บทที่ 311 คุณต้องช่วยผม – ตอนที่ต้องอ่านของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!
ตอนนี้ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 311 คุณต้องช่วยผม จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 311 คุณต้องช่วยผม
เมื่อเกิดเรื่องขึ้นกับเจียงสื้อสื้อ จิ้นเฟิงเหราก็รีบแจ้งตำรวจ ให้ความกดดันกับทางตำรวจว่าต้องจับตัวคนร้ายให้ได้เร็วที่สุด
แต่อย่างไรก็ตามทางตำรวจส่งกองกำลังจำนวนมากออกจับกุม ก็ยังไม่พบสิ่งใด
สิ่งนี้ทำให้ทั้งตำรวจและจิ้นเฟิงเหราปวดหัวยิ่งนัก!
“พี่ครับ เมืองจิ่นก็ไม่ได้ใหญ่มาก ผมหาจนแทบจะพลิกแผ่นดินแล้ว ก็ยังไม่เจอ มันมีวิชาพรางตัวหรือไง?”
เนื่องจากเขาหาตัวคนร้ายไม่พบ จิ้นเฟิงเหราอดไม่ได้ที่จะบ่นต่อหน้าจิ้นเฟิงเฉิน
เจียงสื้อสื้อฟังแล้วก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ “ฮ่าๆๆ!” เธอหัวเราะออกมา
จิ้นเฟิงเหราหงุดหงิดมาก เขาหันกลับไปพูดว่า “พี่สะใภ้หัวครับ ผมไม่ได้กำลังพูดเรื่องตลกนะ!”
เห็นได้ชัดว่าเขาอารมณ์เสียจริงๆเจียงสื้อสื้อหุบยิ้มและปลอบโยนเขา “ที่จริงคุณไม่ต้องกังวลไปหรอก หาไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็เจอ”
“หาไปเรื่อยๆ?” จิ้นเฟิงเหราขมวดคิ้ว และชี้ไปทางเธอ พูดกับจิ้นเฟิงเฉินว่า “พี่ครับ ได้ยินไหม พี่สะใภ้บอกให้ผมค่อยๆหาไปเรื่อยๆ”
จิ้นเฟิงเฉินมองไปยังเจียงสื้อสื้อแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “จะฟังฉันหรือว่าฟังพี่สะใภ้แก?”
“ฟังพี่” จิ้นเฟิงเหราเบ้ปาก
หลายวันมานี้เขาถูกเรื่องนี้กวนใจเสียจนผมร่วง ถ้ายังหาตัวคนร้ายไม่เจออีก เขาคงได้หัวล้านแน่ๆ!
จิ้นเฟิงเฉินพูดต่อว่า “คนร้ายยังอยู่ในเมืองจิ่น แต่อาจจะหาที่หลบซ่อนที่ไหนสักแห่งอยู่ เขาจะต้องปรากฏตัวออกมาแน่”
“ปรากฏตัวออกมาเหรอ? เป็นไปได้เหรอ?”
จากที่จิ้นเฟิงเหราดูแล้ว ในเมื่อเขาก่อคดีขึ้นสองครั้งติดกัน ก็คงจะหลบหนีไปไกลแสนไกลแล้ว ยิ่งไกลยิ่งดี
“เขาจะกลับมาแก้แค้นกับสื้อสื้อให้พรรคพวกที่ถูกจับแน่นอน เพราะครั้งที่แล้วล้มเหลว เขาจะต้องมาอีกแน่ๆ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ จิ้นเฟิงเฉินก็สีหน้านิ่งขรึมไปทันที ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมให้สื้อสื้อเป็นอันตรายอีกแม้แต่น้อย
“งั้นผมจะหาบอดี้การ์ดดมาดูแลพี่สะใภ้อีกสักสามสี่คน” จิ้นเฟิงเหราพูด
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้วและพูดว่า “เอ่อ......น่าจะไม่ร้ายแรงขนาดนั้นหรอกมั้งคะ?”
เธอรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นสัตว์สงวนขึ้นมาทันใด ตราบใดที่ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ เธอก็จะต้องมีคนคอยคุ้มกันอย่างนี้ตลอดไปเหรอ?
จิ้นเฟิงเหราหันหาเธอ “พี่สะใภ้ครับ พี่ไม่ต้องสนใจว่าจะร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง เพียงแค่พวกเราคอยระมัดระวังให้ดีที่สุดก็พอแล้ว”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า นั่นมันก็จริงอยู่
เธอเองก็ไม่อยากจะเจอกับเหตุการณ์แบบนั้นอีกแล้ว
“คุณแม่คะ!”
