ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 397

สรุปบท บทที่ 397 กอดไม่ปล่อยมือ: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

อ่านสรุป บทที่ 397 กอดไม่ปล่อยมือ จาก ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

บทที่ บทที่ 397 กอดไม่ปล่อยมือ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เมียวเมียว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 397 กอดไม่ปล่อยมือ

“คุณพูดอีกรอบสิ” น้ำเสียงของจี้เฉินเย็นชาเล็กน้อย

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจี้เฉินที่กำลังอารมณ์เสียผู้ช่วยก็กลัวจนหัวหด แต่ยังส่งรายงานข้อมูลการเงินของบริษัทให้จี้เฉินแล้วพูดว่า “นี่คือข้อมูลทางการเงินของพวกเราในไตรมาสนี้ครับ ภาพรวมมีแนวโน้มลดลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนหน้านี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีคนแสดงความไม่พอใจแล้ว หากพวกเรายังไปยุ่งกับเงินลงทุนตามอำเภอใจ คงต้องมีการซุบซิบนินทาแน่นอน”

จี้เฉินได้ยินก็ไม่พอใจอย่ายิ่ง “ไอ้แก่พวกนั้น มีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับฉัน แกไปทำตามที่ฉันสั่ง”

แม้ว่าผู้ช่วยจะความคิดเห็นแตกต่าง แต่เขาก็รู้ดีว่าต่อให้ตนเองพูดออกมาจี้เฉินก็ไม่ฟังเขาอยู่ดี จึงได้แต่ยอมไปทำอย่างไร้หนทาง

หลังจากที่ผู้ช่วยจากไปแล้วจี้เฉินค่อยๆหรี่ตามอง ขยำเอกสารในมือ พูดอย่างโกรธแค้นว่า “จิ้นเฟิงเฉิน บัญชีแค้นนี้กูจะจำไว้ กูต้องให้มึงชดใช้ให้กู”

แต่ยังไม่ทันที่เขาจะไปหาเรื่องจิ้นเฟิงเฉิน จิ้นเฟิงเฉินก็เป็นฝ่ายโจมตีเขาก่อนแล้ว

ในต่างประเทศ บริษัทสาขาของจิ้นกรุ๊ปคือทำธุรกิจด้านเวชภัณฑ์ จิ้นเฟิงเฉินแอบติดต่อกับคู่แข่งของสตีเฟนกรุ๊ป ร่วมมือกับพวกเขาโจมตีตลาดของสตีเฟน

ทั้งสองบริษัทเริ่มแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดด้านเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ของสตีเฟนกรุ๊ป จากนั้นก็จำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาที่ราคาถูกกว่าของสตีเฟนกรุ๊ป นี่ทำให้สตีเฟนเริ่มได้รับความนิยมลดลง

รายได้หลักของสตีเฟนกรุ๊ปคืออุตสาหกรรมด้านยาและการแพทย์ หุ้นของบริษัทก็ค่อยๆตกลงเรื่อยๆ แม้แต่การผลิตยาก็ชะลอตัวลง

เรื่องก่อนหน้านี้บรรดาผู้ถือหุ้นก็ไม่พอใจจี้เฉินอยู่แล้ว พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นอีก บรรดาผู้ถือหุ้น ก็ยิ่งโกรธเกลียดจี้เฉิน เพราะเขาดึงดันจะทำตามใจตนเองโดยไม่รับฟังข้อเสนอของผู้อื่น จึงเกิดเหตุการณ์วันนี้ขึ้น

ตอนนี้เองจี้เฉินถูกผู้ถือหุ้นกล่าวตำหนิในห้องประชุม แทบไม่เหลือโอกาสให้เขาได้แก้ตัว

หนึ่งในนั้นที่ค่อนข้างมีมีชื่อเสียงก็ยืนขึ้นมาเวลานี้ ตำหนิจี้เฉินว่า “เดิมทีผมก็ไว้ใจท่านประธานจี้ แต่เรื่องที่คุณทำนั้นทำให้ผมผิดหวังมาก หวังว่าคุณจะสามารถกอบกู้ชื่อเสียงของบริษัทกลับมาให้เร็วที่สุด มิเช่นนั้นผมคงต้องเสนอให้ปลดตำแหน่งปัจจุบันของคุณ”

“ใช่ หากวิธีการของคุณยังไม่สามารถทำให้พวกเราพอใจ พวกเราคงไม่ให้คุณบริหารบริษัทต่อแน่”

“ปลดคุณออกจากตำแหน่ง”

“……”

พอมีคนแสดงความคิดเห็นก็มีคนเสริมขึ้นมาอีกหลายคน จี้เฉินเห็นผู้คนมากมายต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างเมามัน ก็หัวเราะเยาะเมื่อคนเราตกต่ำทุกคนต่างก็พากันซ้ำเติมจริงๆ

เมื่อก่อนพวกเขาเห็นตนเองต่างก็อ่อนน้อม มาวันนี้กลับกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว

