สรุปเนื้อหา บทที่ 501ตามใจคุณ – ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว
บท บทที่ 501ตามใจคุณ ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ในหมวดนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เมียวเมียว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 501ตามใจคุณ
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ปล่อยทุกอย่างให้เป็นหน้าที่ของสามีคุณเอง รับ รองว่าคุณจะได้ใส่ชุดเจ้าที่สวยงามอย่างแน่นอนครับ”
ขณะที่จ้องมองเข้าไปในตาของเจียงสื้อสื้อ จิ้นเฟิงเฉินพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน
เมื่อถูกเขาจ้องจนเริ่มอาย เจียงสื้อสื้อก็หันหลังไป แต่ในใจก็ยังรู้สึกเคลิบเคลิ้มอยู่
แต่จิ้นเฟิงเฉินกลับรู้สึกไม่ค่อยชอบใจนัก ที่ภรรยาผู้ เลอโฉมของเขามาหันหลังใส่แบบนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการเลยสักนิด
เขาค่อยๆ เคลื่อนตัวให้เข้าใกล้เธอมากขึ้นทีละน้อย จนมาจ้องตากับเธอ
เจียงสื้อสื้อไม่รู้ว่าเขาต้องการจะทำอะไรกันแน่ เธอจึงได้แต่จ้องเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย
พอเห็นแววตาของเธอที่กำลังสั่นไหว หัวใจของจิ้นเฟิงเฉินก็สั่นสะท้านขึ้นมาทันที
ริมฝีปากค่อยๆเข้าใกล้เธอไปทีละน้อย
เมื่อเห็นความสง่างามที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า เจียงสื้อสื้อก็ยังรู้สึกประหม่าอยู่ดี ถึงทั้งสองคนจะอยู่กินกันมานานแล้วก็เถอะ
ริมฝีปากของทั้งสองบรรจบกันในที่สุด จิ้นเฟิงเฉินจูบเธอด้วยความอ่อนโยน
หลังจากที่งดเว้นเรื่องอย่างว่ามานาน การที่มาได้สัมผัสกับความดีงามของเจียงสื้อสื้อแบบนี้ มันก็ทำให้เขาอดกลั้นไม่อยู่เหมือนกัน
จู่ๆ เปลวไฟเล็กตรงท้องน้อยก็ได้ลุกโชนขึ้นมา ราวกับว่ามันกำลังเรียกร้องให้กินเจียงสื้อสื้อเข้าไปให้หมด
เจียงสื้อสื้อถูกเขาจูบจนเริ่มรู้สึกฟุ้งซ่านแล้ว ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานเธอก็นึกถึงคำเตือนของคุณหมอขึ้นมาได้
เธอรีบผลักจิ้นเฟิงเฉินออก จากนั้นก็อ้อนวอนเขาว่า “เฟิงเฉินคะ อย่า……ลูกของเรา……”
เมื่อได้ยินคำว่าลูก จิ้นเฟิงเฉินก็ได้ดึงสติของตัวเองกลับมาอีกครั้ง และเขาก็รีบหยุดการกระทำของตัวเองลงทันที
ตอนนี้ร่างกายของเธอยังไม่พร้อม มันอาจจะทำให้เธอและลูกน้อยได้รับอันตรายไปด้วยก็ได้
พอเห็นริมฝีปากที่บวมแดงของเจียงสื้อสื้อ เขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที
