ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 499

บทที่ 499 เหตุการณ์ระทึก

เครื่องบินบินอยู่ 10 กว่าชั่วโมงในที่สุดก็เดินทางมาถึงแอฟริกาใต้ ตอนนี้เจียงสื้อสื้อทั้งเหนื่อยและง่วง

ตอนที่เธอลงจากเครื่องบินเธอแทบจะหลับตาเดิน

จิ้นเฟิงเฉินโอบเอวเธอไว้ตลอดเวลา ดังนั้นเจียงสื้อสื้อไม่ต้องมองทางก็ได้

เมื่อเธอได้สติขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่บนเกี้ยว เจียงสื้อสื้อขยี้ตาตัวเองแล้วมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง “โอ้โหสวยจังเลยค่ะ”

พวกเขามาถึงที่นี่ในเวลากลางคืน ทิวทัศน์ในยามค่ำคืนของแอฟริกาใต้เป็นที่ขึ้นชื่อไปทั่วโลกอยู่แล้ว

จิ้นเฟิงเฉินรีบเอื้อมมือเข้าไปโอบเธอเอาไว้แล้วจับตัวเธอ กลัวว่าเธอจะตื่นเต้นจนเกินไปทำอันตรายต่อตัวเองได้

เจียงสื้อสื้อพยายามยื่นหน้าออกไปนอกหน้าต่าง และบ่นที่จิ้นเฟิงเฉินจับเธอเอาไว้ ไม่รู้ว่าเธอบ่นอะไร

จิ้นเฟิงเฉินก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ถ้าคุณอยู่นิ่งๆผมก็จะปล่อยคุณ”

เมื่อได้ยินดังนั้นเจียงสื้อสื้อก็นั่งนิ่งไม่ขยับ เธอใช้สายตาในการอ้อนวอนให้จิ้นเฟิงเฉินปล่อยมือ

แต่เมื่อจิ้นเฟิงเฉินปล่อยมือ เธอก็รีบวิ่งไปให้ห่างจากที่เฟิงเฉินนั่งมากที่สุด เนื่องจากเมื่อสักครู่เธอนอนหลับอยู่ในอ้อมอกของเขา

แม้ตอนนี้ที่เอวเธอไม่มีอะไรมัดไว้แล้ว แต่หัวใจของจิ้นเฟิงเฉินก็ยังคงเต็มเปี่ยม

เมื่อเจียงสื้อสื้อเห็นอะไรดีๆเธอก็มักอยากจะแบ่งปันกับเขาอยู่เสมอ เธอจึงหันหลังกลับมาชี้ออกไปข้างนอกอย่างมีความสุขและพูดกับจิ้นเฟิงเฉินว่า “เฟิงเฉิน รีบดูนี่สิคะ”

คิ้วที่ได้รูปสวยงาม ประกอบกับรอยยิ้มอันชาญฉลาดดวงตาส่องประกาย จิ้นเฟิงเฉินจะสนใจมองทิวทัศน์ยามค่ำคืนอีกทำไมกัน ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านี้ งดงามยิ่งกว่าใดๆในโลกแล้ว

ทั้งสองกอดกันแล้วมองออกไปในบรรยากาศกลางคืนที่ต่างประเทศ หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความสุข

ถึงจะอย่างนั้นแต่เธอก็กำลังตั้งครรภ์ ระยะทางจากสนามบินจนถึงโรงแรมเจียงสื้อสื้อเผลอหลับไปในที่สุด

จิ้นเฟิงเฉินอุ้มเธอลงมาจากรถ แล้วตรงเข้าไปในล็อบบี้ของโรงแรมอันหรูหรา เพื่อทำการเช็คอินเข้าที่พัก ชายรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาเย็นชามีหญิงสาวในอ้อมแขน เขาปฏิบัติต่อหญิงสาวนั้นด้วยความระมัดระวัง

เช้าวันต่อมา เจียงสื้อสื้อตื่นขึ้นและพบว่าจิ้นเฟิงเฉินได้สั่งอาหารเช้ามาแล้ว เธอถูกกลิ่นหอมเย้ายวนทำให้ รีบวิ่งไปยังอาหารเหล่านั้นโดยไม่ได้สวมรองเท้าเสียก่อน

เนื่องจากเมื่อวานเย็นนี้เธอหลับไปโดยไม่ได้กินอาหารเย็น ตอนนี้หิวจนไส้จะขาดอยู่แล้ว

จิ้นเฟิงเฉินเป็นกังวลขึ้นมาทันใดแล้วรีบบอกให้เธอค่อยๆเดิน จากนั้นถือรองเท้าแตะเดินมาใส่ให้เธอ

เจียงสื้อสื้อป้อนขนมเค้กชิ้นเล็กๆให้แก่เขา จากนั้นยิ้มขึ้นแล้วถามว่า “อร่อยไหมคะ?”

