ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 7

บทที่ 7 แบ่งเตียงให้ผมครึ่งหนึ่ง

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เจียงสื้อสื้อโบกมือ แล้วก็มองดูสองพ่อลูกจากไปต่อหน้าต่อตา

ทันใดภายในห้องก็แลดูว่างเปล่า เจียงสื้อสื้อรู้สึกสับสน จากนั้นก็ตีหัวตัวเองเบาๆและพูดในใจว่าเราเป็นอะไรไปเนี่ย ก็แค่เด็กที่เพิ่งเจอไม่ถึงหนึ่งวัน ทำไมถึงรู้สึกขาดไม่ได้ล่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าเสียวเป่าน่ารักละมั้ง

.......

เมื่อตกกลางคืน รถมายบัคอันงดงาม ก็ได้แต่งแต้มแสงสีให้กับท้องถนน บรรยากาศภายในรถแลดูตึงเครียด

เสี่ยวเป่าเหลือบมองไปอีกด้านอย่างโกรธเคือง ไม่แม้แต่จะมองพ่อของเขาเลยสักนิด

จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้วด้วยความปวดหัว แต่ก็ไม่คิดที่จะปลอบเสี่ยวเป่า

เป็นเพราะครอบครัวเอาอกเอาใจเขามากเกินไปเลยเป็นแบบนี้ ควรจะต้องหาคนมาดัดนิสัย

เมื่อรถมาถึงประตูบ้าน ทันทีที่ประตูรถเปิดออกเสี่ยวเป่าก็รีบลงออกจากรถ และวิ่งเข้าไปในบ้าน

หัวหน้าคนรับใช้ที่อยู่ระหว่างทางกล่าวทักทายเสี่ยวเป่าก็ไม่ตอบ วิ่งตรงไปที่ห้องแล้วก็ปิดประตู

สักครู่ก็มีเสียงปาข้าวของออกมาจากในห้อง มากไปกว่านั้นยังมีเสียงกระจกแตก

เมื่อได้ยินเสียงหัวหน้าคนรับใช้ก็ตกใจมากจึงรีบไปหาจิ้นเฟิงเฉิน "คุณชายครับ คุณชายน้อยเป็นอะไรไป เขาขังตัวเองไว้ในห้องคนเดียว ขออย่าให้ถึงขั้นทำร้ายตัวเองเลย"

จิ้นเฟิงเฉินสีหน้าเคร่งเครียด“ไม่ต้องไปสนใจเขา”

“ผมจะไม่สนใจได้ยังไง คุณท่านและคุณหญิงรักท่านชายน้อยเหมือนดั่งแก้วตาดวงใจ ถ้าคุณชายน้อยได้รับบาดเจ็บ ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ ถึงเวลานั้นบ้านคงวุ่นวายมาก คนที่จะปวดหัวก็คงจะเป็นคุณชายเอง คุณชายไปดูหน่อยเถอะครับ คุณชายน้อยยังเด็กอยู่เป็นเรื่องปกติที่จะโมโห คุณชายไปปลอบยังไงคุณชายน้อยก็ต้องเชื่อฟัง”

จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว สุดท้ายก็ไปเคาะประตู“จิ้นเป่ยเฉินลูกจะโวยวายไปถึงไหนกัน”

ไม่มีใครเปิดประตู เสียงของแตกยังคงดังอยู่ และยังมีเสียงดังฮึมฮำออกมาจากห้อง ทั้งจิ้นเฟิงเฉินกับหัวหน้าคนรับใช้ต่างก็เคร่งเครียดพอๆกัน

จิ้นเฟิงเฉินเลยตัดสินใจใช้เท้าถีบพังประตูเข้าไป ก็เห็นเด็กชายนั่งอยู่บนพื้น นิ้วมือโดนบาดเป็นแผลเลือดไหล

หัวหน้าคนรับใช้ตกใจมาก รีบเรียกคนใช้ให้มาช่วย“ไปเอากล่องยามาเร็ว”

