ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 345

สรุปบท บทที่ 345เหยียบจมูกของผู้มีอำนาจ: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

ตอน บทที่ 345เหยียบจมูกของผู้มีอำนาจ จาก ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 345เหยียบจมูกของผู้มีอำนาจ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ที่เขียนโดย เมียวเมียว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 345เหยียบจมูกของผู้มีอำนาจ

ได้ยินคำพูดเหล่านี้ จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างห้ามใจไม่ได้ เขาสอบถาม “นี่มันอะไรกัน?”

ได้ยินคำนี้แล้ว จิ้นเฟิงเหรานั่งลงที่โซฟาอย่างโผงผางและพูด “ยังจะอะไรได้อีกล่ะ เพื่อโปรเจคนี้ ก่อนหน้านั้นพวกเราทุ่มเงินและทุ่มคนที่มีความสามารถไปตั้งเท่าไหร่

ยิ่งไปกว่านั้น พอไมโครชิปนี้สำเร็จ แทบจะมีผลกระทบกับธุรกิจของประเทศเล็กๆประเทศหนึ่ง คนอื่นย่อมโลภอยากจะได้อยู่แล้ว ที่จริงเดือนที่แล้ว ก็มีคนกลุ่มหนึ่งลักลอบเข้าไปในศูนย์วิจัยของเรา เพียงแต่ตอนนั้นพี่สะใภ้เพื่อช่วยเสี่ยวเป่าเข้าโรงพยาบาล ผมกลัวพี่จะเป็นห่วง ก็เลยไม่ได้บอกกับพี่

แต่สองวันนี้คนกลุ่มนี้ค่อนข้างที่จะเหิมเกริม ทำจนคนของเราได้รับบาดเจ็บ”

ได้ยินข่าวนี้ แววตาของจิ้นเฟิงเฉินซีเรียสขึ้นมา เขาพูดอย่างเยือกเย็น “ตรวจสอบได้หรือยังว่าเป็นคนอะไรบ้าง?”

ได้ยินคำพูดนี้แล้ว จิ้นเฟิงเหราพยักหน้า “มีองค์กรหนึ่งคือ มาเฟียของอิตาลี“องค์การเฮอริเคน” อีกองค์กรหนึ่งคือเงินทุนใหญ่ของต่างประเทศ สตีเฟนกรุ๊ป รู้สึกว่าพวกเขาได้ตัดสินใจร่วมมือกัน”

หลังรู้ฝ่ายตรงข้าม จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตา รอบตัวมีกลิ่นที่อันตรายฟุ้งกระจายอยู่

เขาค่อยๆลุกขึ้นไปยืนที่หน้าต่างกระจก แสงยามค่ำคืนหล่นมาตามร่างเงาของเขา ให้ความรู้สึกเป็นภาพลวงตาเหมือนคนที่เลือดเย็นอำมหิตและความเป็นนักฆ่าที่ดุร้าย

ถึงจิ้นเฟิงเหราอยู่ห่างจากเขาระยะหนึ่ง แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความเยือกเย็น เขารู้ว่าพี่ชายตัวเองโกรธแล้วจริงๆ

สักพัก จิ้นเฟิงเฉินถึงค่อยๆพูดออกมาคำหนึ่ง ความเยือกเย็นในอากาศไม่ได้ลดลงไปเลย “กล้ามีความถึงถึงบนหัวฉัน ใจกล้าไม่เบาเลยนะ”

“แล้วเราจะทำยังไงต่อจากนี้ดีครับ?”

ตั้งแต่จิ้นเฟิงเฉินกลับมา จิ้นเฟิงเหราก็เป็นเจ้าของคนที่สองที่สั่งการอย่างเดียวของเขาต่อ เรื่องอะไรก็ถามความคิดเห็นของจิ้นเฟิงเฉินหมด

“นายไปบอกหลันซือจะต้องปกปักรักษาเอกสารไว้ให้ดี ถ้าจำเป็นล่ะก็ต้องแยกย้ายบุคลากร พอไมโครชิปเสร็จสิ้นปุ๊บ ก็รีบส่งไปโดยเร็ว เพื่อเลี่ยงไม่ให้คนหาเจอ” จิ้นเฟิงเฉินสั่งการอย่างเย็นชา

จิ้นเฟิงเหราพยักหน้า กำลังอยากจะหันหลังจากไป แต่ก็อดเตือนไม่ได้ “ช่วงนี้เข้าสู่ปีที่มีเรื่องมาก นอกจากสองคนนี้ ต้องมีคนจับตาดูพวกเราอีกแน่นอน

เกรงว่าคงมีคนมาใกล้ชิดพี่กับผมอย่างลับๆแล้ว เพราะฉะนั้นช่วงนี้จะต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะความปลอดภัยของพี่สะใภ้และเสี่ยวเป่านะ”

ได้ยินคำพูดนี้แล้ว จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า เขาก็คิดถึงจุดนี้พอดีเลย

สายตามองลงไป ก็เห็นขาที่ยังบาดเจ็บของจิ้นเฟิงเหราอยู่ จิ้นเฟิงเฉินเปิดปากพูด “ฉันจะให้คนคุ้มกันพวกเขาเอง ช่วงนี้นายออกไปไหนก็ต้องระมัดระวังด้วย”

“วางใจเถอะพี่ บาดเจ็บเล็กน้อยแค่นี้จะเป็นไรเชียว ผู้ชายอกสามศอกอย่างผมไม่มีทางเกิดเรื่องหรอกครับ”

