ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 693

สรุปบท บทที่693 เจ็บจนอยากตาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

บทที่693 เจ็บจนอยากตาย – ตอนที่ต้องอ่านของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

ตอนนี้ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่693 เจ็บจนอยากตาย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่693 เจ็บจนอยากตาย

จิ้นเฟิงเฉินมองดูโทรศัพท์ที่โดนตัดสายทิ้งแล้วโทรกลับไปก็โดนบล็อกไปแล้ว อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสับสน

ที่ฝู้จิงเหวินพูดออกมาว่างานแต่งต้องหยุดลงและยังมีสื้อสื้ออีก เรื่องพวกนี้หมายความว่ายังไง?

หรือว่าจะบอกว่าเกิดเรื่องกับสื้อสื้อ?

เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่สามารถจะยืนดูอย่างนิ่งดูดาย

เขากดโทรออกไปหมายเลขหนึ่งทันทีละพูดขึ้น “กู้เนี่ยน จองตั๋วกลับฝรั่งเศสให้ฉันที ยิ่งเร็วยิ่งดี”

ถึงแม้กู้เนี่ยนจะไม่เข้าใจในการกระทำนี้ของจิ้นเฟิงเฉิน แต่ก็ยังรับคำ “ครับ ท่านประธาน”

ในใจอดไม่ได้ที่จะเกิดข้อสงสัย ท่านประธานเพิ่งจะกลับมาไม่ใช่เหรอ?

แต่เจ้านายจะทำอะไรคนเป็นลูกน้องอย่างพวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์จะไปหักล้างอยู่แล้ว

หลังจากวางสายโทรศัพท์ จิ้นเฟิงเฉินหยิบแจ็คเก็ตที่พนักพิงและออกเดินทางไปฝรั่งเศสโดยเร็วที่สุด

เขารีบออกไปสนามบินและเห็นกู้เนี่ยนยืนรออยู่ไม่ไกล

เขาขึ้นไปนั่งบนรถ และกู้เนี่ยนตามขึ้นรถไป

บนรถ จิ้นเฟิงเฉินยังคงคิดถึงเรื่องที่ฝู้จิงเหวินพูดเกี่ยวกับเรื่องของสื้อสื้อ

ถึงแม้จะไม่ได้แสดงออกมากมาย แต่ลางสังหรณ์บอกเขาว่าสื้อสื้อมีเรื่องแล้ว

“ตระกูลฝู้เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

กู้เนี่ยนตกตะลึง หรือว่าท่านประธานจะยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรกับตระกูลฝู้?

“ในวันงานแต่งงาน คุณนายหายไปครับ ดังนั้นตระกูลจึงต้องหยุดงานแต่งงานไว้”

เดิมทีเขาคิดว่าท่านประธานรู้เรื่องนี้แล้วจึงได้รีบกลับมาจึงไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเขาตั้งแต่ตอนคุยโทรศัพท์

แต่ตัวเขาอยู่ในประเทศ เขาเพิ่งจะรู้ว่าเกิดเรื่องกับสื้อสื้อ แล้วเขาจะไปลักพาตัวเธอได้ยังไงล่ะ?

เช่นนั้นใครกันเป็นคนลักพาตัวสื้อสื้อไป?

ตอนนี้สื้อสื้อเป็นอันตรายหรือเปล่า?

แม้ว่าจะกระวนกระวายใจเปหมือนเสือติดจั่น แต่จิ้นเฟิงเฉินก็ต้องบังคับตัวเองให้สงบลง

ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็มีแผนการเบื้องต้น เขาพูด“เรียกป๋ายหลี่กับจื่อเฟิงมา!”

หลังจากนั้นรถก็วิ่งไปที่บริษัท

ป๋ายหลี่กำลังรออยู่ที่หน้าห้องทำงาน ในตอนที่ได้เห็นใบหน้าของจิ้นเฟิงเฉินที่ตื่นตระหนกนั้นก็มีความแปลกๆ ในใจ

เขาโยนเสื้อแจ็คเก็ตลงบนที่นั่ง จิ้นเฟิงเฉินออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นายกับจื่อเฟิงรีบไปตรวจดูเรื่องวันงานแต่ง กล้องวงจรปิดบริเวณใกล้ๆ โรงแรม พยายามทำทุกวิถีทาง จะต้องหาให้ได้ว่าใครเป็นคนทำ!”

เพราะความขัดแย้งกับจื่อเฟิง ป๋ายหลี่คิดจะปฏิเสธงานนี้ในตอนแรก แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องแบบนี้

หลังจากออกมาแล้ว เขาก็โทรหาจื่อเฟิง

ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีใครรับสายอยู่ตลอด ในใจป๋ายหลี่อดที่จะมีลางสังหรณ์ที่เลวร้ายไม่ได้

ตอนนี้เมื่อเชื่อมโยงเรื่องที่เจียงสื้อสื้อถูกลักพาตัวกับเวลาที่จื่อเฟิงถูกลักพาตัวไปมันดูช่างบังเอิญเสียจริง?

