บทที่39 อยู่บ้านเดียวกัน – ตอนที่ต้องอ่านของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!
ตอนนี้ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่39 อยู่บ้านเดียวกัน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่39 อยู่บ้านเดียวกัน
พอได้ยินเจียงนวลนวลพูดเช่นนี้ เจียงเจิ้นขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ไม่ว่ายังไง เรียกเธอกลับมาให้ได้ก่อน”
ถ้าได้เจอเจียงสื้อสื้อก็คงรู้เรื่องทุกอย่างเอง
สีหน้าของเจียงนวลนวลไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ นิสัยของพ่อเธอรู้ดีกว่าใครๆ พ่อเห็นผลประโยชน์สำคัญกว่าสิ่งของใดๆ ถ้าเจียงสื้อสื้อมีความสัมพันธ์กับสองพี่น้องนั้นจริงๆ ถึงตอนนั้นพ่อต้องหาทางรับเธอกลับมาให้ได้แน่ๆ
เจียงนวลนวลไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่นอน ของทุกอย่างในบ้านนี้ต้องเป็นของเธอแค่คนเดียว รวมไปถึงหลานซือเฉินด้วย
ตอนนั้นกว่าเธอจะไล่เจียงสื้อสื้อออกไปได้มันยากมาก เธอจะไม่ยอมให้เธอกลับมาอีกแน่นอน
...............................
เจียงสื้อสื้อนอนหลับที่วิลล่าไปคืนนึง เช้าวันถัดมา เสี่ยวเป่านั่งมองเจียงสื้อสื้อที่นั่งอยู่ที่โต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารเช้า แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ ว่า “น้าสื้อสื้อกินข้าวเสร็จจะไปไหนต่อครับ? พาเสี่ยวเป่าออกไปเที่ยวด้วยได้ไหมครับ?”
เจียงสื้อสื้อเห็นสายตาอย่างมีความหวังของเสี่ยวเป่าแล้วรู้สึกอดใจไม่ลง แต่ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “เสี่ยวเป่า น้าต้องไปทำงานนะ เอาแบบนี้ไหมถ้าหนูคิดถึงน้าก็โทรมาหาน้าได้เลย”
“ถ้าอย่างงั้นหลังเลิกงานแล้วน้าจะมาหาผมไหมครับ?”
ถ้าเลิกงานเจียงสื้อสื้อก็ต้องกลับไปที่คอนโดตัวเองสิ แต่ทันใดนั้น จิ้นเฟิงเฉินที่นั่งเงียบอยู่ตั้งนานก็พูดขึ้นมาว่า “คุณเจียง ย้ายมาอยู่ด้วยกันสิครับ!”
เจียงสื้อสื้อแทบจะสำลักข้าวต้ม
พอเห็นว่าเธอดูตกใจมาก จิ้นเฟิงเฉินก็รีบอธิบายต่อว่า “ฝั่งตระกูลหลานคงไม่จบง่ายๆ แค่นี้หรอก ที่ที่เธออยู่ตอนนี้มันไม่ปลอดภัยแล้ว”
พอได้ยินเช่นนี้เจียงสื้อสื้อก็คิดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เธอรู้อยู่แล้วว่าตระกูลหลานไม่จบง่ายๆ แค่นี้หรอก คนของตระกูลเจียงก็คงไม่ยอมเช่นกัน
“ขอบคุณนะ คุณจิ้น แต่ว่าไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเลิกงานแล้วฉันจะไปหาที่อยู่ใหม่รีบย้ายออกไปให้เร็วที่สุด”
จิ้นเฟิงเฉินช่วยตัวเองมาเยอะแล้ว เธอไม่อยากรบกวนเขาอีก อีกอย่างความสัมพันธ์ของเธอสองคนยังไปไม่ถึงขั้นนั้น ถ้ามาอยู่ด้วยกันคง........
ถึงแม้ว่าเสี่ยวเป่าจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอได้ยินว่าเจียงสื้อสื้อกำลังตกอยู่ในอันตรายเขาก็เป็นห่วงขึ้นมาทันที
“น้าสื้อสื้อ มาอยู่กับหนูเถอะนะ น้าอยู่ข้างนอกมันอันตราย เสี่ยวเป่าเป็นห่วง พอเป็นห่วงก็จะไม่มีความสุข กินข้าวไม่ลง นอนไม่หลับนะครับ”
เจียงสื้อสื้อตัดสินใจไม่ค่อยได้
จิ้นเฟิงเฉินเห็นความกังวลของเธอก็เลยพูดต่อว่า “ถึงเธอย้ายไปอยู่ที่อื่น ก็ไม่ได้แปลว่าตระกูลหลานจะหาไม่เจอ ที่นี่แหละปลอดภัยที่สุด อีกอย่างมีเสี่ยวเป่าคอยอยู่ด้วย เธอเองก็จะได้มีความสุข”
เจียงสื้อสื้อลังเลขึ้นมา
ที่จิ้นเฟิงเฉินพูดมันก็ถูกนะ ไม่ว่าเธอย้ายไปอยู่ตระกูลหลานมีสิทธิ์ที่จะหาเธอเจอ สุดท้ายยังไงก็อยู่อย่างสบายใจไม่ได้
ขณะที่เจียงสื้อสื้อกำลังลังเล จิ้นเฟิงเฉินก็บอกให้พี่เลี้ยงไปช่วยเธอเก็บของ
เอ้ะ......เธอยังไม่ได้ตอบตกลงเลยว่าจะย้ายมาอยู่ด้วยกัน
ทำไมเขาถึงทำตัวเป็นใหญ่ขนาดนี้นะ
ถึงแม้ว่าในใจเธอจะคิดแบบนี้ แต่เจียงสื้อสื้อเองก็รู้ว่าตัวเองไม่มีทางเลือกแล้ว สุดท้ายก็ตกลง
“คุณจิ้น ขอบคุณมากๆ นะคะ แต่ว่าฉันมาอยู่ที่นี่เฉยๆ ก็ไม่ดีเท่าไหร่ เอางี้ไหม ฉันจะให้ค่าเช่าคุณทุกเดือน ถือซะว่าฉันมาเช่าอยู่ แบบนี้ได้ไหมคะ?”
