สรุปตอน บทที่ 462 คนที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุดเป็นใคร? – จากเรื่อง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว
ตอน บทที่ 462 คนที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุดเป็นใคร? ของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์เรื่องดัง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดยนักเขียน เมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่ 462 คนที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุดเป็นใคร?
ผ่านไปกี่วัน เรื่องนี้ก็ยังไม่สงบ แต่ยิ่งดำเนินก็ยิ่งร้ายแรงกล้าเดิม
วันนี้ จิ้นเฟิงเฉินพึ่งมาถึงบริษัทแล้วนั่งลง ผู้บริหารระดับสูงไม่กี่คนก็ได้เคาะประตูแล้วเข้ามา
“ประธานจิ้น ข่าวที่ได้แผ่กระจายอยู่ในตอนนี้ไม่เป็นผลดีกับพวกเรามากๆ มีคนไม่น้อยที่ได้กัดบริษัทของพวกเราไม่ปล่อย ได้รอให้เกิดเรื่องกับจิ้นกรุ๊ป พวกเขาจะได้แบ่งผลประโยชน์ได้บ้าง”
“ใช่ครับ ตอนเปิดหุ้นวันนี้ หุ้นในตลาดหุ้นได้ลดลงไปไม่น้อย ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้”
“เดิมทีโครงการที่ได้คุยกันอยู่ดีๆ อีกฝ่ายไม่ยอมที่จะเซ็นสัญญาสักที หาข้ออ้างต่างๆ นานา ที่จริงก็แค่รอดูสถานการณ์”
พวกเขาเธอพูดประโยคหนึ่งฉันพูดประโยคหนึ่ง เหมือนกับว่าเวลานั้น จิ้นกรุ๊ปจะล้มละลายแล้วยังไงอย่างงั้น
จิ้นเฟิงเฉินก้มหน้าลง พลิกเอกสาร แล้วก็เซ็นชื่อไปบ้าง
พวกผู้บริหารระดับสูงได้มองหน้ากัน ในนั้นก็ได้มีคนไอออกมาเสียงหนึ่ง พูด “ประธานจิ้น?”
จิ้นเฟิงเฉินได้เงยหน้าขึ้นมา สีหน้าเย็นชา “เรื่องข่าวนั้นไม่นานก็จะจัดการได้ หุ้นไม่มีทางที่จะมีผลกระทบอะไรมาก ส่วนเรื่องโครงการ พวกเขาไม่ยอมเซ็น งั้นก็ไม่เซ็น”
พวกผู้บริหาร “......”
พวกเขาคิดว่าจิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ฟัง แต่อีกฝ่ายก็ได้ตอบคำถามของพวกเขาไปทั้งหมด
คนพวกนั้นก็ได้ออกจากห้องทำงาน ต่างก็ได้แค่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
พูดๆ แล้วพวกเขาได้ทำงานกับจิ้นเฟิงเฉินมาหลายปี ความสามารถของเขาก็ได้เข้าใจเป็นอย่างดี
ความรู้สึกที่พวกเขามีให้จิ้นเฟิงเฉิน เป็นความรู้สึกที่เชื่อใจอย่างน่าประหลาด ถึงแม้ว่าอายุของเขาไม่ได้เยอะกว่าพวกเขา
จิ้นเฟิงเฉินได้ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง ก็ได้แก้พวกเอกสารที่สำคัญไปจนหมด แล้วก็ได้กดเรียกเลขาเข้ามา ทำเธอเอาเอกสารออกไป
จากนั้น เขาได้เปิดโทรศัพท์ ก็ได้ดูข่าวอย่างไม่สนใจอะไร
ข่าวที่เกี่ยวกับจิ้นกรุ๊ป ก็ได้ติดอันดับยอดค้นหาที่มากที่สุดไม่ตก คนที่เป็นคนปล่อยข่าวรู้กฎของการปั่นข่าวเป็นอย่างดี
ผ่านไปสักพักก็ได้ปล่อยออกมาข่าวหนึ่ง คนที่ดูสนุกนั้นก็ได้เฝ้าอยู่ข้างคอม ก็ได้เฝ้ารอดูอะไรสนุกๆ ไม่ห่าง
เรื่องส่วนตัวของเจียงสื้อสื้อก็ได้ถูกปล่อยออกมาแทบหมด คนที่ด่าบนเน็ตนั้นก็มีอยู่หลายหน้า
ในทางกลับกัน ชื่อเสียงของเซิ่งจือเสี้ยก็ได้ดีมากๆ พวกชาวเน็ตพากันเห็นใจเธอ
จิ้นเฟิงเฉินเห็นแล้วก็หงุดหงิด แล้วขว้างโทรศัพท์ไปอีกด้าน สองมือประสานกัน หรี่ตาใช้ความคิด
ก่อนอื่น หลังจากที่เซิ่งจือเสี้ยมาหาเจียงสื้อสื้อนั้น ตัวเองก็ได้ไปตักเตือนเธอไปที
ต่อจากนั้น เซิ่งจือเสี้ยคนนี้ ก็ได้มีปฏิกิริยาแปลกๆ ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมปล่อยเสี่ยวเป่า
แต่เธอได้ผ่านไปหลายปีถึงได้มาหา พึ่งมาเจอตอนนี้จริงเหรอ? ไม่น่าใช่
สุดท้าย ข่าวคราวนี้ ได้ดันให้จิ้นกรุ๊ปไปอยู่ในช่วงวิกฤต ขนาดจิ้นเฟิงเฉินเองก็เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย คนที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดเป็นใคร? เซิ่งจือเสี้ย
สรุป เซิ่งจือเสี้ยมีแรงจูงใจ หรือว่าได้วางแผนเรื่องนี้ไว้เรียบร้อย
จิ้นเฟิงเฉินก็ได้มีสายตาที่เยือกเย็น ถ้าเป็นเธอจริงๆ เขาไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่!
