บทที่ 464 ตัวตลก
เรื่องที่เกิดขึ้นในไม่กี่วันมานี้ก็พอที่จะทำให้เจียงสื้อสื้อเหนื่อยใจ เธอได้พิงไปที่ไหล่ของจิ้นเฟิงเฉินอย่างขี้เกียจ
“เฟิงเฉิน ฉัน......”
แน่นอนว่าจิ้นเฟิงเฉินต้องรู้อยู่แล้วว่าเธอไม่สบายใจ ก็ได้ปลอบไปเบาๆ ว่า “สื้อสื้อ ตอนนี้พวกเราได้สารภาพไปหมดแล้ว ที่เหลือก็แค่รอดูว่าคนพวกนั้นจะตายยังไงก็พอแล้ว”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า
กลับไปถึงบ้าน เจียงสื้อสื้อก็ได้ตรงเข้าห้องเลย แม่จิ้นรู้ว่าเธอเหนื่อยใจ ก็ไม่ได้ถามว่าเกิดอะไรขึ้น
พลังของเสียงวิพากษ์วิจารณ์นั้นเยอะมาก ขนาดแม่จิ้นก็อยู่แต่ในบ้าน เธอนั้นไม่อยากที่จะถูกพวกคุณนายพวกนั้นถาม
“แม่ครับ แม่ช่วยดูแลสื้อสื้อหน่อยนะ ผมกลับไปที่บริษัทก่อน” จิ้นเฟิงเฉินพูดออกไป ก็ได้ออกจากบ้าน
แม่จิ้นไปเคาะประตู เจียงสื้อสื้อไม่ตอบอะไร
ก็ได้แง้มเล็กน้อย เห็นร่างเล็กๆ ที่มุดอยู่ที่เตียง แม่จิ้นถึงได้วางใจ
เปิดโทรศัพท์มาดู หน้าจอก็ได้มีข่าวใหม่ขึ้น
ประธานจิ้นกรุ๊ปก็ได้ปกป้องภรรยาแล้วพูดว่าเรื่องพวกนั้นไม่เป็นความจริง!
แม่จิ้นก็ได้รีบกดเข้าไป ที่เห็นก็คือเรื่องที่จิ้นเฟิงเฉินได้พูดตอนที่อยู่เจียงซื่อกรุ๊ปวันนี้
เห็นแบบนั้น มุมปากของแม่จิ้นก็ได้มีรอยยิ้ม เธอรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้จิ้นเฟิงเฉินต้องจัดการได้
ในเวลาเดียวกัน จี้เฉินที่นั่งอยู่ในตึกของสตีเฟนกรุ๊ป มุมปากก็ได้ยิ้มออกมาอย่างได้ใจ
ช่วงนี้หุ้นของจิ้นกรุ๊ปก็ได้ลดแบบไม่หยุด สำหรับเขานี่เป็นข่าวดีมากๆ
เขารู้ว่าไม่ควรที่จะได้ใจเกินไป เพราะงั้น ช่วงที่ผ่านมาเขานั้นได้คิดหาแผนสำรองมาโดยตลอด
“ก๊อกๆๆ” เสียงเคาะประตูที่อยู่ๆ ก็ดังขึ้นได้ดึงสติของจี้เฉินกลับมา
จี้เฉินนิ่งไป เห็นผู้ช่วยก่อนหน้าได้พาคนเข้ามา ก็ได้ถามอย่างสงสัย “นี่คือ?”
“คนนี้คือประธานฟาง ได้คุยเรื่องร่วมงานกับจิ้นกรุ๊ปแต่ก็ได้ล้มไปเพราะเหตุผลบางอย่างในช่วงนี้ครับ ผมรู้สึกว่าสตีเฟนกรุ๊ปต้องการคนแบบนี้มาร่วมธุรกิจด้วย เพราะงั้นก็ได้พาเขามา ท่านประธานว่า?”
คนที่สามารถทำงานกับจี้เฉินต้องเป็นคนไม่ธรรมดาอยู่แล้ว เรื่องสังเกตสีหน้าอารมณ์ไม่ต้องเอ่ยถึง เขารู้ว่าจี้เฉินตอนนี้ต้องการอะไร
เป็นไปอย่างที่คิด พอจี้เฉินได้ยินการแนะนำตัวเสร็จ ก็ได้เปลี่ยนท่าทีที่มีให้ทันที ยิ้มเบาๆ “ประธานฟาง ยินดีที่ได้พบครับ”
ประธานฟางคนนั้นชื่อฟางถิงหลิน เดิมทีร่วมงานโครงการหนึ่งกับจิ้นกรุ๊ป
เดิมก็เจรจากันไปไม่น้อยแล้ว ใครจะคิดว่าเขานั้นเป็นตัวเอกของข่าวลือ
ก็ได้พูดมากถามเรื่องเจียงสื้อสื้อไปเล็กน้อย ก็ทำให้จิ้นเฟิงเฉินโมโห แล้วเดินออกไปเลยทันที
ช่วงนี้หุ้นของจิ้นกรุ๊ปได้ร่วง ประธานฟางคนนั้นก็คิดไม่ซื่อ
ตอนนี้จิ้นเฟิงเฉินทำแบบนี้ เขาก็ได้ยกเลิกสัญญาไปเลยซึ้งๆ หน้า จิ้นกรุ๊ปเพื่อที่จะเปิดข่าวแล้วไม่ให้เสียน้ำใจนั้นก็ได้คืนเงินไปไม่น้อย
เรื่องนี้จี้เฉินก็ได้ยินมาบ้าง เดิมทีที่เขาสนใจก็เป็นเรื่องที่จิ้นกรุ๊ปเสียผลประโยชน์มาโดยตลอด
คิดไม่ถึงว่า ผู้ช่วยก็ได้พาฟางถิงหลินมาแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ทำให้เขาแปลกใจมากๆ
ฟางถิงหลินก็ได้ดื่มชาไปด้วยความไม่ใส่ใจ แล้วก็ได้มองภาพเขียนที่จี้เฉินแขวนที่พนันไป
อิทธิพลของเขาถามเทียบกับสตีเฟนกรุ๊ปแล้ว ก็เทียบอะไรไม่ได้เลย
เพราะงั้นเขาก็ได้เป็นคนเริ่มหาเรื่องคุยก่อน แต่ก็ได้พูดออกไปอย่างไม่เป็นตัวเอง “ประธานจี้เป็นคนที่ละเอียดอ่อนจังนะครับ ภาพนี้พอมองแล้วก็รู้เลยว่าเป็ยภาพวาดของคนดัง”
ประธานจี้ก็ได้เหล่ไปมองสักพัก ก็ได้พูดออกมาว่า “ประธานฟางก็พูดชมเกินไปครับ ผมนั้น ก็ไม่ได้เป็นคนที่ชอบพูดอะไรอ้อมๆ ไหนๆ คุณก็มาถึงที่นี่แล้ว ก็หมายความว่าสนใจที่จะร่วมงานกับสตีเฟนกรุ๊ป เอาแบบนี้ พวกเรามาทำข้อตกลงกันไหม ถ้าได้ ก็ร่วมงานกันเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!