ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 610

สรุปบท บทที่ 610 นับแต่พรุ่งนี้จะไม่มีอีก: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

สรุปเนื้อหา บทที่ 610 นับแต่พรุ่งนี้จะไม่มีอีก – ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

บท บทที่ 610 นับแต่พรุ่งนี้จะไม่มีอีก ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ในหมวดนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เมียวเมียว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 610 นับแต่พรุ่งนี้จะไม่มีอีก

เจียงสื้อสื้อมาถึงบริษัทเธอก็ถูกผู้ช่วยลากตัวไป

ผู้ช่วยของเธอมองไปยังเจียงสื้อสื้ออย่างมีเลศนัยแล้วพูดว่า “พี่สื้อสื้อคะ วันนี้มีคนส่งช่อดอกไม้ช่อโตมาให้ด้วย ต้องเป็นคุณฝู้แน่ๆเลย!”

เมื่อพูดจบใบหน้าของผู้ช่วยก็ปรากฏความอิจฉาขึ้น

ใบหน้าของเจียงสื้อสื้อแสดงถึงความสงสัยออกมา

เนื่องจากเธอและฝู้จิงเหวินนั้นอยู่ในช่วงทำสงครามเย็นกันอยู่ เขาจะลดตัวลงมาอย่างนั้นเหรอ?

เห็นท่าทางอันลังเลของเจียงสื้อสื้อแล้วผู้ช่วยก็คิดว่าเธอกำลังตกใจ ถึงได้ยิ้มแล้วผลักข้าไปในห้องทำงาน

แล้วพูดด้วยรอยยิ้มอันคลุมเครือว่า “พี่สื้อสื้อรีบไปรับความรักจากสามีของพี่เถอะ!”

เป็นไปดังว่า เมื่อเดินเข้ามาในห้องทำงานเจียงสื้อสื้อก็ได้กลิ่นหอมของดอกไม้

เธอมองเห็นดอกกุหลาบสีแดงสดช่อโตวางอยู่บนโต๊ะทำงาน หยดน้ำยังคงเกาะอยู่บนกลีบกุหลาบ มองไปแล้วช่างน่าพิสมัย

เธอจ้องอยู่ที่กุหลาบช่อนั้นเนิ่นนานทีเดียว ในที่สุดสายตาของเจียงสื้อสื้อก็พบเข้ากับการ์ดใบเล็กๆ ท่ามกลางช่อดอกไม้

บนการ์ดนั้นพิมพ์ลวดลายสีทอง และเซ็นชื่อเพียงแค่คำว่า “จิ้น” คำเดียว

แม้ดอกไม้จะงดงามแต่เจียงสื้อสื้อก็ไม่กล้ารับเอาไว้

ตอนนี้เธอยังอยู่ในบ้านตระกูลฝู้ จะให้ทำเรื่องไม่ดีลับหลังพวกเขาได้อย่างไร?

แน่นอนว่าเธอต้องการค้นหาอดีตของเธอแต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเริ่มหามันจากจิ้นเฟิงเฉิน

เธอวางช่อดอกไม้เอาไว้ข้างๆ จากนั้นเริ่มต้นวันใหม่ในการทำงาน

เมื่อมองไปยังเอกสารในหน้าจอ เธอก็หายใจเข้าลึกๆแล้วเริ่มจัดการมันอย่างเป็นระเบียบ

เวลาผ่านไปทุกนาที กระทั่งถึงตอนเที่ยงโดยไม่ทันได้รู้ตัว

เจียงสื้อสื้อยังคงจมอยู่กับสัญญาและรายงานต่างๆ เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเธอจึงได้ผละออกจากเอกสารเหล่านั้น

เป็นสายของเถียนเถียน เจียงสื้อสื้อบิดขี้เกียจก่อนจะเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์

“หม่ามี๊ คุณย่ากับหนูใกล้จะถึงโรงกลั่นแล้ว รีบออกมาเร็วๆค่ะ”

น้ำเสียงอันอ่อนโยนของเถียนเถียนดังมาทางปลายสาย เจียงสื้อสื้อตกตะลึง แม่ฝู้พาเถียนเถียนมาที่นี่ทำไมกัน?

เธอยังไม่ทันจะลุกขึ้นประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออก

แม่ฝู้เดินถือกล่องอาหารกลางวันแล้วยิ้มให้ เถียนเถียนโผเข้าหาอ้อมอกของเจียงสื้อสื้อ

“เหอะๆ แม่รู้ว่าเรายังไม่ได้กินข้าวเช้า ก็เลยให้พ่อครัวต้มซุปเสริมคุณค่าทางโภชนาการมาให้ เพิ่งจะทำเสร็จใหม่ๆรีบกินเร็วเข้า”

แม่จิ้นพูดจบก็เปิดกล่องอาหารออก กลิ่นหอมของอาหารนั้นลอยออกมา

เสียงท้องร้องของเจียงสื้อสื้อดังขึ้นได้จังหวะพอดี เธอจึงได้พูดออกมาด้วยท่าทางเขินอายว่า

“แม่คะ รบกวนแม่เกินไปหรือเปล่า ที่จริงหนูกินข้าวเที่ยงที่นี่ก็ได้แล้ว”

เมื่อแม่ฝู้ได้ยินดังนั้นก็ทำท่าเป็นโกรธแล้วพูดว่า “จะลำบากอะไรกัน เธอเป็นลูกสะใภ้ของบ้านตระกูลฝู้นะ การที่แม่มาดูแลใส่ใจก็เป็นเรื่องสมควรแล้วไม่ใช่เหรอ?”

