สรุปเนื้อหา บทที่ 642 ป้าไม่ใช่หม่ามี๊ของหนู – ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว
บท บทที่ 642 ป้าไม่ใช่หม่ามี๊ของหนู ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ในหมวดนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เมียวเมียว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 642 ป้าไม่ใช่หม่ามี๊ของหนู
ไม่มีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ตามเธอมา
เจียงสื้อสื้อเดินโซเซไปหยุดอยู่ที่มุม เธอกุมหัวใจตัวเอง ก่อนจะทรุดตัวลงไปนั่งบนพื้นอย่างช้าๆ ราวกับว่าแรงกำลังหมดไป
เธอขดตัวอยู่ตรงมุมกำแพง โอบมือขวาที่กำลังชาของตัวเอง ก่อนที่น้ำตาหยดโตจะร่วงหล่นลงมา
ให้เป็นแบบนี้แหละ… …
แบบนี้เป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกคน
จิ้นเฟิงเฉินนั่งอยู่ในรถ มือขวาคีบบุหรี่
ขี้บุหรี่หล่นลงมากองโต แต่เขากลับนั่งนิ่งราวกับว่าไม่ได้สังเกตเห็นมัน
ดวงตาที่ล้ำลึกมองต่ำ เก็บกดความเจ็บปวดเอาไว้ลึกสุด
ความรู้สึกไร้พลังอย่างรุนแรงคว้าตัวเขาไว้
เขาจะทำอย่างไรให้เจียงสื้อสื้อกลับมาหา?
ใบหน้าเย็นชาทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ สีหน้าปรากฏร่องรอยความหงุดหงิดอยู่ลึกๆ
สื้อสื้อ เธอผ่านอะไรมา เธอกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง
จำเขาไม่ได้ ขับไสไล่ส่งเขา ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยขอบและมุม ราวกับตัวเม่น
ไม่กี่วันที่ผ่านมายังดีอยู่แท้ๆ เห็นได้ชัดว่าจู่ๆคุณเปลี่ยนไปมากขนาดไหน?
บรรยากาศในรถกดดัน จิ้นเฟิงเฉินเอามือก่ายหน้าผาก เขาพยายามหาเบาะแส
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเธอไปประสบกับอะไรมาในช่วงไม่กี่วันมานี้ แต่จิ้นเฟิงเฉินก็รู้ว่าเธอไม่มีความสุข
จากแววตาของเธอสามารถบอกได้ว่าเธอกำลังกลั้นอารมณ์ภายในใจของตัวเอง และร่างกายของเธอก็สั่นสะท้านหลายต่อหลายครั้ง
แม้ว่าเธอจะพยายามที่จะแสร้งทำว่าเป็นว่าไม่เป็นอะไร แต่จิ้นเฟิงเฉินรู้จักเธอดี
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาด้วยกันเขาจำทุกอย่างเกี่ยวกับเธอได้อย่างลึกซึ้ง
ในช่วงไม่กี่ปีนี้ที่ยิ่งคิดกลับไปมา
เจียงสื้อสื้อและฝู้จินเหวินไม่ควรมีความรู้สึกต่อกัน บางทีอาจจะไม่ได้แต่งงานกับเขา
คำพูดเหล่านั้น เพื่อที่จะผลักเขาให้ไกลออกไป
ราวกับว่า ... อย่างสุดความสามารถ
เธอไม่ได้สมัครใจ จิ้นเฟิงเฉินแน่ใจ
ถ้าหากสื้อสื้อพูดออกมา เขาจะพาเธอไปโดยไม่ลังเล และจะรักเธอไปตลอดชีวิต
อย่างไรก็ตามตอนนี้มันใช้ไม่ได้แล้วเขาไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าคนแปลกหน้าสำหรับเธอ
แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว เขากับเธอ ก็แค่เป็นคนแปลกหน้าต่อกัน
จิ้นเฟิงเฉินเม้มปากอย่างเย้ยหยัน ดวงตามืดสนิท
...
