อย่าหาว่าไม่เกรงใจ
ในขณะเดียวกันหลานซือเฉินกำลังนั่งอยู่ในห้องทำงานของเขา ในมือถือแก้วน้ำและเคาะนิ้วลงไปบนโต๊ะ สายตาของเขาจับจ้องไปยังข้อความที่ส่งเข้ามา
เนื้อหาของข้อความพูดเกี่ยวกับเรื่องมรดกตระกูลเจียง หลานซือเฉินยิ้มเผยของความชั่วร้ายออกมา
คิดไม่ถึงว่าตาเฒ่าเจียงนั่นจะทำเรื่องแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่เขาคาดไม่ถึง
เขาวางแก้วน้ำลงแล้วขับรถไปยังบ้านตระกูลเจียง เมื่อไปถึงที่บ้านเขาก็โทรศัพท์หาเจียงนวลนวล
“ผมอยู่ที่หน้าบ้านคุณ ลงมาเปิดประตูให้ผมหน่อย”
เมื่อเจียงนวลนวลได้ยินเสียงของหลานซือเฉินเธอก็ดีใจจนพูดไม่ออก แล้วรีบวิ่งลงมาเปิดประตูให้เขา
“ซือเฉิน มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
เจียงนวลนวลถามขึ้นด้วยความสงสัย
หลานซือเฉินเปิดประตูข้างคนขับให้เธอแล้วพูดว่า “เราจะไปพบกับคนคนหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมรดกของคุณปู่”
เมื่อได้ยินว่าเป็นมรดก เจียงนวลนวลก็ดีใจและตื่นเต้นมาก เงินจำนวนนั้นสำหรับเธอสำคัญมากจริงๆ ถ้ามีเงินก้อนนั้นเธอคงไม่ต้องลำบากแบบนี้
เจียงนวลนวลเข้าไปนั่งในรถ แล้วทั้งสองก็มุ่งหน้าไปที่สำนักงานกฎหมายด้วยกัน
“นี่คือ......” เจียงนวลนวลมองไปยังหลานซือเฉินแล้วเอ่ยถาม
หลานซือเฉินพูดว่า “นี่คือสำนักทนายความที่จัดการเรื่องมรดกของคุณปู่ เรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับเขามาก เพียงแค่เขายินยอมช่วยเหลือคุณ พวกเราอาจจะได้รับมรดกเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์!”
เมื่อพูดจบเขาก็ยื่นมือออกมาและจูงมือเจียงนวลนวล
การกระทำของเขานี้ทำให้เจียงนวลนวลรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ เธอยื่นมือไปให้เขา ทั้งสองคนจึงได้กุมมือเดินเข้าไปในสำนักงานกฎหมายด้วยกัน
สิ่งที่หลานซือเฉินคิดนั้นคือ “จากพินัยกรรมฉบับนั้น ทนายคนนี้เป็นคนร่างขึ้น ดังนั้นเขาจึงเป็นคนที่ชัดเจนที่สุดในเรื่องของมรดกคุณปู่ เมื่อถึงเวลาผมจะหาวิธีจัดการกับพินัยกรรมนั้น ถึงแม้จะรู้ว่าโอกาสมีไม่มากแต่ก็ยังมีกว่าไม่ได้ลอง หากไม่ได้ลองดูจะรู้ได้อย่างไร?”
เจียงนวลนวลเองก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันจึงได้เอ่ยถามว่า “คุณคิดว่าจะประสบความสำเร็จไหมคะ?”
เจียงนวลนวลไม่มั่นใจนักเขาจึงตอบไปว่า “พวกเราลองดูก่อนครับ ถ้าสำเร็จขึ้นมาล่ะ!”
“แต่ว่าทนายความของคุณปู่คงจะเป็นทนายความชั้นยอดจริงๆ พวกเราจะทำลายพินัยกรรมฉบับนั้นได้เหรอคะ?” เจียงนวลนวลรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด
คำพูดของเธอทำให้หลานซือเฉินรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากจึงตอบกลับไปว่า “ทำไมคุณต้องตีตนไปก่อนไข้?พวกเรายังไม่ได้เข้าไปด้วยซ้ำ คุณก็คิดจะถอยออกแล้ว อยากให้ทรัพย์สินตกอยู่ในกำมือของเจียงสื้อสื้อเหรอ?”
แน่นอนว่าเจียงนวลนวลไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น เธอจึงไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกและได้แต่เดินตามหลังเขาเข้าไปอย่างเงียบๆ
เมื่อเดินเข้าไปถึงด้านใน หลานซือเฉินก็ตรงเข้าไปหาทนายความคนนั้น ก่อนที่จะเดินทางมาเขาได้ตรวจสอบอย่างชัดเจนว่าทนายความคนนั้นอยู่ที่ไหนชื่ออะไรและเขารู้ข้อมูลเบื้องต้นชัดเจน
เนื่องจากเป็นสมบัติของตระกูลเจียง ทำให้หลานซือเฉินไม่อาจจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ จึงให้เจียงนวลนวลเข้าไปสอบถาม
“สวัสดีค่ะคุณทนาย ขอรบกวนหน่อยนะคะ พอดีฉันมีคำถามอยากจะถามคุณ รบกวนเวลาคุณสักหน่อยไม่ทราบว่าสะดวกไหม ?” เนื่องจากจำเป็นต้องให้เขาช่วยเหลือ ดังนั้นเจียงนวลนวลจึงได้พูดจาอย่างมีมารยาทถ่อมตน
เมื่อทนายความได้ยินดังนั้นก็คิดไปว่าเธอคงเป็นคนที่ไม่เข้าใจในกฎหมายและกำลังจะหาใครสักคนมาช่วยเธอทำธุระอยู่ ดังนั้นจึงรีบเปิดประตูและพูดว่า “เข้ามาครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!