ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 434

สรุปบท บทที่ 434 พยายามเข้านะครับพ่อ: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

สรุปตอน บทที่ 434 พยายามเข้านะครับพ่อ – จากเรื่อง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

ตอน บทที่ 434 พยายามเข้านะครับพ่อ ของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์เรื่องดัง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดยนักเขียน เมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 434 พยายามเข้านะครับพ่อ

แม่จิ้นกุมมือของเจียงสื้อสื้อไว้ด้วยความซาบซึ้งใจพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างปลื้มปีติ

เจียงสื้อสื้อเป็นคนที่มีจิตใจดีเหลือเกิน โชคดีจริงๆ ที่เฟิงเฉินได้แต่งงานกับเธอ

ในตอนนั้นเอง จิ้นเฟิงเฉินที่เพิ่งส่งแขกเสร็จก็ได้เดินเข้ามาพอดี

พอเห็นว่าทุกคนกำลังนั่งล้อมวงกันอยู่ เขาก็พูดแซวขึ้นว่า “นี่กำลังเม้าท์มอยอะไรกันอยู่เหรอครับ?”

พูดจบเขาก็นั่งลงที่ข้างๆ ของเจียงสื้อสื้อ จากนั้นก็หยิบผลไม้ขึ้นมากิน

ที่งานเลี้ยงเขาก็ดื่มไปไม่น้อยเหมือนกัน ดังนั้นตอนนี้เขาจึงกำลังรู้สึกคอแห้ง

จิ้นเฟิงเหรารีบพูดแทรกขึ้นมาว่า “ก็กำลังพูดเรื่องลูกคนที่สองของพวกพี่ไงครับ พี่สะใภ้เขาบอกว่าอยากถามความเห็นของเสี่ยวเป่าก่อนค่อยตัดสินใจครับ”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ความอบอุ่นที่เกิดขึ้นในใจก็ถูกแสดงออกมาทางดวงตาของจิ้นเฟิงเฉิน

การได้เธอมาเป็นคู่ครองแบบนี้ ไม่มีสิ่งใดที่จะวิเศษไปกว่านี้อีกแล้ว

“ขอแค่สื้อสื้อเห็นด้วย จะมีอีกกี่คนผมก็ไม่มีปัญหาครับ”

ต่อหน้าสายตาของคนทั้งหลาย จู่ๆ มาถูกจิ้นเฟิงเฉินพูดเอาใจแบบนี้ มันก็ทำให้เจียงสื้อสื้อรู้สึกเขินอายขึ้นมาทันที

เธอหยิกเข้าไปที่เอวของจิ้นเฟิงเฉินเบาๆ

ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้น พอได้เห็นการกระทำของเจียงสื้อสื้อ ต่างก็พาก็อมยิ้ม

เมื่อเห็นทั้งคู่แสดงความหวานแหววใส่กันอยู่ แม่จิ่นก็ได้พูดขึ้นด้วยความปลื้มใจว่า “ในที่สุดแม่ก็เข้าใจสักทีว่าทำไมคนอย่างเฟิงเฉินถึงได้หลงรักสื้อสื้อแค่คนเดียว”

ในขณะที่แม่จิ้นกำลังปลื้มใจอยู่นั้น พ่อจิ้นก็ได้พูดขัดขึ้นมาว่า

“นี่คุณ คุณคิดว่าเรื่องที่คุณเคยกังวลหนักหนามันเกิดขึ้นแล้วหรือยัง? ดูสิสื้อสื้อเขาเป็นเด็กดีขนาดไหน ถ้าเธอถูกคุณขับไล่ออกไปละก็ ผมละอยากรู้จริงๆ ว่าคุณจะร้องไห้รึเปล่า?”

แม่จิ้นหน้าแดง แล้วแสร้งทำเป็นดุไปว่า “คุณนี่พูดมากจริงๆ”

พูดตามตรง ต่อให้ตอนนี้จิ้นเฟิงเฉินกับเจียงสื้อสื้อจะจดทะเบียนกันไปแล้วก็ตาม แต่แม่จิ้นก็ยังมีเรื่องที่ไม่ค่อยสบายใจอยู่เหมือนกัน

อดีตของเจียงสื้อสื้อเป็นสิ่งที่คอยทิ่มแทงใจแม่จิ้นมาโดยตลอด แต่เมื่อผ่านคืนนี้ไป เธอก็ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเจียงสื้อสื้อแล้ว

เธอสามารถเปิดใจยอมรับให้เจียงสื้อสื้อเป็นเหมือนลูกแท้ๆ ในไส้ เป็นคนของตระกูลจิ้นอย่างแท้จริง

เมื่อเห็นผู้อาวุโสทั้งคู่หยอกล้อกันอย่างนี้ คนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็พากันสุขใจไปด้วย

บรรยากาศที่สุขสมกลมเกลียวแบบนี้สิที่เป็นสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวควรมี

แต่แล้ว แม่จิ้นก็เหมือนจะนึกอะไรได้ ทำให้อารมณ์ของเขาดูแย่ลงเล็กน้อย

ทำเอาหลายคนถึงกับสงสัย

“แม่ แม่เป็นอะไรครับ?” จิ้นเฟิงเหรารีบถามออกมา

“เสี่ยวเป่าถูกเราเลี้ยงดูมาราวกับไข่ในหิน เขาเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของพวกเรา ถ้าเกิดเขารู้ว่าเราอยากได้น้องอีกคนละก็ ไม่รู้ว่าเขาจะได้รับผลกระทบอะไรทางจิตใจหรือเปล่า?”

