ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 707

สรุปบท บทที่ 707 คุณทำให้ผมผิดหวังมาก: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

อ่านสรุป บทที่ 707 คุณทำให้ผมผิดหวังมาก จาก ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

บทที่ บทที่ 707 คุณทำให้ผมผิดหวังมาก คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เมียวเมียว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 707 คุณทำให้ผมผิดหวังมาก

บนน้ำกระจายเป็นระลอกคลื่นวงๆต่อเนื่องไป คนหายไปในพริบตาเดียว

เห้อซูหานขึงลับใบหน้าอยู่ ก็กระโดดตามลงไปในทะเลเช่นกัน

ค้นหาไปสักพัก ไม่ได้เจออะไร สุดท้ายจำเป็นต้องออกจากทะเล

ในเวลานี้อิ้งเทียนจัดการบอดี้การ์ดทั้งสองนั้นไปแล้ว กำลังร้อนใจจ้องมองทะเลฝั่งโน้น

เห็นเห้อซูหานออกมา รีบพูดว่า “คนล่ะ ทำไมลงไปในทะเลแล้วล่ะ?”

สีหน้าเห้อซูหานย่ำแย่จนน่ากลัว

“เธอกระโดดเข้าไปในทะเลแล้ว แต่ว่าผมทำร้ายขาข้างหนึ่งของเธอน่าจะหนีไปไม่ไกลจึงจะถูก”

อิ้งเทียนได้ยินคำพูดงงงวยเต็มใบหน้า มีความไม่ค่อยเข้าใจเล็กน้อย “งั้นคนล่ะ?”

เห้อซูหานจ้องมองเขาหนึ่งที อารมณ์ไม่ดีพูดว่า “หาไม่เจอ”

แต่ว่าเขากลับไม่เชื่อว่าจื่อเฟิงจะหายตัวไปกลางอากาศ

จื่อเฟิงต่อสู้กับเขานานขนาดนั้น แรงกายสูญสิ้นไปหมดนานแล้ว

ขายังถูกตัดเอ็นเท้าด้วย อีกทั้งเห้อซูหานแทงเข้าไปในเส้นเลือดใหญ่อีก จะไม่มีแรงกายที่จะว่ายไปได้ไกลขนาดไหนอย่างแน่นอน

“งั้นก็ไปหาดูอีกสักหน่อย”

พูดจบ คนทั้งสองกระโดดลงไปในน้ำ

ครั้งนี้พวกเขาลงไปในน้ำหาอีกนานมาก แต่แม้แต่เงาคนล้วนไม่เจอ

ตอนที่ทั้งสองคนขึ้นมาจากใต้น้ำมีความกลุ้มใจเล็กน้อย หรือว่าจื่อเฟิงมีวิชาเคลื่อนที่ได้จริงๆ?

น้ำทะเลนี้ยังมีรอยเลือดของเธออยู่ จะไม่มีได้ยังไงหรือ?

ทั้งสองคนเปียกชุ่มโชกทั้งตัว ทั้งตัวล้วนเป็นกลิ่นเค็มของน้ำทะเล

อิ้งเทียนกลุ้มใจพูดว่า “งั้นตอนนี้จะทำยังไงดีล่ะ? ถ้าคุณชายรู้ว่าจื่อเฟิงหนีไปจากมือของพวกเราละก็ จะต้องโมโหมากอย่างแน่นอน ผมไม่อยากที่จะหาประสบการณ์กับคุณชายที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟล่ะ”

“ไม่บอกกับคุณชายยังจะทำยังไงดีล่ะ หรือว่าคุณจะมาแบกรับผลลัพธ์ล่ะ?”

ไม่ไปสนใจอิ้งเทียนที่ร้องเสียงดังอยู่ข้างหลังอีก เห้อซูหานหมุนตัวออกไปโดยตรง

ในทะเลในเวลานี้ จื่อเฟิงถูกคนพาไปอย่างไร้กลิ่นไร้เสียง

คนที่อยู่ภายใต้เบอร์เกนได้รับการฝึกฝนที่เป็นมืออาชีพมาก่อน จัดการเรื่องรวดเร็วเหลือเกิน

หลังจากให้หมอทำการรักษาอย่างฉุกเฉินส่งไปยังต่อหน้าเบอร์เกน

ผ่านการวิ่งลากเมื่อกี้ เบอร์เกนกลับไปถึงคอนโดบนฝั่งแล้ว

เหลือบมองจื่อเฟิงหนึ่งที ผมของเธอเปียกชุ่มโชก สีหน้าเขียวม่วง

ทำให้คนได้ใส่ใจเป็นพิเศษคือขาคู่นั้น ข้างบนรอยแผลนับไม่ถ้วน เนื้อตัวเต็มไปด้วยแผลเหวอะหวะ

ทำให้คนอดไม่ไหวที่จะขมวดคิ้วอย่างแน่น ย้ายสายตาออก

สายตาของเบอร์เกนราบเรียบ ไม่สนใจไยดีเอ่ยปากถามว่า “ยังมีชีวิตอยู่หรือ?”

