บทที่ 532 ทำไมต้องให้เธอไปมอบตัว! – ตอนที่ต้องอ่านของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!
ตอนนี้ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 532 ทำไมต้องให้เธอไปมอบตัว! จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 532 ทำไมต้องให้เธอไปมอบตัว!
เจียงนวลนวลฟังแผนการของจื่อเฟิงจนจบ คิ้วที่ขมวดก็ค่อยๆคลายออก วางแผนจะไปหาเจียงเจิ้นในวันรุ่งขึ้น
ตกดึก เมืองเป่ยที่มีเมฆมืดอึมครึมมาตลอดทั้งวันในที่สุดฝนก็ตกลงมา
เสียงฝนค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆ ราวกับสาดเทลงมาก็ไม่ปาน ห่าฝนห่าใหญ่ ตกกระทบกระจัดกระจายลงบนพื้น ส่งเสียงดังชัดเจน
สภาพอากาศมีฝุ่นควันที่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า ทำให้ผู้คนจิตใจรู้สึกไม่สงบ……
ฝนที่ตกมาตลอดทั้งคืน ตอนที่พระอาทิตย์โผล่ขึ้นมา จึงได้หยุดลง
แสงสีส้มส่องสว่างไสวไปทั่วท้องฟ้า สภาพอากาศที่อึมครึมก็เปลี่ยนเป็นสดใสแจ่มจ้ามากขึ้น
เจียงเจิ้นตื่นนอนมาตั้งแต่เช้า ตอนที่ลงบันได ก็เจอกับคนรับใช้ที่มาทำความสะอาดห้องตามเวลา ทักทายเขาอย่างเคารพนอบน้อม“คุณผู้ชายตื่นแล้วเหรอคะ”
เจียงเจิ้นพยักหน้า บอกเป็นนัยว่าให้คนรับใช้ทำงานต่อไป
ส่วนตัวเองไปคว้าเสื้อคลุมตัวนอกมาสวม ก่อนจะเดินออกไปจากห้องอย่างช้าๆ
สถานที่ที่เจียงเจิ้นอยู่ในตอนนี้เป็นบ้านสไตล์ยุโรปหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่เขตชานเมือง
บรรยากาศเงียบสงบ อยู่ห่างจากเสียงดังวุ่นวาย เหมาะกับการพักฟื้นร่างกายอย่างมาก
เขาปฏิเสธคำแนะนำของเจียงสื้อสื้อที่จะเชิญคนมาช่วยดูแลการใช้ชีวิตประจำวันให้กับเขา มีแต่ให้คนมาทำความสะอาดบ้านเป็นระยะเท่านั้น
ดังนั้นในวันปกติ เขาจะอยู่ที่นี่เพียงคนเดียว
ช่วงนี้ไม่มีใคร สถานที่ว่างเปล่า
เพื่อที่จะให้ตัวเองมีอะไรทำ เจียงเจิ้นได้ทำการปลูกแปลงดอกไม้ตรงบริเวณหน้าประตู
แถมยังซื้อนกเอี้ยงจากตลาดเกษตรมาอยู่เป็นเพื่อนอีกหนึ่งตัวด้วย
ตอนที่รู้สึกเบื่อหน่ายก็รดน้ำต้นไม้ เล่นกับนก วันเวลาผ่านไปอย่างสงบเรียบง่าย
เจียงเจิ้นเปิดกรงของนกเอี้ยงออกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“เสี่ยวปามา ออกมาสิ”
ขนสีดำสั่นๆ ดวงตากลมๆของนกเอี้ยงตัวนั้นหันมา พูดย้ำคำพูดของเจียงเจิ้น“ออกมา มา!”
พร้อมกับกระโดดออกไป ยืนหยุดนิ่งอยู่บนไหล่ของเจียงเจิ้น
“เด็กดี โอ๋ๆ!”
ลูบๆลงที่หัวของนกเอี้ยง สีหน้าของเจียงเจิ้นเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มที่อ่อนโยน
ทั้งคนทั้งนกเดินตรงเข้าไปยังสวนดอกไม้
ส่วนเจียงนวลนวลที่อยู่ไม่ไกลกำลังมองดูอยู่ ในสายตาดูซับซ้อน
เธอเปิดประตูรถตู้ออก เดินตรงเข้าไปหาเจียงเจิ้น
ตะโกนเรียกขึ้นมาจากไกลๆ“พ่อ”
เจียงเจิ้นกำลังโก้งโค้งตัวลงไปหยิบฟิล์มพลาสติกที่สวนดอกไม้ขึ้นมา ได้ยินเสียงเรียกที่คุ้นหูแว่วๆอยู่ไกลๆ
เขาเงยหน้าขึ้นมาอย่างทันที หันมองออกไปไกลๆ
ต่อมาไม่นาน ร่างกายของเขาก็สั่นสะดุ้งทันที
มองเจียงนวลนวลอย่างไม่อยากจะเชื่อ เลือดในตัวราวกับแข็งตัวขึ้นมาทันที
อารมณ์ความรู้สึกมากมาย
ริมฝีปากที่แห้งของเขาพะงาบๆ มือที่แห้งหยาบยื่นไปข้างหน้า“นวลนวลเหรอ?”