“สื้อสื้อครับ ผมขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”
พูดจบ จิ้นเฟิงเฉินก็รีบกระโดดลงเตียงในทันที
ไม่นาน เสียงน้ำจากฝักบัวก็ดังขึ้น
เมื่อถูกน้ำที่เย็นฉ่ำราดลงบนตัว ความร้อนรุ่มในร่างกายของจิ้นเฟิงเฉินก็เหมือนจะถูกดับลงไปมากแล้ว
เมื่อได้ยินเสียงที่ดังมาจากในห้องอาบน้ำ เจียงสื้อสื้อก็ยิ้มไม่ออกเลยจริงๆ
ไม่นึกเลยว่าคนระดับท่านประธานจิ้นก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้กับเขาเหมือนกัน
ไม่นาน เสียงจากห้องอาบน้ำก็สงบลง จากนั้นจิ้นเฟิงเฉินก็เดินออกมา
พอเจียงสื้อสื้อเห็นอย่างนั้น เธอก็รีบหลับตาลง ทำเหมือนตัวเองได้หลับไปแล้ว
ในระหว่างที่เช็ดผมที่เปียกปอน จิ้นเฟิงเฉินก็ได้เดินมาหยุดอยู่ที่ตรงหน้าของเจียงสื้อสื้อ
พอเห็นขนตาที่กำลังกระตุกของเธอ มุมปากของเขาก็มีรอยยิ้มปรากฏออกมา
เขาค่อยๆ ขยับขึ้นเตียง เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอดังขึ้น
หลังจากที่รู้ว่าจิ้นเฟิงเฉินหลับไปแล้ว เจียงสื้อสื้อก็ได้พลิกตัวกลับมา
เธอจ้องมองไปที่ใบหน้าของจิ้นเฟิงเฉินอย่างไม่ยอมละสายตา
ขนตาที่งอนยาว พาดอยู่ตรงขอบตาจนเกิดเป็นเส้นโค้ง เหมือนกับพัดขนาดจิ๋วไม่มีผิด
ด้วยความซุกซนเจียงสื้อสื้อจึงแอบเอานิ้วไปแตะมันเบาๆ จากนั้นก็รีบชักมือกลับเพราะกลัวจะไปรบกวนการนอนของจิ้นเฟิงเฉิน
แต่สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ จิ้นเฟิงเฉินนั้นยังไม่ได้หลับลงไปเลยด้วยซ้ำ
หลังจากได้แกล้งเขา ความง่วงก็ได้มาเยือน ไม่นานเจียงสื้อสื้อก็ค่อยๆท่องเข้าไปในห้วงแห่งความฝัน
ในตอนนั้น จิ้นเฟิงเฉินถึงได้ยืมตาขึ้นแล้วจ้องมองเจียงสื้อสื้อด้วยแววตาที่รักใคร่
จิ้นเฟิงเฉินได้ถอนหายใจออกมาเบาๆ การที่ชีวิตนี้ได้มีผู้หญิงอย่างเจียงสื้อสื้อมาอยู่เคียงข้างนั้นมันก็มากเกิดพอแล้ว
ช่วงเวลาก่อนที่เธอจะก้าวเข้ามาในชีวิต มันที่มืดมนแล้วอ้างว้าง
เจียงสื้อสื้อก็เป็นเหมือนนางฟ้าที่มาจากบนสรวงสวรรค์ มาช่วยดึงเขาให้ออกจากในความมืดมิด
เขาจูบลงที่ริมฝีปากของเธอหนึ่งที จากนั้นก็พูดเบาๆ ว่า “ฝันดีครับ นางฟ้าของผม”
วันต่อมา พระอาทิตย์เป็นคนที่ปลุกเจียงสื้อสื้อขึ้นมาเอง
แสงแดดสาดส่องเข้ามาตรงกลางห้อง ทำให้เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะตื่นขึ้นมาต้อนรับวันใหม่
พอช่างฝีมือรับแบบไปดู ไม่นานเขาก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ มันยังเป็นต้นอ่อนอยู่เลย ผมจะคงรูปลักษณ์เดิมของมันเอาไว้ จริงสิ ไม่ทราบว่าภรรยาของคุณชื่อแซ่อะไรเหรอครับ?”