“ไม่เป็นไร เธออยู่ที่นี่ไปเถอะ”
จิ้นเฟิงเฉินฟังแล้วอยากจะหัวเราะ เขาจะไปเก็บเงินเธอได้ไง! เขาพูดต่ออีกว่า “ถ้าเธอมีเวลาก็อยู่เป็นเพื่อนเสี่ยวเป่าก็ได้นะ เขาชอบเธอมาก”
“ฉันเองก็ชอบเสี่ยวเป่าเหมือนกันค่ะ เล่นเป็นเพื่อนเขานั่นเรื่องปกติ เพราะฉะนั้นค่าเช่านี้คุณต้องเก็บไว้”
จิ้นเฟิงเฉินเถียงไม่ไหว สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
แล้วเขาก็ยื่นกุญแจให้เจียงสื้อสื้อ แล้วพูดต่อว่า “นี่เป็นกุญแจบ้าน ถ้าเธอต้องการอะไรก็บอกกับพี่เลี้ยงและแม่บ้านได้เลย”
เจียงสื้อสื้อรับกุญแจมา แล้วก็พยักหน้าตอบว่าขอบคุณ
ไม่รู้ทำไมเธอถึงรู้สึกว่า เหมือนตัวเองแต่งงานแล้วมาเป็นสะใภ้บ้านนี้
สายตาของเจียงสื้อสื้อตกใจเล็กน้อย เธอไม่คิดว่าตระกูลเจียงจะเจอที่อยู่ของบริษัทเธอได้เร็วขนาดนี้
เจียงเจิ้นรอที่นี่มานาน พอเจอเจียงสื้อสื้อสีหน้าเขาก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อ้าปากมาก็สั่งเลยว่า “กลับบ้านกับฉัน เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
มองหน้าคนที่ยืนตรงหน้าแล้ว เจียงสื้อสื้อรู้สึกไม่ชอบมากๆ เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งและเฉยชา “เราไม่มีอะไรต้องคุยกัน”
พูดจบเจียงสื้อสื้อก็เตรียมจะเดินจากไป
เจียงเจิ้นขวางทางเธอไว้ พอเห็นสิ่งที่เจียงสื้อสื้อทำ บวกกับสายที่โทรคุยกันเมื่อเที่ยง เจียงเจิ้นโกรธมาก
“พูดดีๆ ไม่ชอบ ชอบให้ใช้ความรุนแรงใช่ไหม ถ้าอย่างงั้นอย่ามาว่าฉันละกัน”
พอพูดจบเขาก็ยกมือขึ้นมาโบกไปสองสามที ทันใดนั้นก็มีบอดี้การ์ดสองคนเดินเข้ามาจับเจียงสื้อสื้อไปที่รถ
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”
เจียงสื้อสื้อพยายามดิ้น แต่แรงเธอสู้ผู้ชายสองคนไม่ได้อยู่ดี พอขึ้นไปที่รถบอดี้การ์ดถึงจะปล่อยเธอ แต่ประตูรถล้อกเรียบร้อยแล้ว
“คุณเจียง คุณจะทำอะไรกันแน่?
เจียงสื้อสื้อพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา
หลานซือเฉินทุบตัวเองให้สลบแล้วพาไปก็ว่าแล้ว ละตอนนี้เจียงเจิ้นก็พาคนมาจับตัวเองไปอีก นี่พวกเขาคิดว่าเธอไม่มีทางสู้หรือไง?
เจียงเจิ้นถามเธอแบบตรงๆ “เธอรู้จักจิ้นเฟิงเฉินใช่ไหม?”
เจียงสื้อสื้อไม่ได้ปฏิเสธเขา
“ใช่แล้วยังไง คุณจะทำไม?”
“โทรหาจิ้นเฟิงเฉินเดี๋ยวนี้ แล้วให้เขามาเจอผม ไม่งั้นเธอก็ไม่ต้องกลับไป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!