สรุปเนื้อหา บทที่ 577 เป็นเธอ – ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว
บท บทที่ 577 เป็นเธอ ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ในหมวดนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เมียวเมียว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 577 เป็นเธอ
ในห้องพักผ่อน ครอบครัวตระกูลฉินก็มากันหมดเช่นกัน
เสี่ยวเป่าอยู่กับพวกเขาด้านใน ด้วยเพราะเขาอายุยังน้อย อยู่ข้างนอกเกรงว่าจะดูแลไม่ไหว
อีกอย่างคุณท่านฉินชอบเขามาก มีเขาอยู่ข้างๆ มักมีความสุขเสมอ
แม่จิ้นจึงให้เหลนอยู่เป็นเพื่อนบิดาตนเอง
เสี่ยวเป่าช่างทำให้คนเบิกบานใจจริงๆ
เพียงแต่ พวกแขกเหรื่อที่เข้ามาแต่ละคน แด๊ดดี้เขากลับยังไม่ปรากฏตัว
ใบหน้าเล็กๆ ของเสี่ยวเป่าปรากฏแววร้อนใจอย่างห้ามไม่อยู่ เอาแต่จ้องมองออกไปด้านนอก
คุณท่านฉินรักเหลนคนนี้อย่างมาก ด้วยเหตุนี้จึงถามอย่างอ่อนโยนว่า “เสี่ยวเป่า มีอะไรหรือ?”
เสี่ยวเป่าบิดมือเล็กไปมา ทำตัวสดใสตอบคุณท่านฉินว่า “แด๊ดดี้ผมยังไม่มาเลยครับ”
คุณท่านฉินตกใจ มองไปที่เหลนและลูกๆ กล่าวเสียงต่ำว่า “เฟิงเฉินยังไม่กลับมา?”
ลุงใหญ่ข่มความร้อนใจไว้ในใจ กดน้ำเสียงต่ำกล่าวว่า “เห็นบอกว่าจะกลับมาแน่ บางทีอาจจะเกิดความล่าช้าระหว่างทาง”
คุณท่านฉินเห็นเหลนน่าสงสาร จึงจับมือเล็กของเขา กล่าวเสียงนุ่มว่า “เสี่ยวเป่าเด็กดี แด๊กดี้บอกว่ากลับมาก็ต้องกลับมาแน่ หรือว่าหลานไม่เชื่อใจแด๊ดดี้ของหลาน?”
ภายในใจของเสี่ยวเป่า แด๊ดดี้คือยอดมนุษย์ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อใจแด๊ดดี้ แต่เพราะคิดถึงเขามากเท่านั้นเอง
อยากจะเจอเขาเร็วๆ
หลังหม่ามี๊จากไป เขาก็เหลือแค่แด๊ดดี้คนเดียวแล้ว เขาไม่อยากให้แด๊ดดี้หายไปอีก
เห็นท่าทางเข้มแข็งของเสี่ยวเป่า คุณท่านฉินก็สงสารจับใจ โอบเสี่ยวเป่าไว้ในอ้อมแขนแน่นขึ้น กล่าวอย่างปลอบประโลมไม่หยุดว่า “เสี่ยวเป่าของเราเป็นสุภาพบุรุษตัวน้อย ดังนั้นจึงต้องกล้าหาญ”
เสี่ยวเป่าพยักหน้าบนบ่าของคุณท่านฉิน เสียงเล็กๆ เจือแววสะอื้น “ครับ ผมเป็นเด็กดี”
คนตระกูลฉินเห็นต่างก็สงสารจับใจ พากันล้อมวงเข้ามาปลอบ
ที่หน้าประตูโรงแรม
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว อารมณ์ของทุกคนเริ่มเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ
พ่อจิ้นแววตาเครียดเล็กน้อย กล่าวเสียงต่ำว่า “โทรหาเฟิงเฉินสิ ถามเขาว่าถึงไหนแล้ว”
“พ่อ รออีกหน่อยเถอะ พี่อาจจะกำลังมา” จิ้นเฟิงเหรากำโทรศัพท์ กล่าวอย่างยืนกราน
พ่อจิ้นไม่พูดอะไรอีก
เวลานี้ มีรถแท็กซี่คันหนึ่งจอดลงตรงหน้าโรงแรม ประตูรถเปิดออก ชายหนุ่มร่างสูงขายาวคนหนึ่งก้าวลงมา
จิ้นเฟิงเหราดวงตาเป็นประกาย “พี่ใหญ่กลับมาแล้ว”
จิ้นเฟิงเฉินหน้าตาอิดโรย ริมฝีปากบางเม้มแน่น สีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง กลิ่นอายแข็งแกร่ง
นอกจากเขาแล้ว ก็ไม่มีใครที่มีกลิ่นอายสูงศักดิ์หล่อเหลาเช่นนี้อีก
เขาเกินมาหยุดตรงหน้าทุกคน พยักหน้ากล่าวว่า “พ่อ แม่ ผมกลับมาแล้ว”
จากนั้นก็หันไปหาจิ้นเฟิงเหรากับส้งหวั่นชีง “เฟิงเหรา หวั่นชีง ยินดีด้วย โทษที พี่มาสาย”
“ขอบคุณนะคะพี่” ส้งหวั่นชีงยิ้มแย้มแจ่มใส
จิ้นเฟิงเหราก็โอบไหล่จิ้นเฟิงเฉินด้วยความดีใจ กล่าวว่า “พี่ หากพี่ยังไม่มาอีก งานหมั้นนี้ผมก็ไม่จัดแล้ว”
พอได้ยินส้งหวั่นชีงก็หุบยิ้ม เลิกคิ้วขึ้น “หืม?”