ท่านประธานจิ้นที่ไม่ชอบอาหารรสหวาน "......"

พยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะกลืนขนมชิ้นนั้นลงไป อีกทั้งต้องพยายามเอ่ยชมออกมาด้วยความยากลำบาก

ในตอนบ่ายจิ้นเฟิงเฉินได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง เขาใช้ภาษาอังกฤษในการสนทนากับฝ่ายตรงข้าม จากนั้นวางสายลงหันหลังไปเห็นเจียงสื้อสื้อที่มองเขาอยู่ด้วยความประหลาดใจถามว่า “คุณจะออกไปข้างนอกเหรอคะ?”

คนท้องบางคนที่หลับมาตลอดการเดินทางคงจะลืมจุดประสงค์ที่แท้จริงของการเดินทางมาครั้งนี้ไปเสียสนิท

จิ้นเฟิงเฉินเดินตรงเข้ามาจัดแจงผมเผ้าให้แก่เธอแล้วพูดว่า “ครับผมจะไปที่เหมือง คุณไม่ต้องตามไปถ้ามีอะไรขาดเหลือก็โทรศัพท์แจ้งพนักงาน”

เจียงสื้อสื้อไม่เห็นด้วย “ฉันจะไปกับคุณ”

จิ้นเฟิงเฉินมองไปที่ท้องของเธอแล้วพูดว่า “ครับผมรู้ว่าคุณไปไหว แต่ลูกตัวน้อยของเราคงจะเหนื่อยจริงๆ”

“ก็ได้ค่ะ” เจียงสื้อสื้อตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจ

จิ้นเฟิงเฉินเดินทางออกไป เมื่อเจียงสื้อสื้อนอนหลับตื่นขึ้นมาก็รู้สึกเบื่อเธอจึงเปิดโทรทัศน์ดู

เป็นจังหวะเดียวกับข่าวกำลังรายงานการเกิดอุบัติเหตุในท้องถิ่นที่มีก้อนหินขนาดใหญ่ถล่มลงมา มีเสียงกรีดร้องของผู้คน ผสมผสานกันไป เพียงดูผ่านหน้าจอนี้ก็รู้สึกถึงความสิ้นหวัง

ผู้สื่อข่าวพูดถึงชื่อสถานที่เกิดเหตุด้วยน้ำเสียงอันเน้นย้ำ เจียงสื้อสื้อยืนอยู่กับที่แล้วมองไปรอบๆเพื่อหาโทรศัพท์มือถือ

เธอคลับคล้ายคลับคลาได้ยินจิ้นเฟิงเฉินเคยบอกว่า เหมือง ของตระกูลจิ้นคือชื่อที่โทรทัศน์กำลังรายงานอยู่นี้

เจียงสื้อสื้อพยายามระงับความกลัวและโทรศัพท์ไปหาจิ้นเฟิงเฉิน แต่ว่าปลายสายไม่สามารถติดต่อได้เลย

เธอจับตาดูภาพในทีวีต่อไป

วินาทีนี้หัวใจของเธอแทบจะหยุดเต้น ในสมองของเธอปรากฏฉากอันเลวร้ายต่างๆขึ้นมา จิ้นเฟิงเฉินถูกฝังอยู่ข้างใต้นั้นใช่ไหม? จึงทำให้โทรศัพท์ไม่สามารถติดต่อได้?

ได้โปรดตอบข้อความฉันเร็ว

ดวงตาของเจียงสื้อสื้อเริ่มแดงขึ้น

เจียงสื้อสื้อโทรออกติดกัน 7-8 สายแต่ก็โทรไม่ติด ความกลัวของเธอมาถึงจุดสูงสุดแล้วเธอรีบเปลี่ยนรองเท้าและจะเดินออกไป

เมื่อเปิดประตูก็พบว่ามีคนเฝ้าอยู่ด้านนอก

“นายหญิงจะออกไปข้างนอกเหรอครับ?” คนที่อยู่ด้านนอกเอ่ยถามขึ้นอย่างมีมารยาท

เจียงสื้อสื้อจำได้ว่าเขาก็คือคนขับรถที่ไปรับพวกเธอจากสนามบิน เขาเป็นคนจีน

เจียงสื้อสื้อถามเขาอย่างกระตือรือร้นว่า “คุณรู้ไหมว่าจิ้นเฟิงเฉินอยู่ที่ไหนเหมือง เกิดเรื่องขึ้นแล้ว ฉันไม่สามารถติดต่อเขาได้”

น้ำเสียงของเธอสั่นคลอน

เขาเองก็ได้เห็นข่าวแล้วแต่ไม่ได้กังวลใดๆ เขาเอ่ยปลอบว่า “นายหญิงไม่ต้องกังวลไปครับเป็นเหมือง ข้างๆไม่ใช่ของเจ้านาย”

แต่หัวใจของเจียงสื้อสื้อก็ยังคงเต้นรัว “จริงเหรอคะ? แต่เขาอยู่ใกล้ๆตรงนั้นจะอันตรายอะไรหรือเปล่า จะส่งผลกระทบต่อเหมือง ของตระกูลจิ้นไหม?”

