บทที่ 399 พูดไม่ออกราวกับมีอะไรติดคอ
เพราะจิ้นเฟิงเหราไม่ได้ร้องเสียงประหลาดออกมาอีก ส้งหวั่นชีงจึงทายาได้อย่างสบายใจแล้ว เธอเทยาออกมาอย่างเบามือ ค่อยๆโรยเบาๆ
ส้งหวั่นชีงมองแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยบาดแผลนี้ ก็ทำให้นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของเจียงสื้อสื้อขึ้นมาได้ ถามออกมาอย่างทนไม่ได้ “ที่หลังของคุณต่อไปจะทำอย่างไร ถ้าเป็นแผลเป็นจริงๆล่ะ”
สำหรับเรื่องนี้ จิ้นเฟิงเหราไม่เดือดร้อนอะไร ในเมื่อเขาเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิงที่ต้องใส่ชุดเปิดหลังอะไรแบบนั้น จึงได้แต่ตอบเรียบๆว่า“ก็ปล่อยไปอย่างนี้แหละ แผลหายก็พอแล้ว จะไปสนทำไมว่ามีแผลเป็นมั้ย”
ยิ่งเขาทำท่าทางไม่แยแสเท่าไหร่ ในใจส้งหวั่นชีงก็ยิ่งรู้สึกโทษตัวเอง เธอถอนหายใจ เอ่ยเบาๆว่า“ทั้งหมดเพราะคุณช่วยฉัน ดังนั้นคุณเลยต้องมาเป็นแบบนี้……”
เห็นเธอวกมาเรื่องนี้ทุกครั้ง จิ้นเฟิงเหราพูดอย่างไม่สบอารมณ์นักว่า “หน้าไม่เละไปด้วยก็ดีมากแล้ว แค่นี้จะเป็นอะไรไป เป็นผมที่ทำให้คุณเดือดร้อน ช่วยคุณเป็นสิ่งที่ผมควรทำ อีกอย่างตอนนี้ศัลยกรรมก็พัฒนาไปมาก ถ้าไม่ไหวจริงๆ ผมก็จะไปลอกผิว ในเมื่อด้านหลังก็ไม่มีใครเห็นอยู่แล้ว”
สิ่งที่เขาพูดก็เป็นเรื่องจริง ในเมื่อส่วนที่สำคัญที่สุดก็ยังเป็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ยังดีที่ใบหน้านี้ไม่ได้เป็นอะไร
ได้ยินเขาพูดอย่างนี้ จู่ๆส้งหวั่นชีงก็ยิ้มออกมา “ที่คุณพูดก็ถูก ต่อให้คุณอัปลักษณ์ แต่ด้วยสถานะคุณชายรองตระกูลจิ้น ไม่รู้ว่าสาวๆมากมายขนาดไหน จะรุมยื้อแย่ง”
ไม่รู้ทำไม หลังจากพูดประโยคนี้แล้ว ในใจของเธอกลับรู้สึกเจ็บแปลบๆ
แม้ว่าที่พูดจะเป็นเรื่องจริง ตอนนี้ใครบ้างจะไม่ชอบเงิน ยิ่งไปกว่านั้นจิ้นเฟิงเหราแค่บาดเจ็บที่ด้านหลังนิดหน่อยเท่านั้น ใบหน้านั้นไม่ได้เป็นอะไรเลย ทั้งหล่อทั้งรวย ผู้หญิงคนไหนจะไม่วิ่งเข้าหา
และ ด้วยสถานะของจิ้นเฟิงเหรา สามารถหาผู้หญิงที่มีสถานะคู่ควรกับเขามาแต่งงานด้วยได้ ผู้หญิงแบบนั้นก็ย่อมต้องอ่อนโยนเอาใจใส่ จะมาถือสาแผลที่หลังเขาได้อย่างไรกัน
ยิ่งไปกว่านั้น หากจิ้นเฟิงเหราชอบเธอจริง เขาก็ย่อมต้องไปทำศัลยกรรมที่หลังของเขา
คิดได้อย่างนี้แล้ว ส้งหวั่นชีงรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองตกลงไปในหุบเหว จะปีนอย่างไรก็ปีนไม่ขึ้น เหมือนมีอะไรติดอยู่ในคอ แต่กลับไม่มีเหตุผลพอที่จะร้องไห้ออกมา
สัมผัสได้ว่าการกระทำของเธอชะงักเล็กน้อย ในใจจิ้นเฟิงเหราก็ตกใจอย่างไร้เหตุผล รีบถามว่า “หวั่นชีงคุณเป็นอะไรไป จู่ๆทำไมนิ่งไป หรือว่าแผลผมอาการหนักมากเกินไป”
ส้งหวั่นชีงรีบตอบว่า “เปล่าๆๆ ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ถ้าใช้วิตามินอีจะได้ผลมั้ย”
ไม่คิดว่าที่ส้งหวั่นชีงหาข้ออ้างมั่วๆออกมา จิ้นเฟิงเฉินกลับจริงจัง“วิตามินอีจะได้ผลเหรอ แม้ผมจะไม่ได้เรียนแพทย์ แต่ผมรู้สึกว่าฟังดูมันไร้สาระนะ เพราะวิตามินอีรู้สึกว่ามันเห็นได้บ่อยมากเลยนะ”
จิ้นเฟิงเฉินพูดสาธยายออกมาเป็นชุด ส้งหวั่นชีง ส้งหวั่นชีงรู้สึกยุ่งยากใจ เดิมเธอก็แค่หาข้ออ้างพูดขึ้นมามั่วๆเท่านั้น ไม่ได้คิดอะไรมาก แทบไม่คิดอยากจะตอบข้อสงสัยของเขาเลยด้วยซ้ำ
ดังนั้น ส้งหวั่นชีงจึงรีบเร่งมือทำให้เสร็จ พันผ้าพันแผลให้เขาก็พูดอย่างไม่สบอารมณ์นักว่า “ทำเสร็จแล้ว ฉันไปแล้วนะคะ”
จิ้นเฟิงเหราถูกเมินใส่อย่างประหลาด ยังไม่ทันได้ทำความเข้าใจสถานการณ์ ส้งหวั่นชีงก็ไม่รู้ไปไหนแล้ว
หลังจากส้งหวั่นชีงจากไปแล้ว จิ้นเฟิงเหรารู้สึกว่าหาคนมาต่อปากต่อคำด้วยไม่ได้เลยสักคน ช่างน่าเบื่อจริงๆ เขาจึงได้แต่เลื่อนโทรศัพท์มือถือดูอย่างเบื่อหน่าย
ในวีแชทของเขามีเพื่อนนับพันคน ครึ่งหนึ่งอย่างน้อยเป็นผู้หญิง ในโพสต์ของกลุ่มเพื่อนก็มักจะได้เห็นสไตล์การใช้ชีวิตของผู้หญิงเหล่านั้น ผู้หญิงไฮโซเที่ยวต่างประเทศทุกวัน บางคนเป็นมนุษย์เงินเดือนก็จะแสดงความคิดเห็นเรื่องการทำงานทุกวัน
ที่สำคัญที่สุดคือ ผู้หญิงเหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นโสด ก็คือพูดได้ว่า หากเขาต้องการ ผู้หญิงเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็จะกลายเป็นของเล่นของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!