ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 347

บทที่ 347 ซวยแล้ว มีเรื่องกับตระกูลจิ้นเข้าแล้ว

ได้ยินแบบนี้ ทุกคนหันไปมองอย่างประหลาดใจ

เห็นจิ้นเฟิงเหราที่ค่อยๆก้าวเดินมาอยู่นั้น สายตาทุกคนใสวิ้งขึ้นมาทันที ในใจคิดว่าผู้ชายคนนี้หล่อจัง บุคลิกก็ดูดีมาก แน่ใจเหรอว่านี่ไม่ใช่พระเอกในหนังอ่ะ

พนักงานสาวได้สติเป็นคนแรก จึงรีบวิ่งออกไปต้อนรับ เธออยู่ร้านจิวเวอร์รี่มานาน เห็นคนรวยมาก็มากมาย แค่เห็นการแต่งตัวของผู้ชายคนนี้  ก็รู้แล้วว่าฐานะของเขาต้องไม่ธรรมดาแน่

สีหน้าในตอนนี้  เมื่อเทียบกับสีหน้าที่มีต่อฉีหรั่นเมื้อกี๊แล้ว ดูยิ่งมีความเคารพมากขึ้น

อีกอย่างฉีหรั่นเองก็สองตาเปล่งประกายเหมือนกัน สายตาจ้องจิ้นเฟิงเหราไม่ขยับไปไหนเลย หล่อมากจริงๆ เธอไม่เคยเห็นผู้ชายหล่อขนาดนี้มาก่อน

อีกทั้ง ผู้ชายคนนี้ยังยืนใกล้เธอขนาดนี้ด้วย ฉีหรั่นตื่นเต้นจนมือสั่น

ส้งหวั่นชีงมองจิ้นเฟิงเหราที่โผล่มาอย่างกระทันหัน ก็รู้สึกประหลาดใจ แต่ไม่นานเธอก็ดึงสติกลับมา พร้อมถามด้วยสีหน้าปกติเหมือนเคย “ คุณมาอยู่นี่ได้ยังไงคะ ?”

จิ้นเฟิงเหราหยุดลงที่ตรงหน้าเธอ เขาหัวเราะและพูด “ ผมมาเดินห้างเป็นเพื่อนคุณแม่และพี่สะใภ้น่ะครับ ”

ได้ยินแบบนี้แล้ว ส้งหวั่นชีงขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตามองไปที่ขาของเขาอย่างไม่ตั้งใจ “ ขาคุณยังไม่หายดีเลย อย่าเที่ยวเถลไถลไปไหนแบบนี้จะดีกว่า ” หยุดไปครู่นึง เธอก็พูดอีก “ อีกอย่าง กำไลหยกชิ้นนั้น คุณอย่าซื้อเลย มันแพงเกินไป ฉันไม่มีเงินซื้อหรอกค่ะ ”

จิ้นเฟินเหรายกมุมปากขึ้น พร้อมหัวเราะอย่างได้ใจ “ แค่กำไลหยกชิ้นเดียว มีหรือที่คุณชายอย่างผมจะไม่มีปัญญาซื้อ ”

เห็นหนุ่มหล่อคนนี้สนิทกับส้งหวั่นชีงขนาดนี้  ฉีหรั่นแอบแค้นอยู่ในใจ อดไม่ได้ที่จะพูดประชดขึ้นมา “ อุ้ย  แค่พริบตาเดียวก็หาผู้ชายได้แล้วเหรอเนี่ย? ”

เธอหันไปพูดกับแฟนตัวเอง “ เห็นมั้ยล่ะคุณ ดูท่าทางสองคนนั้น ไม่แน่เขาสองคนอาจจะอยู่ด้วยกันมานานแล้ว คงสวมเขาให้คุณตั้งนานแล้ว ”

น้ำเสียงตั้งใจประชดประชัน

ตอนแรกหลินเซินก็ตกใจเหมือนกัน เท่าที่เขารู้ ส้งหวั่นชีงไม่เคยบอกให้เขารู้มาก่อน ว่าเธอรู้จักกับคนแบบนี้ด้วย พอฟังที่ฉีหรั่นพูดแล้ว ก็ทำหน้ารังเกียจพูด “ น่าขยะแขยงที่สุด ”

ส้งหวั่นชีงโกรธจนหน้าเขียว จิ้นเฟิงเหราส่งสายตาปลอบใจเธอ จากนั้นก็หันไปมองหลินเซินทีนึง แล้วพูดลอยๆ “ อย่าคิดว่าทุกคนจะเป็นเหมือนคุณสิ ตัวเองคุมช่วงล่างไม่อยู่ แล้วนอกใจแฟน ยังมีหน้ามาเยาะเย้ยคนอื่นอยู่ที่นี่อีก ”