จิ้นเฟิงเหราตบที่ขาของตัวเองและหัวเราะด้วยความสนุกสนาน จากนั้นก็เดินขากระเผลกจากไป

หลังเขาออกจากห้องอ่านหนังสือ จิ้นเฟิงเฉินรีบโทรหากู้เนี่ยน ให้เขาส่งคนมาคุ้มกันเจียงสื้อสื้อกับเสี่ยวเป่า

หลังจากวางสาย อารมณ์หงุดหงิดของจิ้นเฟิงเฉินไม่รู้มาจากไหน จึงได้จุดบุหรี่ขึ้นมามวนหนึ่ง

หลังจากคืนดีกับเจียงสื้อสื้อ เขาก็ไม่เคยแตะต้องบุหรี่อีกเลย เพราะเขากลัวเจียงสื้อสื้อจะไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ของเขา

ในขณะนี้เอง เสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียงของเจียงสื้อสื้อก้องมา “เฟิงเฉิน ฉันเข้ามาได้มั้ยคะ ฉันเอาผลไม้มาให้ค่ะ”

หลังจากจิ้นเฟิงเฉินได้ยินคำพูดนี้แล้วรีบดับบุหรี่ที่อยู่ในมือ เปิดหน้าต่างของห้องอ่านหนังสือ เพื่อให้กลิ่นบุหรี่ของในห้องจางหายไป จากนั้นก็ไปเปิดประตูด้วยตัวเอง

เจียงสื้อสื้อเข้ามาในห้องอ่านหนังสือ วางผลไม้ที่อยู่ในมือลง ได้กลิ่นบุหรี่อ่อนๆ

เธอรู้ว่าจิ้นเฟิงเฉินมีแค่ตอนที่หงุดหงิดถึงจะสูบบุหรี่ ดังนั้นเขาต้องเจอเรื่องอะไรที่รับมือยากแน่ๆ

เธอหันหน้ามองไปที่เขา กอดเขาไว้ในอ้อมกอด เสียงที่นุ่มนวลก้องมา “เฟิงเฉิน ไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ยังมีฉันอยู่ เพราะฉะนั้นอย่ากดดันตัวเองมากเกินไปนะคะ”

รู้ว่าเธอเป็นห่วงตัวเอง จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกอุ่นใจอย่างควบคุมไม่ได้ จึงกอดเธอไว้แน่น

ทั้งคู่ปลอบใจอยู่ในห้องอีกพักหนึ่ง เจียงสื้อสื้อหาวทีหนึ่ง ความง่วงเริ่มคืบคลานเข้ามาหา

ในขณะนี้เจียงสื้อสื้อตื่นพอดี เธอกอดผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าไว้ ออดอ้อนอยู่ในอ้อมอกเขา

จิ้นเฟิงเฉินลูบศีรษะของเจียงสื้อสื้อเบาๆและพูดว่า “คุณพักผ่อนอยู่ที่บ้านดีๆนะ พอดีเลยตอนนี้ไม่มีงานอะไร สามารถมีเวลาว่างให้กับคุณแม่และเสี่ยวเป่า คืนนี้ผมจะกลับมาเช้าๆนะ”

ได้ยินคำพูดนี้แล้วเจียงสื้อสื้อพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ส่งจิ้นเฟิงเฉินไปทำงานอย่างอาลัยอาวรณ์ที่จะจากไป

หลังจากจิ้นเฟิงเฉินจากไป จิ้นเฟิงเหราอดไม่ได้ที่จะพูดแขวะ “พี่สะใภ้ ผมว่าพี่สะใภ้กับพี่ชายนี่แยกแยะสถานที่หน่อยได้มั้ย อย่างน้อยที่นี่ก็ยังมีคนโสดอยู่คนหนึ่ง หวานแหววอยู่ตลอด ทำให้คนทนไม่ไหวจริงๆเลย”

“แกมีปัญญาก็พาแฟนกลับมาคนหนึ่งสิ”

ยังไม่รอให้เจียงสื้อสื้อได้ตอบ แม่จิ้นก็ได้พูดจาทำลายขวัญและกำลังใจแล้ว

.....................

แม่นี่ชอบหักหน้าจริงๆ

จิ้นเฟิงเหราแบะปากและไม่พูดอะไรต่อ

“หม่ามี๊ครับ คุณย่าครับ ผมจะไปเดินช็อปปิ้ง ผมจะไปเล่นครับ!”

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เสี่ยวเป่าก็เริ่มเอะอะโวยวายขึ้นมา เสี่ยวเป่าที่เล่นจนเพลิน จะอยู่บ้านเฉยๆได้ยังไง

“ผมก็จะไปครับ!”

ได้ยินข้อเสนอที่ว่าจะออกไปเที่ยว จิ้นเฟิงเหราออกมาแสดงว่าเห็นด้วยเป็นคนแรก

เจียงสื้อสื้อไม่มีความคิดเห็นอะไรอยู่แล้ว เธอหันไปมองแม่จิ้น เห็นเพียงแต่แม่จิ้นอุ้มเสี่ยวเป่าไว้ที่อ้อมอกและพูดด้วยรอยยิ้ม “โอเคๆ เสี่ยวเป่าไปไหน คุณย่าก็จะไปที่นั่นกับเสี่ยวเป่าด้วย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!