เนื่องด้วยความตกใจที่มากเกินไป น้ำเสียงจึงกดลงต่ำและแหบแห้ง
เขานึกว่าตัวเองเห็นภาพหลอน
“หนูเอง พ่อ หนูคือนวลนวลเอง หนูกลับมาแล้ว”
เจียงนวลนวลวิ่งเข้าไป กอดเจียงเจิ้น
เธอแอบหยิกตัวเองอย่างแรง พยายามอดกลั้นจนตาเริ่มแดง
พอสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากร่างกาย เจียงเจิ้นก็รู้ได้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน
เขาจึงรู้สึกดีอกดีใจขึ้นมา ใบหน้าเผยให้เห็นรอยยิ้ม
คว้ามือของเจียงนวลนวลไว้ มองสำรวจใบหน้าของลูกสาว นิ้วมือสั่นเล็กน้อย“กลับมาก็ดีแล้วๆ”
เขารู้สึกราวกับยกภูเขาออกจากอก
“นวลนวล พวกเราไปมอบตัวกันเถอะ แบบนี้เท่านั้น ลูกถึงจะลดโทษได้นะ!”
เจียงเจิ้นสีหน้าเผยให้เห็นถึงอารมณ์ความรู้สึกที่หนักแน่น มองลูกสาวของตัวเองอย่างระมัดระวัง
เขาก็ไม่ได้อยากจะให้เจียงนวลนวลเข้าคุก แต่เธอทำเรื่องเลวๆมามากมายแล้วจริงๆ
เจียงนวลนวลที่กำลังเช็ดน้ำตาอยู่นั้นก็หยุดชะงักลง สีหน้าเปลี่ยนไป
พอได้ยินคำว่ามอบตัว ใจก็สั่นทันที
เธอไม่อยากติดคุก ให้ตายยังไงก็ไม่เอา!
สายตาชำเลืองมองไปทางเจียงเจิ้น แฝงไปด้วยความเคียดแค้น
พ่อที่รักและเอ็นดูเธอเมื่อครั้งในอดีตเปลี่ยนไปแล้ว จนถึงตอนนี้เขาถูกเจียงสื้อสื้อปั่นสมองไปเรียบร้อยแล้ว ไม่สนใจใยดีพวกเธอสองแม่ลูก แถมยังจะส่งเธอเข้าไปอยู่ในคุกอีก
ในขณะนี้เอง ความโกรธแค้นของเธอไม่น้อยไปกว่าตอนที่รู้ว่าแม่ถูกจับกุมตัว
เธอเกลียดเจียงเจิ้น แล้วก็ยิ่งเกลียดเจียงสื้อสื้อ
เธอไม่ได้ผิด ทำไมต้องไปมอบตัวด้วย!
ขณะที่เงยมองขึ้น ความโกรธแค้นในตาก็ถูกปกปิดเอาไว้ เธอพูดตอบรับออกไป“พ่อ พ่อพูดถูก หนูรับปากพ่อ หนูจะไปมอบตัว”
แสร้งทำเป็นเชื่อฟัง
เจียงเจิ้นได้ฟังแบบนั้น ก็ถอนหายใจออกมาทันที
ตอนแรกเขายังกังวลอยู่เลยว่าเจียงนวลนวลจะโกรธแล้วกลับไปซะอีก
เจียงนวลนวลที่เป็นแบบนี้มันช่างทำให้คนวางใจลงได้เยอะเลยทีเดียว
“นวลนวล ลูกโตแล้วจริงๆ พ่อปลื้มใจจริงๆ ลูกวางใจได้ ต่อให้พ่อสิ้นเนื้อประดาตัวก็ต้องหาทนายที่ดีที่สุดมาให้ลูกให้ได้”
สำหรับเจียงเจิ้นแล้ว คนที่ดื้อรั้นหยิ่งผยองมาโดยตลอดแบบเจียงนวลนวลสามารถทำได้ขนาดนี้ ก็ถือว่าเติบโตขึ้นมามากๆแล้ว
เขาสามารถวางใจลงได้สักที
ความรู้สึกในตาของเจียงเจิ้นไม่ใช่ว่าเธอไม่เห็น เจียงนวลนวลยิ้มๆอย่างอมทุกข์
แล้วก็เปลี่ยนเรื่องพูดทันที พูดขอร้องเจียงเจิ้น“ขอบคุณพ่อมากค่ะ แต่ว่าก่อนที่หนูจะไป ขอทานข้าวกับท่านสักมื้อได้ไหม หนูหิวมาก อีกอย่างนานแล้วที่ไม่ได้ทานข้าวที่บ้านด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!