ในห้องเก็บเหล้าใต้ดิน จิ้นเฟิงเฉินเมามาก รอบตัวเขารายล้อมไปด้วยขวดเหล้าเปล่า
เมื่อก่อนดื่มเพื่อเข้าสังคมเขาแทบจะไม่แตะ หลังจากที่เจียงสื้อสื้อจากไปเขาเกือบจะกลายเป็นคนขี้เหล้า
เหล้าเป็นสิ่งที่ดี มันสามารถทำให้หัวใจของคนชาไปชั่วขณะ
ปล่อยให้เขามีโอกาสได้หายใจชั่วคราว เพื่อที่เขาจะได้ไม่ตายเพราะคิดมากเกินไป
แต่ดูเหมือนว่าแอลกอฮอล์จะใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
คล้ายกับว่าจิ้นเฟิงเฉินจะเห็นเจียงสื้อสื้อเดินมาทางเขา ใบหน้างดงามคล้ายกับว่าไม่พอใจ
“นี่คุณดื่มอีกแล้ว”
“ต้องให้เมาใช่ไหม คุณถึงจะยอมคุยกับผม”
จิ้นเฟิงเฉินมองไปยังใบหน้าของเจียงสื้อสื้ออย่างลุ่มหลง ไม่อาจจะถอนสายตา
เจียงสื้อสื้อคล้ายกับจะเขินอายเล็กน้อย ก่อนพูดอย่างโหดร้าย “ยังไงเสียคุณก็ห้ามดื่มเหล้าอีก ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่สนใจคุณอีกต่อไปแล้ว”
“ไม่เอา!” จิ้นเฟิงเฉินยืนขึ้นอย่างหุนหันพลันแล่น ก่อนจะเอื้อมมือไปจับเจียงสื้อสื้ออย่างรีบร้อนราวกับว่ากลัวจะเสียเธอไป
มือที่ยื่นออกไปคว้าได้แค่ความว่างเปล่า ใบหน้าของสื้อสื้อเหมือนน้ำที่กระจายหายไป
จิ้นเฟิงเฉินขยี้ตา ยืนอยู่ที่เดิมอย่างตกตะลึง
ร่างกายสั่นไหว ร่างสูงใหญ่กระแทกขวดเหล้าลงกับพื้น เศษแก้วกระเด็นไปทั่ว
เมื่อเห็นพยาบาลสองสามคนรายล้อมอยู่รอบๆ เด็กที่งดงาม เธอก็มองแล้วมองอีก
มองครั้งนี้ เธอจำเสี่ยวเป่าได้
เจียงสื้อสื้อกังวลว่าจะเป็นเสี่ยวเป่าเองที่ป่วยและไม่มีผู้ใหญ่มาเป็นเพื่อนด้วย
เธอกังวลมาก ก่อนจะเดินไปถาม “เสี่ยวเป่า ทำไมมาอยู่ที่นี่ละจ้ะ?”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ เสี่ยวเป่าราวกับได้ยินเสียงสวรรค์ เขาเงยหน้าทันที ดวงตาเป็นประกาย
“หม่ามี๊!”
เมื่อพยาบาลเห็นคนในครอบครัวแล้ว ต่างก็แยกย้ายกันออกไป
เจียงสื้อสื้อมองเสี่ยวเป่าอย่างละเอียด ก่อนถามอย่างวิตกกังวล“มีตรงไหนไม่สบายหรือเสี่ยวเป่า?”
เสี่ยวเป่าอ้ำอึ้ง ถ้าเขาบอกว่าสบายดี หม่ามี๊จะเลี่ยนสีหน้าไหม?
ท้ายที่สุด เสี่ยวเป่าก็รู้อย่างชัดเจนแล้ว หม่ามี๊ที่กลับมาใหม่ในครั้งนี้ ไม่เหมือนกับครั้งก่อน
แต่เธอยังคงมีความห่วงใยตัวเขา ซึ่งทำให้ใจของเสี่ยวเป่ามีความสุขมาก
“หม่ามี๊ หนูสบายดี หนูมาหาหม่ามี๊”ดวงตาของเสี่ยวเป่าเต็มไปด้วยความรักและอาลัยอาวรณ์
เมื่อได้ยิน มือของเจียงสื้อสื้อที่อังอยู่บนหน้าผากของเสี่ยวเป่าค่อยๆถอนออก สีหน้าสับสนวุ่นวาย
“หนูมาหาฉันทำไม ที่บ้านเกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
เสี่ยวเป่าส่ายหัวด้วยความรู้สึกหดหู่ใจ
มือเล็กๆ ยังคงดึงแขนเสื้อของเจียงสื้อสื้อ ก่อนพูดเสียงเบา “หม่ามี๊ อย่าไปเป็นหม่ามี๊ของใครได้หรือเปล่า?”
เจียงสื้อสื้อตะลึง
ใช่ จิ้นเฟิงเฉินให้เขามาที่นี่แน่ ทำไมเขาถึงใช้เด็กตัวแค่นี้มา?
เจียงสื้อสื้อรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที
แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีอารมณ์ที่เข้มข้นแผ่ขยายเข้ามา นั้นก็คือไร้เรี่ยวแรงและเศร้าใจ
แต่ในเมื่อได้ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องอยู่ให้ห่างจากชีวิตของพวกเขาสองพ่อลูก เธอก็ต้องตัดให้ขาด
เธอหลับตาลง ก่อนจะพูดอย่างไร้ความรู้สึกเมื่อลืมตาขึ้นมา “เสี่ยวเป่า ป้าไม่ใช่หม่ามี๊ของหนู ภายหลังหนูจะมีหม่ามี๊ของตัวเองจ้ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!