เรากับจิงเหวินน่ะเหมือนกันเลย ทำงานแล้วก็ไม่มีเวลามาใส่ใจเรื่องอาหารการกินและการพักผ่อน ถ้ารอให้หิวเสียก่อนเกรงว่าในโรงอาหารก็ไม่เหลืออาหารให้กินแล้วรีบกินเข้าเถอะตอนนี้ยังร้อนอยู่เลย”

เถียนเถียนที่ยืนอยู่ข้างๆก็เห็นด้วยจึงพูดขึ้นว่า “นั่นสิคะหม่ามี๊รีบกินข้าวเถอะค่ะ เถียนเถียนยืนคุมตอนที่ทำกับข้าวด้วยนะคะ รับรองว่าอร่อยแน่นอน”

เจียงสื้อสื้อเห็นดังนั้นก็ไม่ได้ปฏิเสธ เนื่องจากตอนนี้เธอก็เริ่มหิวแล้ว

เถียนเถียนมองไปรอบๆห้องทำงานด้วยความรู้สึกประหลาดใจ

แม่ฝู้เหลือบไปเห็นช่อดอกไม้ที่วางอยู่มุมห้อง เธอคิดว่าเป็นฝู้จิงเหวินส่งมาให้จึงได้ยิ้มอย่างภาคภูมิใจในที่สุดลูกชายของตนก็คิดได้สักที ได้ทำอะไรที่โรแมนติกแบบนี้

หลังจากที่เจียงสื้อสื้อกินอิ่มแล้วแม่จิ้นก็พาเถียนเถียนจากไป

เจียงสื้อสื้อกลับมายังห้องทำงานเพื่อจัดการงานของเธอต่อ

“พี่สื้อสื้อ สามีพี่นี่ดีกับพี่จริงๆเลยน่าอิจฉาที่สุด!”

เมื่อเจียงสื้อสื้อได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเขินเธอได้แต่ตอบรับแล้วรีบทำงานต่อไป

เดิมทีเธอคิดว่าจิ้นเฟิงเฉินจะหยุดการกระทำนี้ลงหลังจากผ่านไปไม่กี่วัน คิดไม่ถึงว่าเธอจะมองจิ้นเฟิงเฉินต่ำไป

ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมามีดอกไม้นานาชนิดปรากฏในห้องทำงานของเธอ อีกครั้งไม่ซ้ำชนิดกันเลย

คนในบริษัทรู้ว่าเธอเป็นลูกสะใภ้ของบ้านตระกูลฝู้ จึงเข้าใจว่าดอกไม้เหล่านี้ฝู้จิงเหวินเป็นคนส่งมอบมาให้ พวกเขาพากันอิจฉาเจียงสื้อสื้อ แต่สิ่งนี้ทำให้เจียงสื้อสื้อรู้สึกทำตัวไม่ถูก

ในวันนี้เจียงสื้อสื้อรีบจัดการกับเรื่องของในบริษัทให้เรียบร้อยจากนั้นเดินทางมายัง JSกรุ๊ป

พนักงานต้อนรับจำเธอได้ว่าเธอคือผู้หญิงที่กู้เนี่ยนส่งออกไปในวันนั้น จึงได้เดินเข้ามาต้อนรับด้วยท่าทางกระตือรือร้น

“สวัสดีค่ะ มาพบท่านประธานหรือเปล่าคะ?”

เจียงสื้อสื้อพยักหน้า พนักงานต้อนรับรีบต่อสายไปให้จิ้นเฟิงเฉิน

เมื่อจิ้นเฟิงเฉินได้ยินดังนั้นจึงได้ลงมาด้วยตัวเอง แล้วพาเธอขึ้นไปด้านบน

เมื่อเธอได้พบกับจิ้นเฟิงเฉิน เจียงสื้อสื้อก็พูดออกมาตรงๆว่า “คุณจิ้นคะ ในวันนี้ที่ฉันเดินทางมาหาคุณเพราะดิฉันหวังว่าคุณจะไม่ส่งดอกไม้ไปให้ฉันอีก ตอนนี้การกระทำของคุณส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของฉัน แล้วก็รบกวนฉันด้วย”

“ในเมื่อเป็นการทำให้คุณเดือดร้อน นับแต่วันพรุ่งนี้จะไม่มีอีกแล้วครับ”

จิ้นเฟิงเฉินตอบรับออกมาทันที ทำให้เจียงสื้อสื้อรู้สึกประหลาดใจ

เมื่อสิ้นเสียงลง ห้องทำงานของจิ้นเฟิงเฉินก็ถูกเปิดออก เสี่ยวเป่ากระโดดเข้ามาด้านใน

เมื่อเห็นว่าเจียงสื้อสื้อก็อยู่ด้วยทำให้เขาดีใจมาก รีบวิ่งเข้ามาจูงมือเจียงสื้อสื้อแล้วพูดด้วยท่าทางตื่นเต้นว่า

“หม่ามี๊มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ รอเสี่ยวเป่าอยู่ใช่ไหม?”

เจียงสื้อสื้อนำมือสัมผัสตรงปลาสเตอร์ยาอยู่ติดในมือของเสี่ยวเป่า เธอรู้สึกเจ็บปวดใจ

จากนั้นเธอก็ย่อตัวลงแล้วเช็ดเหงื่อบนใบหน้าของเสี่ยวเป่าก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยนว่า “พอดีมีธุระจะต้องปรึกษากับแดดดี๊นิดหน่อยครับ วันนี้เลิกเรียนเร็วเหรอครับ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!