ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 604

สรุปบท บทที่ 604 ลูกสาวของเขา: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

อ่านสรุป บทที่ 604 ลูกสาวของเขา จาก ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

บทที่ บทที่ 604 ลูกสาวของเขา คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เมียวเมียว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 604 ลูกสาวของเขา

มือของเจียงสื้อสื้อปักไปมาท่ามกลางอากาศอันว่างเปล่า จากนั้นเธอก็สะดุ้งตื่นลุกขึ้นมานั่งบนเตียง

เธอจึงได้รู้ว่าฝันไป

เธอหายใจหอบเหนื่อย ความรู้สึกในใจอันว่างเปล่านั้นแผ่คลุมไปทั่วร่างกาย

สายตาของเธอมองไปที่เพดานห้อง เธอยกแขนขึ้นปาดเหงื่อที่ซึมเป็นเม็ดเล็กๆบนหน้าผาก

เมื่อหันมามองพบว่าเถียนเถียนกำลังนอนหลับอยู่ ความลังเลเมื่อครู่จึงค่อยๆจางหายไปจากดวงตา

แสงอาทิตย์สาดส่องลงมายังผิวอันบอบบางของเถียนเถียน ปากน้อยๆของเธอกำลังดูดนิ้วหัวแม่มือของตัวเองอย่างเอร็ดอร่อย

ท่าทางของเธอช่างน่ารัก ขจัดความไม่สบายใจของเจียงสื้อสื้อเมื่อครู่ออกไปจนหมด

ใบหน้าของเจียงสื้อสื้อปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา จากนั้นดึงนิ้วหัวแม่มือออกจากปากของเถียนเถียน

ฟองน้ำลายที่พ่นออกมาแตกออกกลางอากาศ

เถียนเถียนขมวดคิ้วแล้วลืมตาขึ้นมองด้วยความสะลึมสะลือ นัยน์ตาของเธอเหมือนกับมีหมอกปกคลุม จ้องมองดูเจียงสื้อสื้อ

“เถียนเถียนตื่นเถอะ เราไปดูพี่ชายที่โรงพยาบาลกันดีไหม?”

เจียงสื้อสื้อพูดจบก็อุ้มเถียนเถียนขึ้นมา

“ดีค่ะ!”

เดิมทีแม่หนูน้อยที่อารมณ์ไม่ค่อยดีนักเมื่อได้ยินว่าจะไปหาพี่ชาย แววตาของเธอก็เปลี่ยนไปทันทีแล้วรีบถีบผ้าห่มออกกระโดดลงมาจากเตียงอย่างอดใจรอไม่ไหว

ระหว่างนั้นเจียงสื้อสื้อได้ลงไปต้มโจ๊ก แต่แม่หนูน้อยไม่อยากคอยเวลาอีกต่อไป เธอคอยเร่งให้รีบออกจากบ้านอยู่ตลอดเวลา

หลังจากที่หวีผมและมัดรวบขึ้นมาเป็นทรงหางม้าให้เธอแล้ว เจียงสื้อสื้อก็หยิบอาหารและพาเธอเดินออกจากประตูไป

เมื่อมาถึงโรงพยาบาลประตูห้องคนไข้ถูกเปิดออก เด็กหญิงตัวเล็กๆรีบพุ่งตรงเข้าไปด้านใน

เมื่อมองเห็นเสี่ยวเป่าที่นอนอยู่บนเตียง แววตาของเธอก็เป็นประกาย

“พี่คะ หนูมาแล้วคิดถึงหนูไหม?”

เธอตะโกนออกมาประโยคหนึ่งจากนั้นก็กระโดดเข้าไปด้านใน

เสียงนั้นทำให้สองพ่อลูกที่อยู่ในห้องตกใจ จิ้นเฟิงเฉินมองเห็นร่างเล็กร่างใหญ่เดินตรงเข้ามา

สายตาของเขากวาดมองไปที่สองคนนั้น ก่อนที่รูม่านตาของเขาจะขยายกว้างราวกับตกอยู่ในภวังค์

วันนี้ทั้งสองแม่ลูกมัดผมหางม้า ผมของเจียงสื้อสื้อที่ยาวปกคลุมบ่าถูกเก็บขึ้นเผยให้เห็นลำคออันเรียวขาวของเธอ

เมื่อแสงแดดตกกระทบมาทำให้ใบหน้าของเธอมองไปแล้วช่างงดงามมากขึ้น

ส่วนเด็กผู้หญิงตัวเล็กคนนั้น ที่มีลักษณะเหมือนกับเธอ ดวงตากลมโตและริมฝีปากเล็กๆสีเชอรี่ เมื่อยิ้มขึ้นทำให้ดวงตาของเธอเหมือนกับพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวช่างหวานมากจริงๆ

เพียงแต่ว่าความเจ้าเล่ห์ที่แฝงอยู่ในดวงตานั้นต่างจากเจียงสื้อสื้อโดยสิ้นเชิง

เด็กหญิงตัวน้อยปีนขึ้นมาบนเตียงและเอาแก้มชนกับใบหน้าของเสี่ยวเป่า

เมื่อเปรียบเทียบทั้งสองคนแล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็ประหลาดใจที่พบว่าเจ้าหนูน้อยคนนี้และเสี่ยวเป่ามีดวงตาและคิ้วที่เหมือนกับเขา

ความรู้สึกนี้กระทบกับหัวใจของเขา บางที......