หวังจริงๆ ว่าเธอจะไม่ทำผิดซ้ำผิดซาก

ป๋ายหลี่ถือโทรศัพท์ไว้แน่นและลังเลก่อนที่จะเคาะประตูห้องทำงาน

“คุณชายครับ ผมติดต่อจื่อเฟิงไม่ได้”

ป๋ายหลี่ไม่กล้าที่จะพูดสิ่งที่ตัวเองเดาไว้ออกมา ไม่อย่างนั้นเขากลัวว่าจิ้นเฟิงเฉินจะโกรธจนโยนความโกรธไปที่เธอ

ในตอนนี้ในหัวของจิ้นเฟิงเฉินมีแต่เรื่องที่เจียงสื้อสื้อถูกลักพาตัว ไม่มีเวลาจะไปใส่ใจเรื่องอื่น และไม่ได้สนใจเรื่องที่จื่อเฟิงหายตัวไปนัก

“นายไปตรวจสอบก่อน เรื่องของจื่อเฟิงค่อยคุยกันทีหลัง สรุปแล้ว จะต้องพยายามหาสื้อสื้อให้เจอ และจะให้เธอได้รับอันตรายไม่ได้แม้แต่น้อย!”

ป๋ายหลี่พยักหน้า และมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาก “ครับ คุณชาย!”

นี่เป็นเรื่องของชีวิตคนซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ ด้วยความบ้าคลั่งจื่อเฟิง เขาไม่รู้จริงๆ ว่าเธอจะทำอะไรได้บ้าง

จิ้นเฟิงเฉินเงียบไปหลายวินาทีแล้วกดโทรสายภายในและออกคำสั่ง “ตอนนี้ไปบ้านตระกูลฝู้ ไปดูสถานการณ์หน่อย”

“ครับ”

เวลานี้ ในอีกด้าน

ในโรงงานเคมีที่มืดมิดแห่งหนึ่ง เจียงสื้อสื้อนอนอยู่ที่พื้นดูรกร้างเล็กน้อย

เจียงสื้อสื้อได้สติกลับมาช้าๆ เปลือกตาเธอขยับไปมา

แสงส่องผ่านช่องว่างเข้าไปในโรงงานที่ทรุดโทรมและเธอไม่สามารถปรับตัวได้ จึงลืมตาขึ้นเล็กน้อย

สิ่งที่เห็นคือสภาพแวดล้อมที่ทรุดโทรมและยุ่งเหยิงมีส่วนประกอบของเครื่องจักร ฝุ่นและขยะอยู่ทุกหนทุกแห่ง

นอกจากนี้ยังมีผู้หญิงนั่งยองๆ อยู่ด้านข้างๆ

จื่อเฟิงปรายตามองหน้าที่ซีดขาวของเจียงสื้อสื้อและหัวเราะประชดประชัน

เล่นกับกริชในมือของเธอและพูดจาเหน็บแนม “เป็นไง? คุณหนูเจียง? ตื่นแล้วเหรอ?”

เจียงสื้อสื้อมีอาการเจ็บไหล่และปวดหัว

เมื่อพยายามปรับอิริยาบถ แต่ก็พบว่าถูกกักขังไม่สามารถขยับได้

“เรื่องมันชัดและง่ายแบบนี้ ยังจะต้องถามอีกเหรอ?”

เจียงสื้อสื้อรู้สึกแค่เพียงว่าจื่อเฟิงในตอนนี้บ้าคลั่งมาก จึงเตือนเธอ“ทำแบบนี้ผิดกฎหมายนะ เธอก็น่าจะรู้”

พูดแล้วจื่อเฟิงหัวเราะประชดประชัน “แล้วยังไง? ต่อให้ฉันโดนโทษประหารแต่ก่อนหน้านั้นฉันจะต้องทำให้เธอเจ็บปวดจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ ขอเพียงให้เธอแย่ ฉันก็ตื่นเต้นแล้ว”

พูดไปแล้วสายตาของจื่อเฟิงก็เต็มไปด้วยความกระหายเลือด

ดูแล้วป่าเถื่อนสุดๆ

อย่างไรเสียเจียงสื้อสื้อไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมจื่อเฟิงจะต้องลักพาตัวเธอด้วย

เธอพูดความสงสัยในใจออกมาและถาม “คุณคือใครกันแน่? คุณทำแบบนี้ทำไม?”

แต่จื่อเฟิงเหมือนกับจะไม่ได้ยินสิ่งที่เจียงสื้อสื้อพูดเลย เธอหันไปจ้องเจียงสื้อสื้อตาเขม็ง

ในดวงตาของจื่อเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เธอแทบจะไม่สามารถรอให้เจียงสื้อสื้อหายไปจากโลกนี้ในทันทีได้เลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!