“เจียงสื้อสื้อค่ะ” เจียงสื้อสื้อที่อยู่ข้างๆ ตอบ
พูดจบ เจียงสื้อสื้อก็ได้เสริมขึ้นมาอีก
“มาสเตอร์เกิ่งคะ ฉันอยากให้คุณช่วยสลักชื่อของเราสองคนไว้บนแหวนด้วยนะคะ แบบนี้มันจะได้มีคุณค่ามากขึ้น”
“พวกคุณไม่ต้องเรียกผมว่ามาสเตอร์ก็ได้ครับ เรียกผมว่าเหล่าเกิ่งก็พอ ผมเป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง แต่ก็สบายใจได้เลย คำขอของคุณผมได้จำมันใสสมองเอาไว้แล้ว คุณแค่นั่งรอข่าวดีอยู่ที่บ้านก็พอครับ”
พูดจบ เหล่าเกิ่งก็เดินเข้าไปกลางบ้านพร้อมกับเพชรในมือ แล้วเริ่มลงมือทำงานในทันที
ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินมาก่อนว่าเหล่าเกิ่งเป็นคนที่จริงจังในงานมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะหมกมุ่นได้ขนาดนี้
พอเจียงสื้อสื้อหันไปเห็นบรรดารูปที่ติดอยู่ตรงกำแพง เธอก็เกิดสนใจมันขึ้นมา
บนกำแพงเต็มไปด้วยแบบของชิ้นงานต่างๆ ที่ถูกออกแบบเอาไว้ ตรงมุมภาพยังมีชื่อของคู่สามีภรรยาถูกเขียนเอาไว้ด้วย แถมบางอันก็มีรูปถ่ายติดเอาไว้
ทุกคนในรูปต่างก็ดูมีความสุขกันทั้งนั้น เป็นธรรมดาที่จะได้รับผลกระทบจากรูปเหล่านั้น มันทำให้รอยยิ้มของเธอก็ฉีกกว้างขึ้นเรื่อยๆ
มาคิดๆ ดูแล้ว ความจริงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับจิ้นเฟิงเฉินมันก็ถือว่าประสบผลสำเร็จแล้วนะ อยู่ๆ หัวใจของเธอก็รู้สึกหวานย้อยจนเหมือนถูกชโลมไปด้วยน้ำผึ้ง
จิ้นเฟิงเฉินที่มองดูสีหน้าของเจียงสื้อสื้ออยู่ข้างๆ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสุขใจไปด้วย
ทั้งสองคนได้วุ่นวายอยู่ที่ เหล่าเกิ่งสักพักก่อนจะจากไป
ระหว่างที่เดินกลับ จู่ๆ เจียงสื้อสื้อก็หยุดเดินไปซะดื้อๆ แล้วจ้องเขม็งมาที่จิ้นเฟิงเฉิน
“เฟิงเฉินคะ ตกลงคุณเสียใจรึเปล่าคะที่มาแต่งงานกับฉัน?”
เมื่อถูกเจียงสื้อสื้อถามมาตรงๆ แบบนี้ ทำเอาจิ้นเฟิงเฉินถึงกับไปไม่เป็นเหมือนกัน
เขาเขกไปที่หัวของเจียงสื้อสื้อหลายครั้ง แล้วพูดขึ้นว่า “สื้อสื้อ นี่คุณพูดอะไรออกมาครับ? อะไรคือผมเสียใจรึเปล่า? ผม นายจิ้นเฟิงเฉิน ชีวิตนี้นอกจากเจียงสื้อสื้อแล้วจะไม่แต่งงานกับใครอีก ต่อไปห้ามถามคำถามที่มันไร้สาระแบบนี้อีกนะครับ”
ถึงจะโดนทำร้ายร่างกาย แต่เจียงสื้อสื้อก็มีความสุขมาก ความรู้สึกปลอดภัยที่อยู่ในใจได้ถูกเติมเต็มแล้ว
ในขณะที่มองดูเขาจากด้านข้าง เจียงสื้อสื้อก็พร้อมที่จะศิโรราบให้กับเขาแล้ว
จิ้นเฟิงเฉินช่างเป็นผู้ชายที่ล้ำค่าเหลือเกิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!