รอบๆมีคนมามุงดูอยู่มากมาย ได้ยินแบบนี้แล้ว ต่างก็หันไปมองสองคนด้วยตาดูถูก

ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง หึ หน้าไม่อายจริงๆ นอกใจแฟนแล้วยังพาแฟนใหม่มาเยาะเย้ยแฟนเก่าอีก ไอ้โคตรผู้ชายเฮงซวย

สีหน้าของฉีหรั่นดำในทันที  เธอโกรธและด่าขึ้นมาว่า “ พูดบ้าอะไร ! ส้งหวั่นชีงต่างหากที่เป็นคนหน้าด้าน ไม่ยอมเลิกรากับแฟนเก่า ”

ส้งหวั่นชีงสุดทน  “ พูดผิดเป็นถูก  ไม่แยกแยะผิดชอบชั่วดี  พวกเธอช่างไร้ยางอายจริงๆ !”

“ จะไร้ยางอายยังไงก็คงสู้เธอไม่ได้หรอกทแกล้งทำเป็นไร้เดียงสา แต่ที่จริงแล้ว ไม่รู้ว่าถูกผู้ชายรับเลี้ยงมากี่คนแล้ว แล้วผู้ชายคนนี้ คงไม่ใช่หนุ่มนั่งดริ๊งที่เธอหามาจากผับที่ไหนหรอกนะ ”

ฉีหรั่นพูดอย่างดูถูก

ส้งหวั่นชีงสีหน้าเปลี่ยนทันที  ผู้หญิงคนนี้ พูดอะไรไม่คิด กล้าพูดทุกอย่าง แต่ฐานะของจิ้นเฟิงเหราไม่ธรรมดา เขาเป็นคุณชายที่ฐานะสูงส่งอย่างจริงแท้ไม่มีผิด กลับถูกกล่าวหาว่าเป็นหนุ่มนั่งดริ๊งแบบนี้ นี่มันดูถูกคนเกินไปแล้ว

ไฟโกรธพุ่งขึ้นในใจของเธอ กำลังจะระเบิดออกมา จู่ๆเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธจะดังขึ้น  “ เก็บคำพูดนั้นกลับไปซะ!”

พร้อมด้วยคำพูดนี้จบลง หญิงสวยวัยกลางคนที่มีบุคลิกภาพดูดีคนนึงได้ปรากฏต่อหน้าผู้คน ด้านหลังยังมีหญิงสาวคนนึงและเด็กน้อยคนนึงตามมาด้วย

ทั้งสามคนเดินซื้อของเสร็จ ไม่เห็นจิ้นเฟิงเหราก็เลยมาตามหา ใครจะไปรู้ว่าจะมาได้ยินคำนี้เข้าพอดีขนาดเจียงสื้อสื้อฟังแล้วยังขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย แม่จิ้นก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย

ไม่มีแม่คนไหน จะยอมปล่อยให้คนอื่นมาดูถูกลูกชายตัวเองแบบนี้หรอก

แม่จิ้นเป็นคนระดับไหน ปกติก็เป็นคนเข้าข้างคนของตัวเองอยู่แล้ว จะทนให้คนอื่นมาดูถูกลูกชายสุดที่รักแบบนี้ได้ยังไง ทันใดนั้นเธอโกรธเป็นไฟขึ้นมาทันที

เธอจ้องหน้าของฉีหรั่นไว้ แววตามีพลานุภาพที่ไม่จำเป็นต้องแสดงความโกรธออกมา ก็สื่อให้เห็นถึงความน่าเกรงขามแล้ว เธอพูดชัดทีละถ้อยคำ “ เธอเป็นคนพูดใช่มั้ย ?เก็บคำพูดนั้นกลับไปซะ !”

ฉีหรั่นถูกเธอจ้องจนกลัว  แต่เธอก็ปรับอารมณ์ได้ในทันที แอบพูดกับตัวเองว่าผู้หญิงคนนี้ก็แค่บุคลิกดูดีหน่อย ก็ไม่มีอะไรมากเป็นพิเศษ ไม่มีอะไรต้องกลัวหรอก

พอคิดแบบนี้แล้ว เธอก็หัวเราะขึ้นมาทีนึง พร้อมพูดประชดขึ้นมาอย่างได้ใจ “ ยัยป้าคนนี้เป็นใคร แกมีสิทธิ์อะไรมาชี้นิ้วสั่งฉัน !”

