ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 663

บทที่ 663 เธอคือแม่ๆแท้ๆของเสี่ยวเป่า

ที่จริงฝู้จิงเหวินก็ไม่ได้โทษเธอ เขาพอใจเข้าใจความรู้สึกของเจียงสื้อสื้อได้

ที่เอาความตั้งใจทั้งหมดไว้ที่เสี่ยวเป่า เป็นเรื่องปกติ

“ไม่เป็นไร ที่จริงฉันไม่ถือสา แต่ว่าเธอไปเยี่ยมคุณแม่บ้างก็ได้”

เจียงสื้อสื้อตอบด้วยความรู้สึกขอบคุณ “ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

หลังจากนั้น เจียงสื้อสื้อก็ไปเทน้ำมาให้เสี่ยวเป่า

ครอบครัวจิ้นก็มาที่โรงพยาบาลพอดีในตอนนั้น

เด็กบนเตียงพ้นจากขีดอันตรายแล้ว แต่ร่างกายยังอ่อนแอมาก

ใบหน้าซีดขาวของเสี่ยวเป่า ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกสงสารเป็นอย่างมาก

นอกห้องผู้ป่วย พยาบาลที่ดูแลเรื่องยาของเสี่ยวเป่าผ่านมาพอดี จึงเรียกขึ้น

“คุณคะ…”

สายตาของเขามองไปบนถาดที่มียามากมาย จิ้นเฟิงเฉินสงสัย จึงถามขึ้น “เปลี่ยนยาให้เสี่ยวเป่าเหรอ?”

“ใช่ค่ะ” พยาบาลตอบตามความจริง

จิ้นเฟิงเฉินยกมือขึ้นนวดหัว จึงพูดสั่ง “เสี่ยวเป่าหลับแล้ว ระวังหน่อย อย่าทำให้เขาตื่น”

พยาบาลพยักหน้า ค่อยๆเปิดประตูเข้าไปเปลี่ยนยา

ที่โถงทางเดินที่เงียบสงัด จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกมีสติมาก เขายกมือขึ้นปลดกระดุมเสื้อเชิ์ต เผยให้เห็นเนินไหปลาร้า

ได้หายใจออกมาดังๆ จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกสบายขึ้นเล็กน้อย

เขากังวลว่าเสี่ยวเป่าจะมีผลกระทบจิตใจตามมาหลังจากเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นหลังจากที่เขาทักทายพ่อแม่ แล้วจึงไปปรึกษาหมอผู้ดูแลไข้

จิ้นเฟิงเหราที่นั่งเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆแม่จิ้นเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น จึงรีบพูดขึ้น “เดี๋ยวก่อน ฉันไปเป็นเพื่อนด้วย”

ชายหนุ่มร่างสูงยืนที่หน้าห้องผู้ป่วยอยู่นั้น หุ่นของเขาราวกับนายแบบหน้าปกนิตยสาร

หลังจากพบหมอผู้ดูแลไข้ จิ้นเฟิงเฉินจึงถามออกไปตรงๆ “คุณหมอครับ ผมอยากจะถามอาการของคนไข้ห้อง 603 หน่อยครับ”

คุณหมอค่อนข้างจำเสี่ยวเป่าได้ จึงค้นหาประวัติเสี่ยวเป่าที่อยู่บนโต๊ะ

“เด็กส่งเข้ามาค่อนข้างฉุกเฉิน หลังจากผ่าตัด มีการฟื้นฟูได้ดี ถ้าไม่มีปัญหาอะไรหลังจากนี้ไม่กี่วัน ก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้”

คุณหมอพูดพลางยื่นประวัติการรักษาให้จิ้นเฟิงเฉิน จากนั้นพูดถึงเรื่องที่ควรระวัง รวมถึงอาหารการกินในช่วงฟื้นฟูแผล

จิ้นเฟิงเฉินภายนอกดูสีหน้าเรียบเฉย แต่ในใจจดจำทุกคำไม่ขาด

จิ้นเฟิงเหราพูดแทรกขึ้นมา “คุณหมอครับ หลังจากที่เสี่ยวเป่าฟื้นขึ้นมาก็อาการไม่ค่อยดี จะสร้างบาดแผลอะไรในใจเขาไหมครับ?”

คุณหมอถอนหายใจ พลางกระดกแว่นขึ้น

“อันนี้ก็พูดยาก เพราะปกติเด็กที่ประสบแผ่นดินไหว อุบัติเหตุอะไรแบบนี้ ก็จะมีผลกระทบอยู่เหมือนกัน”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสี่ยวเป่าพลันร้อนรนขึ้นมา จึงรีบถามต่อ “แล้วจะทำอย่างไรดีครับ?”

จิ้นเฟิงเฉินมองที่หมอผู้ดูแลไข้ ด้วยแววตาร้อนรน

“พวกคุณเฝ้าสังเกตการณ์อาการของผู้ป่วยก่อนก็ได้ครับ ถ้าหากอาการดี ไม่กี่เดือนก็หายขาดครับ ถ้าอาการไม่ดี อาจจะมีปัญหาทางจิตใจ ผมคำนึงถึงอายุของผู้ป่วย ผมแนะนำให้ปรึกษาคุณหมอจิตแพทย์ครับ”

จากนั้นหมอก็เล่าตัวอย่างของคนที่ฆ่าตัวตาย เนื่องจากไม่อาจหลุดจากเหตุการณ์สะเทือนใจได้ จิ้นเฟิงหราตกใจเสียจนแทบจะหาหมอจิตแพทย์ให้เสี่ยวเป่าซักสิบคน

จิ้นเฟิงเฉินยังคงมีสีหน้านิ่งเฉย แต่ในแววตาของเขานั้นทอประกายที่ยากจะคาดเดาหลายต่อหลายครั้ง

เขาตัดสินใจเลือกคุณหมอจิตแพทย์ให้เสี่ยวเป่าแล้ว

จากนั้นคุณหมอก็คุยเรื่องอาการของเสี่ยวเป่ากับสองพี่น้องจิ้นอีก

สุดท้าย คุณหมอพูดด้วยความรู้สึกใจชื้นว่า “ตอนนั้นเหตุการณ์เร่งรีบ ยังดีที่ได้เลือดของแม่เด็กช่วยไว้ทัน ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะทนไม่ไหวว่า”

แต่ว่าจิ้นเฟิงเฉินและจิ้นเฟิงเหราในตอนนั้น กำลังตั้งใจศึกษาอาการของเสี่ยวเป่าอยู่ จึงไม่ได้เอะใจในคำพูดของคุณหมอ

แต่ว่าส้งหวั่นชีงที่นั่งข้างๆพวกเขาทั้งสองนั้นเหมือนกับสังเกตอะไรบางอย่างได้ ในแววตาเต็มไปด้วยความสงสัย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!