บทที่6อยากอยู่กับคุณน้า
จิ้นเฟิงเฉินตกตะลึงหันไปมองที่เธอ เขาลังเลเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็รีบพยักหน้า
เจียงสื้อสื้อเดินก้าวไปข้างหน้า เธอเคาะประตูแล้วก็พูดกับเด็กชายที่อยู่ในห้องว่า “ที่รัก อาหารพร้อมแล้ว ถ้าไม่ทาน อาหารจะเย็นหมดนะ ออกมาเถอะ"
มีเสียงดังเสียงกรอบแกรบออกมาจากในห้อง แต่ประตูยังคงปิดอยู่
เจียงสื้อสื้อยังคงพยายามพูดต่อ“ดูสิ น้าทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ตอนนี้หิวมาก หนูจะออกมาทานข้าวกับน้าไหม ไม่อย่างนั้นน้าอาจจะปวดท้องแย่เลย ไม่แน่อาจจะต้องทานยาไปหาหมอ ช่างน่าสงสารจริงๆ”
ในห้องก็ยังคงเงียบกริบ หลังจากนั้นไม่นาน ประตูก็ถูกเปิดออก มีหัวเล็ก ๆโผล่ออกมา
จิ้นเฟิงเฉินถึงกับตกใจ ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน เวลาที่เด็กคนนี้อารมณ์เสีย จะต้องใช้เวลานานกว่าหนึ่งสัปดาห์กว่าจะสงบสติอารมณ์ได้ คนทั้งบ้านมาปลอบก็ไม่ได้ผล นึกไม่ถึงเลยว่าเพียงแค่ผู้หญิงที่ชื่อเจียงสื้อสื้อคนนี้พูดเพียงไม่กี่คำเขาก็เชื่อฟังแล้ว
จิ้นเฟิงเฉินอดใจไม่ได้ที่จะมองไปยังผู้หญิงคนนั้นที่ยืนอยู่ข้างๆ แต่เธอก็ไม่ได้สังเกต เธออุ้มเสี่ยวเป่าออกมาข้างนอกอย่างมีความสุขและพูดว่า เสี่ยวเป่าเก่งมาก เราไปทานข้าวกันเถอะ"
เสี่ยวเป่าพยักหน้าไม่มองไปที่พ่อของเขาเลยแม้แต่น้อย แล้วก็นั่งลงบนเก้าอี้เตรียมตัวทานข้าว
เจียงสื้อสื้อเห็นจิ้นเฟิงเฉินยืนอยู่ ดูเหมือนเขาก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด เลยถามเขาว่า "คุณจิ้นทานข้าวแล้วยังคะ อยากทานด้วยกันไหม"
เธอก็แค่ถามไปตามมารยาท แต่นึกไม่ถึงว่าจิ้นเฟิงเฉินจะตอบ“ได้ รบกวนหน่อยนะ”
เจียงสื้อสื้อตกตะลึง เธอคิดในใจเขาไม่เกรงใจกันเลย
แต่โชคดีที่คืนนี้ทำอาหารเยอะ เจียงสื้อสื้อจึงรีบไปหยิบตะเกียบและถ้วยมาเพิ่มแล้วพูดว่า “ถ้ากับข้าวไม่ถูกปาก เดี๋ยวค่อยไปทานข้างนอกอีกรอบนะคะ”
จิ้นเฟิงเฉินค่อยๆคีบเนื้อติดกระดูกมาหนึ่งชิ้น กัดไปหนึ่งคำแล้วพูดว่า “รสชาติไม่เลว”
เจียงสื้อสื้อ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
บรรยากาศตอนทานอาหารค่อนข้างน่าอึดอัด โดยเฉพาะตอนที่มีผู้ชายมานั่งอยู่ข้างหน้า นี่ขนาดเจอกันครั้งแรกสถานการณ์ยังแย่แบบนี้
ยังโชคดีที่มีเสี่ยวเป่าอยู่ข้างๆ เจียงสื้อสื้อยังได้แกะกุ้ง ป้อนข้าว เช็ดปากให้เขาบ้าง ความสนใจก็เลยฟุ้งซ่าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!