หลินเซินที่อยู่ข้างๆเธอมองหน้าแม่จิ้นแล้วครุ่นคิดอยู่ในใจ เขาหันไปมองจิ้นเฟิงเหราแล้วรู้สึกคุ้นๆ  แต่ก็นึกไม่ออกสักที

เขาพยายามห้ามฉีหรั่น แต่ก็ห้ามไม่อยู่ ทนเห็นเธอพูดคำนั้นออกไปต่อหน้าต่อตา จากนั้น สีหน้าของหญิงสวยวัยกลางคนก็ได้เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่น่ากลัว

บนโลกใบนี้ ทุกคนต่างก็มีเรื่องที่ตัวเองถนัดไม่มากก็น้อย อย่างเช่นบางคนถนัดทำธุรกิจ บางคนถนัดหาเงิน แต่สำหรับฉีหรั่น เธอถนัดเรื่องรนหาตาย

หลังจากเธอพูดคำนั้นจบ ยังคิดว่าตัวเองแน่มาก อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา เธอกำลังอยากจะล้อเล่นกับแฟนอยู่พอดี แต่แล้ว ทันใดนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็แตกสลายทันที 

ได้ยินเสียงเพี๊ยะทีนึง  ใบหน้าของฉีหรั่นถูกตบหันไปอีกข้างอย่างแรง

ทั้งๆที่คนยืนมุงอยู่เยอะแยะ แต่กลับเงียบกริบจนเสียงเข็มตกพื้นยังสามารถได้ยิน เสียงตบที่ชัดแจ๋ว ราวกับค้อนหนักที่ทุบใส่หัวใจของผู้คนรอบข้าง อีกทั้งศักดิ์ศรีอันน้อยนิดของฉีหรั่นก็ถูกตบจนแตกสลายหมดสิ้น

แม่จิ้นเชิดหน้ามองฉีหรั่นด้วยหางตา “สาวน้อย อายุแค่นี้ ปากก็ร้ายขนาดนี้แล้ว คุณชายรองของตระกูลจิ้น เป็นคนที่ฐานะอย่างเธอจะด่าได้งั้นเหรอ  ”

คนที่มุงดูได้ยินว่าเป็นตระกูลจิ้น ต่างก็ตกใจ แววตาเปลี่ยนในทันทีนั่นเป็นตระกูลจิ้นเชียวนะ มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งในเมืองนี้ ยังไม่เคยมีใครกล้าเผชิญหน้ากับตระกูลเขาเลยสักคน นอกเสียจากว่าคนๆนั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ต่อ

ฉีหรั่นที่ถูกตบหน้า โมโหจนปรี๊ดแตก ทำท่าจะตบกลับ แต่กลับถูกคำๆนี้บีบจนต้องหยุดลง

มือยกคาอยู่อย่างเก้อเขิน จะต่ำไม่ต่ำ ดูน่าอับอายมาก

ตระกูลจิ้น?ตระกูลจิ้น!

ในเมืองนี้ อาจมีคนแซ่จิ้นอยู่มากมาย แต่ที่ดังที่สุด ก็มีแต่ตระกูลเดียว และมีแค่ตระกูลนั้นตระกูลเดียว ที่ไม่มีใครกล้าหาเรื่องด้วย เธอก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย

สีหน้าที่ดุร้ายของฉีหรั่นยังไม่ทันจางหายไป ก็เปลี่ยนเป็นหวาดกลัวแทน สีหน้าที่ยังไม่ทันปรับเปลี่ยน ดูแล้วบูดเบี้ยวน่าขำมาก

โอ้พระเจ้า เมื่อกี้เธอเพิ่งจะหาว่าคุณชายรองของตระกูลจิ้นเป็นหนุ่มนั่งดริ๊งอยู่เลย แถมยังถูกแม่ของเขาได้ยินเข้าอีก แล้วเธอยังไปด่าว่าแม่ของคนอื่นเป็นป้าแก่ที่ยุ่งเรื่องชาวบ้านอีก เธอ ……......

ริมฝีปากของฉีหรั่นสั่นคลอน แววตาดูหวาดกลัวอย่างมาก จู่ๆรู้สึกขาทั้งสองอ่อนแรง ยืนทรงตัวไม่ไหว เดินเซทีนึงแล้วก้นล้มลงกับพื้น

แฟนของเธอก็อยู่ในอาการตกใจเหมือนกัน ไม่มีเวลาสนใจเธอด้วยซ้ำ ก้นของเธอล้มลงบนพื้นอย่างจัง 

นาทีนี้ หลินเซินเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ ใช่แล้ว ไม่ผิดแน่นอน นี่ก็คือคุณชายรองของตระกูลจิ้น ก่อนหน้านี้เขาก็เคยเห็นเขาไกลๆครั้งนึง เลยรู้สึกคุ้นๆ

แต่เป็นเพราะไม่มีโอกาสได้เข้าหา เลยไม่สนิทด้วย ภายในเวลาอันสั้นจึงนึกไม่ออก

พอได้ยินแม่จิ้นพูดแล้ว ใบหน้าซีดเซียวขึ้นมาทันที มีข้อคิดเดียวโผล่เข้ามาในสมอง

ซวยแล้ว มีเรื่องกับตระกูลจิ้นเข้าแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!