ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 664

บทที่ 664 ตรวจดีเอ็นเอ

เจียงสื้อสื้อคือแม่แท้ๆของเสี่ยวเป่า

ทั้งสามคนที่อยู่ในเหตุการณ์สมองขาวโพลน ไร้ซึ่งสติที่จะไปครุ่นคิด

ส้งหวั่นชีงก็ตกใจมากเช่นกัน แต่เธอยังพอมีสติอยู่บ้าง

มองดูสองพี่น้อง คิดว่าทั้งสองคงงงตาแตกกันไปแล้ว จึงพึ่งตัวเองดีกว่า

ดังนั้นจึงพยายามสะกดเสียงอันสั่นเครือของตัวเอง ถามคุณหมอ “คุณหมอคะ แน่ใจหรอคะ?”

“การตัดสินในขั้นแรกถือว่าเป็นแบบนี้ ถ้าหากพวกคุณไม่สบายใจ สามารถตรวจดีเอ็นเอได้”

คุณหมอออกความเห็น มองดูพวกเขา คุณหมอก็ไม่สบายใจ

ที่แท้พวกเขาไม่มีใครรู้เลย

แต่ผู้หญิงคนนั้นก็เฝ้าอยู่ข้างเด็กตลอด ถ้าไม่ใช่แม่จะทำได้ขนาดนั้นเลยเหรอ

นี่ก็แปลกเกินไปแล้ว ต่อให้คุณหมอผ่านเรื่องราวมามากขนาดไหน ก็รู้สึกแปลกใจ

“ค่ะ ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ”

ส้งหวั่นชีงรีบกล่าวขอบคุณ จากนั้นผลักจิ้นเฟิงเหราหนึ่งที พวกเขาทั้งสามพากันออกมาจากห้องทำงานคุณหมอ

จิ้นเฟิงเฉินเดินออกมาข้างนอกเหมือนกับหุ่นยนต์ เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังทำอะไร

ในสมองมีเพียงคำเดียว พวกเขาเป็นแม่ลูกกัน พวกเขาเป็นแม่ลูกกัน!

ถ้าหากตอนนี้บอกเขา ว่าบริษัททำกำไรได้ร้อยล้าน เขาก็ยังไม่มีท่าทีตกใจขนาดนี้!

เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เจียงสื้อสื้อจะเป็นแม่แท้ๆของเสี่ยวเป่า

แต่ที่น่าแปลกใจคือ เสี่ยวเป่าชอบเจียงสื้อสื้อมาโดยตลอด

เจียงสื้อสื้อก็ดูแลเขาราวกับลูกชายแท้ๆ เขายังคิดว่ามันคือพรหมลิขิต

แต่ว่า แต่ว่า…

จิ้นเฟิงเฉินไม่กล้าจะคิดต่อ

ไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น ทั้งสามคนเอาแต่เงียบ

จิ้นเฟิงเหราที่ตกใจนั้น ตอนนี้ก็สงบลงมาแล้ว

เขากลืนน้ำลายแล้วมองไปทางพี่ชายตนเอง อืม พี่ขายของเขายังงงอยู่ ถึงแม้ว่าสีหน้าจะดูเรียบเฉย แต่นัยน์ตาว่างเปล่า

สภาพแบบนี้หาดูได้ยากมาก ถ้าหากไม่ใช่ว่าจิ้นเฟิงเหรากำลังคิดเรื่องอื่นอยู่ เขาอยากจะยกมือถือขึ้นมาถ่ายสภาพพี่ชายเขาตอนนี้จริงๆ

แล้วรอถึงตอนที่พี่เขามาบังคับข่มขู่เขา เขาก็จะเอารูปนี้ให้ดู เสียดาย ที่ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์ทำเช่นนั้น

“พี่” จิ้นเฟิงเหราเรียก

จิ้นเฟิงเฉินมองกลับหาเขาในสองวินาที จิ้นเฟิงเหราก็รู้สึกตกใจ เขาคงจะตกใจจนไม่มีสติแล้วจริงๆ แม้กระทั่งปฏิกิริยาตอบรับก็ช้าลง

เขาดึงสติ แล้วลากแขนพี่ชายตัวเองมาถาม “พี่คิดยังไงกับที่คุณหมอพูด?”

จิ้นเฟิงเฉินเงียบ แล้วค่อยๆส่ายหัว

ส่ายหัวแปลว่าอะไร?

จิ้นเฟิงเหรามองไปทางส้งหวั่นชีงด้วยความสงสัย ส้งหวั่นชีงกระแอม แล้วพูดเสริม “อย่ามัวแต่ถามเรื่องไร้สาระพวกนี้เลย นายอยากพูดอะไรกันแน่?”

“ผมจำได้ ว่าตอนนั้น พี่สะใภ้ก็คลอดลูกออกมาเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”

ถึงแม้ว่าจิ้นเฟิงเหราจะใช้เป็นประโยคคำถาม แต่นั้นมีความมั่นใจมาก

หลังจากที่จิ้นเฟิงเฉินและเจียงสื้อสื้อคบกัน เหมือนเคยเช็คประวัติของเธอ ไม่ใช่ข้อมูลลับอะไรในบ้านจิ้น

จากนั้นเงยหน้าขึ้นมา เป็นเชิงถามเขาว่า ต้องการจะพูดอะไร

จิ้นเฟิงเหรานวดขมับ

จบแล้ว พี่ชายเขาตอนนี้ไม่มีสติแล้ว

ตอนนี้ในหัวของจิ้นเฟิงเฉินสับสนไปหมด ไม่อาจจะไปไตร่ตรองเรื่องอะไรได้

ส้งหวั่นชีงก็ไม่ค่อยได้รู้เรื่องในตอนนั้น จิ้นเฟิงเหราจึงต้องทำความเข้าใจเสียเอง

“ปีที่พี่สะใภ้คลอดเด็กออกมา ก็คือปีเดียวกับที่เสี่ยวเป่าเกิด ถ้าหากเด็กคนนั้น… อืม อายุเท่ากับเสี่ยวเป่า”

ส้งหวั่นชีงพูดขึ้นด้วยความสงสัย “อันนี้คงจะหมายถึงอะไรไม่ได้ ทุกโรงพยาบาลในแต่ละวันมีเด็กแรกเกิดมากมาย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!