เมื่อปีนขึ้นไปบนเตียง เจ้าหนูน้อยก็พบว่าเสี่ยวเป่าใส่สายน้ำเกลืออยู่

เมื่อนึกถึงตอนที่ตนเองเคยถูกใส่สายน้ำเกลือเมื่อก่อน ดวงตาของเธอก็แดงเรื่อแล้วทำท่าเป่าลมออกมาเพื่อไม่ให้เสี่ยวเป่าเจ็บปวด

“พี่คะ ถูกเข็มฉีดยาแทงเข้าไปมันเจ็บนะ เดี๋ยวเถียนเถียนเป่าให้จะได้ไม่เจ็บ”

“ขอบใจนะเถียนเถียน”

เมื่อเสี่ยวเป่าเห็นเจียงสื้อสื้อและเถียนเถียนเดินทางมาเยี่ยม ก็ดีใจเสียใจจนยิ้มไม่หุบ

“เถียนเถียนลงมาเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวจะไปทับสายน้ำเกลือของพี่เค้า”

เจียงสื้อสื้อวางกระติกน้ำร้อนลง จากนั้นหันไปพูดกับเจ้าหนูน้อย

เจ้าหนูน้อยคนนั้นพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง จากนั้นหันไปทางจิ้นเฟิงเฉินแล้วยื่นมือออกไปพูดว่า “แดดดี๊คะ อุ้มหน่อย”

รอยยิ้มของเธอ เต็มไปด้วยพลังอันชาญฉลาด

จิ้นเฟิงเฉินจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเด็กหญิงเป็นเวลานาน หัวใจของเขาเต้นรัว

เขาคำนวณเวลาดูแล้ว พบว่าตอนนั้นที่เจียงสื้อสื้อตั้งท้อง หากว่าเธอคลอดลูกออกมาก็น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเถียนเถียน!

เมื่อเขาคิดว่าเป็นดังนั้น จึงได้มองว่าเถียนเถียนเป็นลูกสาวของตัวเอง

ลำคอของเขาขยับเล็กน้อย เลือดทั่วร่างกายของจิ้นเฟิงเฉินกำลังสูบฉีด

ปลายนิ้วของเขาสั่นระริกและพยายามที่จะเก็บซ่อนความดีใจเอาไว้ เพื่อไม่ให้สองแม่ลูกตกใจ

“คุณจิ้นคะ!” เจียงสื้อสื้อสีหน้าเป็นกังวลแล้วมองไปที่จิ้นเฟิงเฉินด้วยสายตาเคร่งขรึม

“ก็แค่กระดุมสองเม็ดเอง ผมยังมีอีกเยอะ ถือว่าเป็นของขวัญให้กับเถียนเถียนแล้วกัน คุณอย่าคิดมากไป”

จิ้นเฟิงเฉินพยายามต่อสู้เพื่อเถียนเถียน

เมื่อเขาพูดเช่นนั้นเจียงสื้อสื้อก็ไม่รู้จะห้ามอย่างไร จึงได้ปล่อยไปตามที่เขาพูด

เธอเดินถือโจ๊กที่ตักมาแล้วป้อนเสี่ยวเป่า

ส่วนจิ้นเฟิงเฉินนั้นก็กอดเถียนเถียนและเล่นกับเธออยู่ข้างๆ โดยที่เขาไม่รู้สึกรำคาญแม้แต่น้อย

อีกทั้งยังใช้น้ำเสียงแบบเด็กๆพูดคุยกับเธอเป็นบางครั้ง

ภายในห้องผู้ป่วยนั้น แสงแดดที่ส่องเข้ามาด้วยความสงบ ราวกับกลัวว่าจะไปทำร้ายความอบอุ่นของห้องนี้

ทันใดนั้นแม่จิ้นก็กลับเข้ามา ในมือของเธอถือผลไม้อยู่

เมื่อเดินเข้ามามองเห็นเจียงสื้อสื้อและลูกสาวเธอก็ตกตะลึง

“เสี่ยวเป่าดูสิ ย่าซื้ออะไรมา อ้าว! สื้อสื้อกับเจ้าหนูน้อยนี่มาด้วยเหรอ!”

บนใบหน้าของเธอปรากฏรอยยิ้มอันใจดีออกมา

เจียงสื้อสื้อลุกขึ้นและทักทายกับแม่จิ้นว่า “สวัสดีค่ะคุณป้า”

“สวัสดีค่ะคุณย่า!”

เจ้าหนูน้อยที่อยู่บนตัวของจิ้นเฟิงเฉินเมื่อมองเห็นแม่จิ้นเดินเข้ามา เธอก็เรียกตามเสี่ยวเป่า

น้ำเสียงอันไร้เดียงสาและอ่อนโยนทำให้หัวใจของแม่จิ้นละลาย เธอมองดูเด็กน้อยคนนี้ด้วยความรัก

แม่จิ้นเดินตรงเข้าไปจับมือกับเจ้าหนูน้อยแล้วพูดว่า “ย่าจะไปหาผลไม้มาให้กิน เถียนเถียนชอบกินแอปเปิลหรือว่าอะไรดีคะ?”

“ชอบหมดเลยค่ะ!” เถียนเถียนยิ้มแล้วตอบ

“อืมงั้นก็ดี ย่าจะไปปอกมาให้เดี๋ยวนี้แหละ เอาเป็นผลไม้รวมมิตรแล้วกัน” แม่จิ้นพูดอย่างอ่อนโยน

เมื่อมองเห็นภาพตรงหน้านี้ เจียงสื้อสื้อก็ยิ้มออกมา

เธอรู้มาตลอดว่าพวกเขาทุกคนในตระกูลนี้ไม่มีใครคิดอะไรไม่ดีกับพวกเธอ ตรงกันข้ามพวกเขากลับเอาอกเอาใจทุกวิถีทาง ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความปลื้มปีติยินดี

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!