“อันนี้ น่าจะไม่ครับ” ชายคนนั้นพูดอย่างไม่แน่ใจ

เจียงสื้อสื้อยังรู้สึกไม่สบายใจ “ไม่ได้ค่ะ ฉันจะต้องไปหาเขา คุณส่งฉันไปหน่อยนะคะ”

เธอไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกแม้แต่วินาทีเดียว ถ้าเธอยังไม่ได้เห็นจิ้นเฟิงเฉิน เธอคงจะไม่มีทางวางใจลงได้

ชายคนนี้รู้สึกลำบากใจมาก เจ้านายเน้นย้ำกับเขาแล้วว่าให้ดูแลนายหญิงให้ดี หากเธอต้องการอะไรก็ให้ทำตามคำสั่งเธอ แต่จากสถานการณ์ในตอนนี้เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร

เมื่อเจียงสื้อสื้อรู้สึกกระวนกระวายใจ ท้องของเธอก็เริ่มเกร็งและรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

“นายหญิงครับพวกเรารออยู่ที่โรงแรมสักพักดีไหม ไม่แน่ว่าเจ้านายอาจจะกำลังกลับมา”ชายคนนั้นพยายามเกลี้ยกล่อม

เจียงสื้อสื้อเอามือกุมที่ท้อง ใบหน้าของเธอแสดงถึงความเจ็บปวดแต่ก็ยังยืนกรานจะไป

ในขณะที่เขาทำตัวไม่ถูก ประตูลิฟต์ก็ถูกเปิดออก ร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่งรีบวิ่งเข้ามา

“สื้อสื้อ ไม่สบายตรงไหนครับ?” หน้าของจิ้นเฟิงเฉินบูดบึ้งเล็กน้อย เขาจับไปที่บ่าของสื้อสื้อและถามอย่างรีบร้อน

“เฟิงเฉิน คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” เจียงสื้อสื้อรีบเข้าไปในอ้อมแขนของเขา เธอตกใจมากร่างกายสั่นสะท้าน แขนอันเรียวงามโอบไปที่คอของเขาน้ำเสียงคล้ายจะร้องไห้

จิ้นเฟิงเฉินลูบไปที่หลังของเธอครั้งแล้วครั้งเล่าและปลอบเบาๆ “ว่าผมสบายดีครับ ไม่ต้องกลัวนะ”

ทั้งสองคนโอบกอดกันอยู่สักพัก ในที่สุดจิ้นเฟิงเฉินก็ตัดสินใจจะพาเธอไปโรงพยาบาล เนื่องจากยังไม่วางใจเท่าไหร่นัก แต่เจียงสื้อสื้อส่ายหน้าด้วยสายตาแดงก่ำ

จะทำอย่างไรล่ะ จิ้นเฟิงเฉินได้แต่ไล่ให้ชายคนนั้นไปแล้วอุ้มเธอ เข้าห้อง ให้เธอนั่งลงบนโซฟา ส่วนตัวเองนั้นนั่งยองๆอยู่ที่พื้นแล้วเอ่ยถามอย่างจริงจังว่า “สื้อสื้อ คุณไม่เป็นอะไรจริงเหรอ?เมื่อสักครู่คุณเอามือกุมท้อง”

ตอนนี้อารมณ์ของเจียงสื้อสื้อสงบลงมากแล้ว เธอมีความกลัวเล็กน้อยแล้วตอบว่า “ฉันรู้สึกประหม่ามากหลังจากเห็นข่าวนั้น ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ”

เธอหยุดชะงักไปสักครู่จากนั้นจึงเอ่ยต่อว่าเขา “ทำไมโทรศัพท์คุณถึงโทรไม่ติดคะ? ฉันโทรหาคุณตั้งกี่สายแล้ว คุณทำให้ฉันเป็นห่วงแทบแย่”

“ขอโทษนะครับโทรศัพท์ผมเสีย หลังจากเกิดการถล่มผมก็รีบกลับมาทันที” คิดไม่ถึงว่าเขายังมาช้าไป ทำให้เธอกังวลเสียขนาดนี้จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกผิดมาก

เจียงสื้อสื้อบ่นพึมพำว่า “คุณไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะ ไม่รับสายฉันก็ไม่เป็นไรแต่ว่าฉันจะไม่ให้คุณไปอีก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!