ได้สั่งให้คนไปสืบเรื่องนี้มาก่อนหน้า เห็นได้ชัดว่าเชื่อไม่ได้ จิ้นเฟิงเฉินได้ติดต่อสำนักงานนักสืบที่มีชื่อเสียงมากๆ ในวงการ ให้เขาช่วยไปตามสืบเซิ่งจือเสี้ย
“เพราะงั้น เซิ่งจือเสี้ยคนนั้น เป็นคนที่หาเรื่องใส่ตัวเอง เจียงสื้อสื้อเขาไม่ได้พูดอะไรเธอเลย?”
“ที่แท้เธอเป็นคนคุกเข่าเอง พูดตามตรง พวกสำนักข่าวพวกนี้น่าเกลียดจริงๆ รู้จักแต่สร้างกระแส อะไรมือที่สามกดดันให้คนคุกเข่า น่ารังเกียจจริงๆ”
“ฉันว่าเซิ่งจือเสี้ยน่าสงสารนะ ความคิดเห็นบนพวกเธอเปลี่ยนข้างเร็วเกินไปแล้วหรือเปล่า งั้นก็รอเสียหน้าไปเถอะ”
คนที่มาแสดงความคิดเห็นนั้นคึกคักมาก คนส่วนหนึ่งก็ได้เข้าใจเลยทันที คนส่วนหนึ่งก็ไม่เชื่อ แล้วยังมีคนอีกส่วนหนึ่งก็แค่อยากจะมาดูเรื่องสนุกเท่านั้น ไม่ได้อะไร
เวลานี้คนในโซเชียลนั้นไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี ออฟฟิศเวยป๋อของจิ้นกรุ๊ปก็ได้โพสต์ออกมาอีกโพสต์หนึ่ง
โพสต์ครั้งนี้มีแค่รูปภาพเท่านั้น เป็นคำแถลงของฝ่ายทนาย เนื้อหารวมๆ เกี่ยวกับการปล่อยข่าวเจียงสื้อสื้อกับจิ้นกรุ๊ป เป็นเรื่องเท็จทั้งหมด ใครกล้าที่จะสร้างข่าวลืออีก งั้นก็รอไปเจอกันที่ศาล
จิ้นกรุ๊ปได้ออกมาอธิบายเรื่องบริษัท ดูแล้วเหมือนดีใจเหมือนเข้าใจคนมาก แต่ต่อมา เขาก็ได้มาแบบบีบบังคับ มาแบบไม้แข็งมากๆ
คนที่มาแสดงความคิดเห็นก็ได้มากขึ้นอีกครั้ง
“อ่า~~~ ฉันรู้สึกว่าตัวเองได้กินอาหารหมา นี่เอาบริษัททั้งบริษัทมาปกป้องผู้หญิงของตนเหรอ แม่จ๊า ฉันอิจฉาความรักแบบนี้จัง”
“ออฟฟิศเวยป๋อของจิ้นกรุ๊ปปกติใช้ไม่ได้ วันนี้ได้โพสต์เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับบริษัทออกมาถึงสองครั้ง เซอร์ไพรส์จริงๆ”
“เชอะ ต้องกลัวแน่ๆ อย่าคิดว่าโพสต์คำแถลงของฝ่ายทนายออกมาก็ไม่เป็นอะไรแล้ว สมัยนี้ คนสิบคนได้รู้จักโพสต์คำแถลงทนายแล้ว ฉันยิ่งสงสัยเธอเข้าไปอีก ไม่ทำเรื่องผิดอะไร ทำไมถึงได้รีบออกมาแก้ตัวแบบนี้”
“คนข้างบนสมองมีปัญหาเหรอ คนเขาอธิบายก็ผิด ไม่อธิบายก็ผิด โลกนี้ทำไมเธอไม่เป็นคนมาสร้างล่ะ”
จิ้นเฟิงเฉินโพสต์คำแถลงของฝ่ายทนายเสร็จ ก็ตามด้วยคนที่ให้ไปตามหัวเรื่องชองคนปล่อยข่าว
การกระทำคราวนี้ ก็ได้ควบคุมกระแสข่าวบนเน็ตได้ จิ้นเฟิงเฉินก็ได้ปิดคอมที่อยู่ตรงหน้าไป รอข่าวเงียบๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!