สรุปตอน บทที่ 502ไม่มีค่าให้พูดถึง – จากเรื่อง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว
ตอน บทที่ 502ไม่มีค่าให้พูดถึง ของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์เรื่องดัง ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดยนักเขียน เมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่ 502ไม่มีค่าให้พูดถึง
พอเดินไปสักพัก เจียงสื้อสื้อก็เดินต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว เธอจึงหันไปมองจิ้นเฟิงเฉินด้วยสายตาที่อ้อนวอน
“เฟิงเฉินคะ หยุดพักสักแปบได้ไหมคะ ลูกของเราเหนื่อยแล้ว”
พอเห็นเธอที่กำลังทำตัวเหมือนเด็ก จิ้นเฟิงเฉินก็ยื่นมือไปลูบหัวเจียงสื้อสื้อ จากนั้นก็พูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า “ได้ครับ เดี๋ยวผมพาเด็กน้อยกับเด็กโตไปหาอะไรกินดีไหมครับ?”
“ดีค่ะ! ไปหม่ำๆ กัน!”
พอได้ยินคำว่ากิน เจียงสื้อสื้อก็กระโดดขึ้นมาทันที
ทำเอาจิ้นเฟิงเฉินที่อยู่ข้างๆ ตกใจมาก กลัวเธอจะพลาดจนหกล้มไป
จวนจะคลอดอยู่แล้ว ยังไม่รู้จักระวังอีก
จิ้นเฟิงเฉินยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมาเลย เจียงสื้อสื้อก็ได้วิ่งไปไกลแล้ว
จิ้นเฟิงเฉินที่เห็นอย่างนั้นก็ต้องกุมขมับแล้วรีบวิ่งตามเธอไป
พอเจอร้านอาหารที่อยู่ใกล้ที่สุด เจียงสื้อสื้อก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปทันที
พอทั้งคู่เดินเข้าร้านไป มันก็ดึงดูดให้สายตาหลายคู่ต้องมองมาที่ทั้งสอง
ดูดีทั้งชายและหญิง ทำเอาหลายคนคิดว่าเป็นดาราที่ไหนแอบมากินข้าวที่นี่ซะอีกจิ้นเฟิงเฉินไม่ชอบใจกับสายตาเหล่านั้นนัก เขาจึงพาเธอไปนั่งตรงโต๊ะที่ไม่ค่อยเป็นจุดสังเกตนัก
พนักงานรีบเข้ามาให้การต้อนรับในทันที “สวัสดีครับคุณลูกค้า ไม่ทราบว่าจะรับอะไรดีครับ?”
จิ้นเฟิงเฉินรับเมนูมาแล้วส่งไปให้เจียงสื้อสื้อทันที
พอเจียงสื้อสื้อเห็นรายการอาหารแล้ว เธอก็รู้สึกถูกใจมาก
แต่หลายๆ รายการเธอยังกินไม่ได้ เพราะตอนนี้ในตัวเธอไม่ได้มีเธอแค่คนเดียว
เธอยังอยู่ในช่วงที่ต้องระวัง จะกินอาหารที่มันๆ ไม่ได้
พอเห็นเธอกำลังขมวดคิ้ว จิ้นเฟิงเฉินก็รู้สึกทุกข์ใจขึ้นมาทันที
ท้ายที่สุด หลังจากที่เธอให้คำสัญญาครั้งแล้วครั้งเล่า จิ้นเฟิงเฉินก็ยอมให้เธอกินของทอดได้นิดหน่อย
พอได้กินของที่ตัวเองอยากกินแล้ว เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกปลื้มใจมาก
เธอตบๆ ที่ท้อง จากนั้นก็จับมือของจิ้นเฟิงเฉินแล้วพูดว่า “ไปค่ะ คุณจิ้น ได้เวลาไปเยี่ยมอาจารย์ลันเฟร์แล้ว”
แต่จิ้นเฟิงเฉินกลับดึงมือเธอไว้ แล้วเขาก็ยืนขึ้น
เขาค่อยๆ ใช้นิ้วเช็ดไปที่มุมปากของเธอ พร้อมกับพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยนว่า “ดูสิ กินจนเลอะไปถึงบนปากแล้ว อย่างกับลูกแมวไม่มีผิด”
การกระทำนี้ได้กระตุ้นสายตาที่อิจฉาขึ้นหลายคู่เลยทีเดียว เจียงสื้อสื้อรู้สึกเขินอาย เธอจึงรีบดึงตัวจิ้นเฟิงเฉินออกจากร้านทันที
อะไรของผู้ชายคนนี้นะ อยู่ๆ ก็มาแสดงความรักแบบนี้ มันน่าอายจะตาย
“สื้อสื้อครับ ไฟล์ทบินที่ผมจะไปมิลานคือวันพรุ่งนี้ ดังนั้น ตอนนี้ยังไม่ต้องรีบก็ได้ครับ” พอเห็นท่าทางที่เร่งรีบของเจียงสื้อสื้อ จิ้นเฟิงเฉินก็ดึงเธอแล้วพูดไป
เจียงสื้อสื้อรู้สึกแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยิน เธอคิดว่าช่างออกแบบคนนั้นก็อยู่ที่แอฟริกาใต้ซะอีก
ถ้าไม่รีบ ก็แสดงว่ายังสามารถเดินเล่นอยู่ที่นี่ได้อีกสักพักล่ะนะ