ในขณะนั้นเอง ร่างเล็กๆก็โผเข้ามาหาเจียงสื้อสื้อ
แต่ยังไม่ทันถึงตัวเจียงสื้อสื้อ ก็ถูกจิ้นเฟิงเฉินดึงเอาไว้ก่อน เขาอุ้มเธอขึ้นและวางลงในระยะห่างจากเตียงประมาณยี่สิบเซนติเมตร
เมื่อวางเขาลงเสี่ยวเป่าก็โผเข้าไปอีก
จิ้นเฟิงเฉินจึงได้จับเขาไว้และดุว่า “จิ้นเสี่ยวเป่า!”
เสี่ยวเป่าตกใจจนตาแดง และร้องไห้ออกมาเสียงดัง
“ผมอยากกอดแม่!”
เขาร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ
“เฟิงเฉิน คุณ......”
เจียงสื้อสื้อมองจิ้นเฟิงเฉินด้วยสีหน้าไม่พอใจ จากนั้นโบกมือเรียกเสี่ยวเป่าว่า “เสี่ยวเป่า มาหาแม่เร็วครับ”
เสี่ยวเป่ากำลังจะก้าวขาออกไป แต่คิดถึงท่าทีของพ่อเมื่อสักครู่ หนูน้อยจึงได้หันไปมองผู้เป็นพ่อ
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า
เขาเพียงแค่กลัวว่าเสี่ยวเป่าจะไปทำให้เจียงสื้อสื้อเจ็บกว่าเดิมเท่านั้น
เมื่อได้รับอนุญาตจากพ่อ เสี่ยวเป่าก็รีบเดินตรงไป
เจียงสื้อสื้อเช็ดน้ำตาบนใบหน้าเขาและพูดว่า “เสี่ยวเป่าไม่ร้องไห้นะครับ รอให้แม่หายดีก่อนนะ จะกอดแม่ยังไงก็ได้ เข้าใจไหมครับ?”
“ครับ” เสี่ยวเป่าพยักหน้า
ซูชิงหยิงมองเขาด้วยสายตารังเกียจ “แกเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า แกตกใจกลัวถึงขนาดนี้ได้ยังไง?”
“ว่าไงนะ?” ชายผู้นั้นโมโหจ้องเธอตาเขม็ง “ระวังตัวไว้ให้ดี! ยังไงซะตอนนี้ฉันก็เป็นนักโทษแล้ว จะทำผิดอีกก็คงไม่เป็นไร”
ซูชิงหยิงรู้ดีว่าเขาคนนี้เมื่อโกรธจะทำได้ทุกอย่าง
เพื่อเป็นการปกป้องตัวเอง เธอจึงได้ระมัดระวังกว่าเดิม
“โธ่ สบายใจน่า ฉันจะหาวิธีให้แกออกจากเมืองจิ่นเอง”
“ฉันจะบอกให้นะ ถ้าฉันออกไปจากที่นี่ไม่ได้และถูกจับ แกก็อย่าหวังว่าจะลอยหน้าลอยตาอยู่ได้ เข้าใจไหม?”
“รู้แล้วน่ะ”
ซูชิงหยิงก้มหน้าก้มตาลง แต่แววตาเต็มไปด้วยความอาฆาต
ต่อให้เขาไม่ขู่ออกมาแบบนั้น เธอก็รู้ดีว่าหากเขาถูกจับ เธอเองก็หนีไม่พ้น
ดังนั้น เพื่อเป็นการปกป้องตัวเอง เธอจะต้องหาวิธีส่งชายคนนี้ออกไปจากเมืองให้ได้!
เพียงแต่เธอจะทำอย่างไรไม่ให้ทางตำรวจตรวจเจอกัน?
เมื่อเห็นว่าเธอไม่พูดอะไรออกมา ชายผู้นั้นก็กล่าวว่า “ทางที่ดีอย่าคิดตุกติก ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่”
ซูชิงหยิงเงยหน้ามองเขา สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พูดว่า “แหม ฉันจะไปทำอย่างนั้นได้ยังไง? พี่คิดมากไปแล้วล่ะ”
ชายคนนั้นมองเธอแล้วพูดว่า “เงินที่ตกลงกันไว้ อย่าลืมล่ะ”
“อืมๆ ฉันจำได้ดีเลยล่ะ”
เขาพยักหน้า “โอเค ในฐานะที่เห็นแกยังมีความจริงใจอยู่บ้าง แกต้องการให้ฉันช่วยเหลืออะไรไหม?”
“ไม่มีแล้ว อยู่ดีๆอย่าให้ถูกจับก็พอ”
ตอนนี้ทางที่ดีไม่ควรออกไปข้างนอก เพราะมีหลุมพรางอยู่มากมาย
ซูชิงหยิงเห็นว่าเขาไม่มีธุระอื่นจึงได้จากไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!