เห็นเช่นนี้ จิ้นเฟิงเหราก็กลัวขึ้นมาทันที หัวเราแหะๆ เรียกทุกคนเข้าไป แขกเหรื่อแทบจะมากันหมดแล้ว งานเลี้ยงควรจะเริ่มได้เสียที
มุมปากจิ้นเฟิงเฉินโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม สายตากวาดมองไปรอบๆ ทีหนึ่ง
แม่จิ้นเข้าใจลูกชายดีที่สุด ก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว เพื่อให้อยู่แถวเดียวกับลูกชาย กล่าวเสียงค่อยว่า “เสี่ยวเป่าอยู่ข้างใน อยู่กับคุณตาเขา”
“ขอบคุณครับแม่” จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า
พิธีหมั้นเริ่มขึ้น พ่อจิ้นขึ้นเวทีกล่าวปราศรัย
พ่อจิ้นที่อายุเลยเลขห้ามาแล้ว หลังตั้งตรง ยังคงมีความสง่าอย่างที่วัยนั้นพึงมี
เห็นได้ว่า หลังจากสองพี่น้องจิ้นเฟิงเฉินแก่ตัวไป ก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก
ลุงใหญ่ลูบจมูกป้อยๆ ยิ้มแห้งๆ ถอยหลังไปอย่างเงียบๆ
คนอายุอ่อนกว่าอยากหัวเราะแต่ไม่กล้า จึงกลั้นไว้อย่างลำบากยิ่ง
จู่ๆ ที่หน้าประตูก็เกิดความวุ่นวายขึ้น เงาคนสามคนเดินเยื้องย่างมาอย่างช้าๆ
ด้วยเพราะมาสาย ทุกคนจึงพุ่งความสนใจไปที่คนกลุ่มนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
ภายใต้การมองเห็น ตอนนี้จึงกระจ่างแจ้ง
ที่เดินมาเป็นผู้ใหญ่สองเด็กหนึ่ง ดูท่าจะเป็นครอบครัวเดียวกัน
เด็กหญิงตัวน้อยดูร่าเริงมาก มือข้างหนึ่งจูงผู้ใหญ่คนหนึ่ง กระโดดโลดเต้นไปมา ดูน่ารักอย่างยิ่ง
ผู้ใหญ่สองคนหน้าตาดีมาก พูดได้ว่า การปรากฏตัวที่โรงแรมระดับสูงเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่คาดฝันเลยสักนิด
“พี่ชาย พี่ชาย......”
เถียนเถียนตาไว เพียงไม่นานก็มองเห็นเสี่ยวเป่า รีบปล่อยมือพ่อกับแม่ วิ่งไปหาเสี่ยวเป่าทันที
เจียงสื้อสื้อรู้สึกเพียงในมือว่างเปล่า เถียนเถียนวิ่งไปไกลแล้ว
เธอรู้สึกร้อนใจเล็กน้อย สถานที่เช่นนี้ เถียนเถียนวิ่งวุ่นวายจะไม่ดีหรือเปล่า
ฝู้จิงเหวินจับไหล่เธอไว้ ยิ้มเล็กน้อย พลางกล่าวเสียงค่อยว่า “ไม่เป็นไร เธอกับลูกบ้านนี้สนิทกันดี ให้เขาไปเองเถอะ”
เจียงสื้อสื้อส่งเสียงอ้อ ยังคงมองไปทางนั้นอย่างไม่วางใจ
เสียงกังวานใสของเด็กหญิงตัวน้อยดังมาทางนี้ เสี่ยวเป่ากับจิ้นเฟิงเฉินก็ถูกดึงสายตาไปที่นั่น
ตอนแรกจิ้นเฟิงเฉินไม่ได้สนใจ กวาดตามองคนสองคนที่เดินเข้ามาอย่างผ่านๆ มองทีแรกเห็นเป็นฝู้จิงเหวินเดินมาทางเขา
มองครั้งที่สอง ก็คือผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างกายเขา
สวมเดรสยาวสีเขียวมิ้นท์ ผมเกล้าขึ้นเป็นทรงสูง ปอยผมละใบหน้าด้านข้างบางส่วน
คอสวยยาวระหง เวลานี้ก็มองมาทางนี้เช่นเดียวกัน แต่สายตาอยู่ที่ตัวเด็กหญิงตัวน้อย
แก้วเหล้าที่อยู่ในมือจิ้นเฟิงเฉิน ตกพื้นเสียงดังสนั่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!