แต่รอให้ถึงทีเขาก่อน ก็จะเป็นวันตายของคนพวกนี้

ตลอดการประชุมนี้ จี้เฉินถูกพวกเขาตำหนิจนปวดหัว รอให้ทุกคนจากไปแล้ว เขานั่งอยู่ในห้องประชุมเพียงคนเดียว หยิบบุหรี่มาสูบต่อกันทีละมวนๆ

แต่ความวัวไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก เมื่อครอบครัวของเขาส่งข่าวที่ไม่เป็นผลดีต่อเขานัก

พี่น้องของเขาเมื่อเห็นว่าเขาตกต่ำ ก็ค่อยเหยียบย่ำบนหัวของเขา

เรื่องที่บริษัททำให้เขาปวดหัวมากพอแล้ว ทางบ้านนั้นเขาแทบไม่มีเวลาไปสนใจดูแลเลย

เมื่อมีคนตกยากก็ย่อมต้องมีคนยินดี จิ้นเฟิงเฉินได้รับข่าวจากต่างประเทศ ก็พอใจอย่างมาก แต่ยังไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่เขาคาดหวังเอาไว้

สิ่งเขาต้องการไม่เพียงแค่จี้เฉินชื่อเสียงป่นปี้ มีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ ยิ่งอยากให้เขาใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้าย หมดหนทางมีชีวิตอยู่ต่อไป

หลังจากที่เธอย้ายเข้ามา ก็มีเวลาส่วนตัวกับจิ้นเฟิงเฉินน้อยมาก เวลาส่วนใหญ่ล้วนอยู่กับเสี่ยวเป่า หาโอกาสแบบนี้ได้ยากยิ่ง

หลังจากที่เธอเข้าไปห้องน้ำแล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็เดินตามเข้าไป กอดเจียงสื้อสื้อจากทางด้านหลัง ศีรษะพิงที่ไหล่ของเธอ เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “สื้อสื้อ รับปากผม ว่าคุณจะไม่มีวันจากผมไป”

เจียงสื้อสื้อถูกคำพูดกะทันหันของเขาทำให้เธอทำอะไรไม่ถูก ยิ้มพลางเอ่ยว่า“วางใจเถอะค่ะ ฉันไม่มีทางจากคุณไปไหน โอ้ย คุณออกไปก่อนนะคะ อย่างนี้ฉันแต่งหน้าไม่ได้ค่ะ”

“เมียผมต่อให้ไม่แต่งหน้าก็สวยมาก” จิ้นเฟิงเฉินอิดออดเล็กน้อย กอดเจียงสื้อสื้อไม่ปล่อยมือ

เจียงสื้อสื้อมองชายหนุ่มที่ออดอ้อนอย่างจนปัญญาเล็กน้อย ใครจะไปคิดว่าประธานจิ้นที่อยู่ข้างนอกมีอำนาจยิ่งใหญ่ เวลาอยู่ในบ้านจะมีท่าทางนุ่มนวลอ่อนโยนแบบนี้

การแต่งหน้าครั้งนี้ใช้เวลารวมแล้วสองชั่วโมง ความจริงแล้วไม่ใช่เจียงสื้อสื้อที่ชักช้าอืดอาด แต่เป็นจิ้นเฟิงเฉินที่คอยกวนเธอตลอด บางครั้งก็ก้าวมาจูบเธอ เจียงสื้อสื้อก็ไม่อาจปฏิเสธได้

ลังเลอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าอยู่นานมาก เจียงสื้อสื้อเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับเธอไม่ได้ จิ้นเฟิงเฉินจึงเสนอตัวมาช่วยเลือก

เห็นเสื้อผ้าเต็มตู้เสื้อผ้า จิ้นเฟิงเฉินก็รู้สึกปวดหัวเล็กน้อย

สุดท้ายแล้วก็ยังตัดสินใจเลือกชุดให้เจียงสื้อสื้อจนได้ เธอนึกขึ้นได้ว่าเมื่อก่อนเคยซื้อชุดคู่รักมาหนึ่งชุด ไม่เคยมีโอกาสได้ใส่ออกไปไหนเลย ครั้งนี้ได้โอกาสหยิบออกมาใส่พอดี

หลังจากทั้งสองเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็เตรียมออกเดินทาง เจอกับแม่จิ้นที่เพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาลพอดี เห็นชุดที่ทั้งสองใส่ ก็ยิ้มไม่หุบ

“สื้อสื้อ แม่ว่าเธอกับเฟิงเฉินต้องสู้ๆหน่อยนะ รีบมีลูกอีกสักคน ฉวยโอกาสที่ตอนนี้แม่ยังแข็งแรงดี บวกกับเสี่ยวเป่าก็โตแล้ว สามารถช่วยพวกเธอเลี้ยงได้แล้ว”

คำพูดของแม่จิ้นทำให้เจียงสื้อสื้ออายมาก ไม่ได้ตอบอะไร กลับเป็นจิ้นเฟิงเฉินที่ยิ้มแล้วตอบว่า “วางใจเถอะครับแม่ ผมจะพยายาม”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!