จิ้นเฟิงเฉินก้าวข้ามของที่รกรุงรังบนพื้น แล้วอุ้มเสียวเป่าขึ้นมา นัยน์ตาของเขาโกรธมากแต่ก็จนปัญญา เขาพูดกับเสียวเป่า "ตอนนี้มีความสุขแล้วใช่ไหม"

เสี่ยวเป่าเงยหน้าขึ้นพูด “ผมจะไปหาน้าสื้อสื้อ”

จิ้นเฟิงเฉินตอบ “ดึกป่านนี้แล้ว ไปไม่ได้”

เสี่ยวเป่าเริ่มดิ้น “งั้นผมไม่ทำแผล ปล่อยผม ผมเกลียดพ่อที่สุด”

จิ้นเฟิงเฉินปวดหัวเหมือนหัวจะแหลก แต่ก็ยังทนพูด“ทำไมลูกถึงชอบน้าเขา ลูกรู้จักเขาเพียงไม่ถึงวัน”

“ผมชอบน้าสื้อสื้อ ผมรู้สึกว่าเขาเหมือนแม่...” เสี่ยวเป่าตาแดง และพูดด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสาร

จิ้นเฟิงเฉินจากที่โกรธหน้าตายก็หายไป

เขาคิดว่าเสี่ยวเป่าไม่เหมือนเด็กคนอื่น ๆ ที่ไม่ต้องการหาแม่ใหม่

เจียงสื้อสื้อตกใจ รีบรับเสี่ยวเป่าพร้อมกับโบกมือ “ไม่เป็นไร ไม่รบกวน”

จิ้นเฟิงเฉินพูด“งั้นก็ดีแล้ว”พูดเสร็จก็เดินไปนั่งบนโซฟาโดยพลการ

เจียงสื้อสื้อรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย เขา.....จะไม่กลับเหรอ คนที่จะค้างที่นี่ไม่ได้มีแค่เสียวเป่าคนเดียวเหรอ

“คุณจิ้นคะ คุณ.......................”

“ห้ะ” จิ้นเฟิงเฉินทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ดูแล้วที่นี่ก็ไม่มีห้องว่าง งั้นผมนอนโซฟาก็ได้”

เจียงสื้อสื้อตกใจ

นอนโซฟาก็ได้อะไรกัน เขาจะค้างที่นี่จริงเหรอ

จิ้นเฟิงเฉินเห็นสีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ดูจากสีหน้าเหมือนเธอเต็มไม่ใจ

เธอน่าจะรู้ดี ผู้หญิงทั้งเฉิงตูแทบอยากจะคลานขึ้นไปบนเตียงของเขา ผู้หญิงเหล่านั้นต้องพยายามมากแค่ไหนเพื่อที่จะไต่เต้าตระกูลจิ้น นี่เป็นครั้งแรกที่เจอผู้หญิงแบบนี้ แต่ว่าไปก็น่าน่าสนใจดี

จิ้นเฟิงเฉินก็ไม่ได้เปิดเผยในสิ่งที่เขาคิดออกมา แต่ใบหน้าของเขาแสดงให้เห็นถึงความสนใจ: "มีปัญหาเหรอ"

“เอ่อ ไม่มีปัญหา หึหึ ...ฉันแค่คิดว่าโซฟาของฉันเล็กไปหน่อย คุณนอนที่นี่อาจไม่สะดวกสบาย... คุณกลับไปก่อนก็ได้แล้วเสี่ยวเป่าฝากไว้กับฉัน พรุ่งนี้เช้าคุณค่อยมารับก็ได้ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะค้างที่นี่”

ฉันเป็นเพียงผู้หญิงโสดและอ่อนแอคนหนึ่ง ถ้ามีใครรู้ว่าฉันค้างคืนกับคนแปลกหน้า คงไม่มีใครอยากจะแต่งงานกับฉันแน่

จิ้นเฟิงเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ไม่ถึงขั้นไม่เป็นธรรมกับคุณมั้ง แต่ถ้าคุณเจียงยินดีที่จะแบ่งเตียงให้ผมครึ่งหนึ่ง ผมก็เต็มใจเช่นกัน"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!