พอแม่จิ้นพูดมาอย่างนั้น ทุกคนก็ตกอยู่ในความเงียบทันที

แต่มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เสี่ยวเป่าไม่เคยถูกขัดใจมาก่อน แล้วการมีลูกสองคนก็จะต้องมีการแย่งความรักกันเกิดขึ้นแน่นอน

แล้วยิ่งเขาติดเจียงสื้อสื้อซะขนาดนั้น ถ้ามีน้องเพิ่มมาอีกคนละก็ เขาจะต้องคิดมากแน่ๆ

ผ่านไปสักพัก เจียงสื้อสื้อก็ได้พูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เสี่ยวเป่าเป็นที่รักของเราทุกคน แถมเขายังเป็นเด็กดีมากด้วย หนูเองก็รักเขามากเลย ต่อให้ไม่มีอีกก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”

พอได้ยินเธอพูดมาอย่างนั้น แม่จิ้นก็รู้สึกตื้นตันอย่างมาก เธอสามารถรักเด็กคนหนึ่งที่ไม่ใช่เลือดเนื้อของตัวเองให้เหมือนกับลูกแท้ๆ ของตัวเองได้

แถมยังยอมเสียสละเรื่องลูกของตัวเองเพื่อเสี่ยวเป่าอีก ถ้าเป็นคนทั่วไปนี่คงไม่สามารถทำได้แน่นอน

เธอไม่มีข้อกังขาใดๆ เลยที่จะยกสิทธิ์ในความเป็นแม่ให้กับเจียงสื้อสื้อ

พอพูดจบ เจียงสื้อสื้อก็หันมาถลึงตาใส่จิ้นเฟิงเฉิน

คนๆ นี้ยังจะรับปากเรื่องแบบนี้อย่างจริงจังได้อีกนะ

การตอบสนองของเจียงสื้อสื้อทำให้ทุกคนอดไม่ได้ที่จะต้องหัวเราะออกมา แม่จิ้นจึงได้พูดแซวขึ้นว่า “ยังไงสื้อสื้อของเราก็ยังขี้อายอยู่ดี ในเมื่อเฟิงเฉินเขารับปากแล้ว หนูเองก็ต้องพยายามเหมือนกันนะ งั้นหลายวันต่อจากนี้แม่จะต้มซุปที่บำรุงให้หนูกินทุกวันเลยแล้วกันนะ”

“แม่คะ……นี่แม่ก็……”

สิ่งที่แม่จิ้นพูดมา ทำให้เจียงสื้อสื้ออายจนต้องเอาหน้ามุดเข้าไปในอกของจิ้นเฟิงเฉิน

จิ้นเฟิงเหราที่เห็นอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเหมือนกัน แต่จู่ๆ ในหัวของเขาก็มีใบหน้าของส้งหวั่นชีงโผล่ขึ้นมา

เขาตกใจจนรีบส่ายหน้า นี่เขาเป็นอะไรไปเนี่ย ทำไมถึงเอาแต่คิดถึงเธออยู่ตลอดเวลาเลย?

เขาคงไม่ได้หลงรักเธอเข้าแล้วจริงๆ ใช่ไหม………

นี่มันต่างจากสิ่งที่เขาคิดไว้มากเลยนะ!

เขาเคยจินตนาการไว้ว่า อีกครึ่งหนึ่งของชีวิตเขานั้นจะต้องเป็นคนที่ผมยาวสลวย งดงามดั่งเทพธิดา

แต่ส้งหวั่นชีงนั้นไม่ได้มีความใกล้เคียงเลยสักนิด

แต่พอนึกถึงเธอที่มักจะทำตัวอ๊องๆ มุมปากของจิ้นเฟิงเหราก็จะแย้มขึ้นโดยไม่รู้ตัว

เธอที่ทำตัวเอ๋อๆ ก็ดูน่ารักดีเหมือนกันนะ

“โอเค ตอนนี้มันก็ดึกมากแล้ว พวกลูกเองก็เหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว ควรแยกย้ายไปพักผ่อนได้แล้วล่ะนะ” พ่อจิ้นพูดพร้อมกับยืนขึ้น

“ครับ งั้นพวกเราขอตัวก่อนนะครับ” พูดจบจิ้นเฟิงเฉินก็ดึงตัวเจียงสื้อสื้อลุกขึ้นมากอดไว้

ตอนแรกเสี่ยวเป่าก็อยากจะตามเจียงสื้อสื้อไปด้วย แต่ก็ถูกแม่จิ้นห้ามเอาไว้ก่อน เธอกระซิบอะไรบางอย่างให้เขาเสี่ยวเป่าหัวเราะชอบใจ จากนั้นก็เข้าห้องตัวเองไปอย่างว่าง่าย

เขาเองก็ไม่อยากไปรบกวนเวลาที่พ่อกับแม่จะผลิตน้องๆ ให้กับเขาหรอกนะ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!