป่า คุณน้าเขาเป็นแขก มีเหตุผลที่ไหนจะไล่แขกออกไป ”แม่จิ้นโกรธเล็กน้อย
“ผมไม่สน ผมจะให้เธอออกไป”
“เสี่ยวเป่า!”
“ผมไม่ชอบคุณยายแล้ว ผมจะไปหาหม่ามี๊”เสี่ยวเป่าร้องไห้วิ่งขึ้นไปชั้นบน
“เด็กคนนี้!’แม่จิ้นทั้งโกรธทั้งไม่รู้ว่าจะทำยังไง
“คุณน้าคะ งั้นหนูกลับไปก่อนไหม” หลี่หยวนหยวนพูดเสียงเบา
แม่จิ้นหันมามองเธอ ยิ้มด้วยความขอโทษ “หยวนหยวน ขอโทษนะ เสี่ยวเป่าอายุยังน้อย เธออย่าไปถือสากับเขานะ”
หลี่หยวนหยวนส่ายหัว “ไม่หรอกค่ะ”
“ตั้งแต่รู้จักเจียงสื้อสื้อคนนั้น ทั้งคนโตและคนเล็กก็เริ่มดื้อกัน ”พูดถึงเจียงสื้อสื้อ แม่จิ้นก็โกรธใหญ่เลย
ก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นมีอะไรดี ทำให้ลูกชายและหลานชาบของเธอคิดถึงขนาดนั้น
“คุณน้าคะ เจียงสื้อสื้อคือใครคะ?” หลี่หยวนหยวนถาม
แม่จิ้นตระหนักว่าตัวเองพูดมากเกินไป รีบยิ้มแล้วพูดว่า :“ไม่มีอะไร ก็เป็นคนๆหนึ่งที่ไม่สำคัญ”
หลี่หยวนหยวนพยักหน้า ไม่ถามอะไรอีก
“เธอไม่ต้องกลับไป อยู่ที่นี่แหละ ตอนกลางคืนรอเฟิงเฉินกลับกินข้าวกัน”แม่จิ้นพูด
พอได้ยินว่าเฟิงเฉินจะกลับมาตอนกลางคืน ในตาของหลี่หยวนหยวนสว่างทันที ยิ้มอย่างเขินอาย“ งั้นรบกวนนะคะ”
“ต่อไปก็เป็นครอบครัวเดียวกัน อย่าพูดอะไรรบกวนไม่รบกวน”
แม่จิ้นยิ้มแล้วพูด จากนั้นลุกขึ้นมา“ ฉันขึ้นไปดูเสี่ยวเป่า เธอก็ทำตัวเหมือนบ้านตัวเองละกัน”
“ค่ะ”
หลังจากหลี่หยวนหยวนมองแม่จิ้นขึ้นไปชั้นบน สีหน้ามืดมนลงมาทันที ถ้าไม่ใช่เห็นอำนาจของตระกูลจิ้น เธอไม่อยากเป็นแม่เลี้ยงด้วยซ้ำ
มันทั้งเหนื่อยมากๆและไม่ได้คำชม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!