พูดถึงการเดินช็อปปิ้ง นี่ก็พักใหญ่แล้วนะที่เจียงสื้อสื้อไม่ได้ออกมาข้างนอกคนเดียว
เธอมองไปที่จิ้นเฟิงเฉินด้วยสายตาที่ชั่วร้าย จิ้นเฟิงเฉินถึงกันเสียวสันหลังวาบ
แล้วก็เป็นไปตามคาด ทันใดนั้น เจียงสื้อสื้อก็เหวี่ยงมืออย่างแรงแล้วเธอก็วิ่งตรงเข้าไปยังเคาน์เตอร์หนึ่งทันที
สินค้าที่อยู่ในเคาน์เตอร์มากมายเป็นของที่ไม่มีขายในประเทศเลย ไม่ว่าจะเห็นอะไรเจียงสื้อสื้อก็อยากได้ไปหมด
แถมยังซื้อของฝากไปให้ทุกคนในบ้านอีก วันนี้ทั้งวัน เจียงสื้อสื้อก็ได้ของกลับมาเต็มไม้เต็มมือเลย
พอกลับถึงโรงแรม เธอก็ทิ้งตัวลงนอนในทันที
ส่วนเรื่องกับข้าวของก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของจิ้นเฟิงเฉินไป
ลันเฟเงียบอยู่นาน เจียงสื้อสื้อจึงยกมือและพูดขึ้นด้วยความสุภาพ “สวัสดีค่ะคุณลันเฟ ฉันชื่อเจียงสื้อสื้อ เป็นภรรยาของจิ้นเฟิงเฉิน ครั้งนี้ต้องรบกวนคุณแล้วนะคะ”
“คุณเจียงเป็นผู้หญิงที่งดงามมาก เมื่อกี้ผมเป็นคนเสียมารยาทเอง โปรดอภัยให้ด้วยครับ” ลันเฟทำท่ารู้สึกผิดเล็กน้อย
พอเห็นอย่างนั้น จิ้นเฟิงเฉินก็โอบไหล่ของเจียงสื้อสื้อไว้ แล้วพูดไปว่า “ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้ผมไม่เก็บมาคิดหรอก”
พอเห็นการแสดงความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจนของจิ้นเฟิงเฉินแล้ว เขาก็รู้สึกไม่ชอบใจมาก
“จิ้น ไม่ต้องห่วง ผมไม่แย่ภรรยาของคุณหรอก”
แต่ยังไงเขาก็ยังประทับใจในตัวเจียงสื้อสื้อมากอยู่ดี เขาจึงรีบไปหยิบสายวัดมาทำการวัดตัวให้เจียงสื้อสื้อ
จิ้นเฟิงเฉินที่นั่งดื่มชาอยู่ข้างๆ เตือนด้วยความไม่สบายใจว่า “ลันเฟ ภรรยาของผมกำลังตั้งท้อง ตอนที่ออกแบบคุณก็ช่วยเผื่อเอวไว้หน่อย ผมกลัวเธอจะอึดอัด”
“OK ผมจะจำมันไว้ แต่จะว่าไป ตอนนี้คุณกำลังจะแต่งงานแล้วเพิ่งมาบอกให้ผมรู้เนี่ยนะ สำหรับพี่น้องแล้วมันไม่ดูใจดำไปหน่อยเหรอ”
ลันเฟรู้สึกเคืองที่จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้บอกเรื่องที่ตัวเองจะแต่งงานให้เขารู้เป็นคนแรก
หลังจากจิบชาที่คำหนึ่ง จิ้นัฟิงเฉินก็ได้ตอบกลับไปว่า “แต่ผมก็ได้เอาเรื่องที่สำคัญที่สุดมาขอให้คุณช่วยแล้วไม่ใช่เหรอ การได้ใส่ชุดเจ้าสาวที่อาจารย์ลันเฟร์ผู้โด่งดังออกแบบให้ ลองจินตนาการดูสิว่ามันจะดูดีขนาดไหน”
“มันก็จริง มีแค่ชุดที่ผมออกแบบให้เท่านั้นที่จะเหมาะสมกับความงดงามของคุณเจียง” ลันเฟพูดด้วยความหลงตัวเอง
พอเห็นการโต้เถียงกันของทั้งคู่แล้ว เจียงสื้อสื้อก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉา
ถึงแม้ว่าสมัยเรียนเธอจะมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีก็ตาม แต่ด้วยการมีอยู่ของเจียงนวลนวล มันก็ทำให้คนที่อยู่รอบตัวเธอหายไปทีละคนๆ
แต่โชคยังดีที่สวรรค์ได้ส่งจิ้นเฟิงเฉินมาให้เธอ ก็ยังถือว่าไม่เลวเหมือนกัน
หลังจากที่วัดตัวให้เจียงสื้อสื้อแล้ว ลันเฟก็พูดไปยิ้มไปว่า “คุณเจียงครับ ผมรู้สึกถูกใจคุณมากเลย คุณไม่ต้องห่วง ผมจะออกแบบชุดเจ้าสาวที่สวยที่สุดให้กับคุณเอง
ระหว่างที่ออกแบบ ผมจะส่งแบบมาให้คุณดูผ่านเมล์ของจิ้นนะครับ คุณก็เลือกเอาว่าชอบแบบไหน ถ้าเลือกได้แล้วก็ให้จิ้นบอกผมอีกแล้วกันครับ”
เจียงสื้อสื้อชอบใจกับสิ่งที่ได้ยินมาก เธอจึงรีบตอบไปว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรบกวนคุณลันเฟแล้วนะคะ”
ลันเฟโบกไม้โบกมือพอย่างไม่ได้คิดอะไร “แค่เรื่องเล็กน้อย อย่าไปใส่ใจเลยครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!