หมอส่วนตัวเป็นผู้ชายที่อายุสามสิบกว่าปีคนหนึ่ง เห็นแบบนี้รีบพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกพูดว่า “โชคดีตอนที่ช่วยขึ้นมายังไม่สายเกินไป ปัจจุบันนี้ผ่านการช่วยอย่างฉุกเฉินยังมีอาการที่ยังมีชีวิตอยู่ คุณไม่ต้องเป็นห่วง”

เบอร์เกนยื่นมือตรวจดูแล้วตรวจดูอีกอยู่ตามลำคอของจื่อเฟิง หลังจากแน่ใจว่ายังมีชีวิตอยู่เงยหน้าถามว่า “อาการเธอในตอนนี้เป็นยังไงแล้วล่ะ?”

“เอ็นขาขาดแล้ว อีกทั้งมีความบาดเจ็บมากมาย เส้นเลือดใหญ่โดนคนเจตนาร้ายกรีดขาด เสียเลือดมากไปหน่อย และบาดแผลเหล่านี้ผ่านการแช่น้ำทะเลมา จะเป็นผีซ้ำด้ำพลอยแล้ว

ถ้าหากว่าไม่ดำเนินการจัดการด้วยการตัดขา เกรงว่าชีวิตจะน่าเป็นห่วง แต่ตอนนี้สาวคนนี้ยังไม่ได้ฟื้น เรื่องการตัดขานี้ยังคงต้องเป็นสาวคนนี้ทำการตัดสินใจ”

ใบหน้าเบอร์เกนไม่เปลี่ยนสีหน้า ดูเหมือนนัยน์ตาเขาจื่อเฟิงเป็นเพียงแค่เครื่องจักรเครื่องหนึ่ง เครื่องจักรที่สามารถนำผลประโยชน์ให้เขาเครื่องหนึ่ง

ตอบอย่างไม่ใส่ใจสักนิดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็ตัดขาเลยเถอะ ทำได้ยิ่งเร็วยิ่งดี”

หมอเห็นสภาพ ก็ไม่กล้าไม่เห็นด้วยกับเบอร์เกน ถึงยังไงเขาก็ได้เข้าใจหลักการที่พูดให้น้อยทำให้มากนี้

ต่อจากนี้จื่อเฟิงโดนคนเข็นเตียงผู้ป่วยเข้าไปในห้องหนึ่ง เขาถือกล่องยารีบเข้าไป

……

การผ่าตัดใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง จื่อเฟิงก็ถูกเข็นออกมาแล้ว สีหน้าซีดเผือด

เบอร์เกนเรียกคนไปทำให้จื่อเฟิงตื่น หลังจากจื่อเฟิงดิ้นรนไปสักพัก ภาพที่อยู่ต่อหน้าค่อยๆชัดเจนขึ้น

สายตาเธอหย่อนยาน ผ่านไปนานมากจึงมองเห็นของได้ชัด

อิ้งเทียนไม่อยากรองรับความโมโหของจิ้นเฟิงเฉิน ก็เลยไม่ได้ตามมาด้วย

ตอนที่เห้อซูหานเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย ก็ได้เห็นจิ้นเฟิงเฉินถึงแม้ว่าใส่น้ำเกลือ กลับยังมีสมาธิจดจ่อเปิดอ่านเอกสารอยู่

ได้ยินเสียงการเดินก็ไม่ได้เงยหน้าเช่นกัน น้ำเสียงแม้ราบเรียบ กลับปรากฏความคุกคามบีบบังคับกดขี่ที่ราบเรียบอยู่

นั่นคือแรงพลังที่เป็นผู้อยู่ตำแหน่งสูงมาโดยกำเนิดของจิ้นเฟิงเฉิน ถึงแม้ว่าไม่เจตนามีกิริยาท่าทางเล็กน้อยสักอย่าง กลับทำให้คนรู้สึกได้ถึงความกดขี่

“จับคนไม่ได้หรือ?”

เรื่องนี้เขาจัดการไม่ดี เห้อซูหานไม่ได้หาข้ออ้างใดๆ ยอมรับความผิดพลาดของตนเองโดยตรง “ใช่ ผมไม่ได้พาจื่อเฟิงกลับมา”

จิ้นเฟิงเฉินเปิดกระดาษอีกใบหนึ่ง ตาที่มืดดำลึกล้ำคู่นั้นสบกับสายตาของเห้อซูหาน

ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความอาฆาตแค้นที่ราบเรียบ “คุณทำให้ผมผิดหวังอย่างมาก”

พูดจบ เขาปิดเอกสารลงวางไว้อยู่บนโต๊ะข้างเตียงผู้ป่วย

“แล้วกันไป เบอร์เกนก็จัดการอะไรไม่ง่ายเช่นกัน เรื่องนี้ก็เป็นแบบนี้ชั่วคราวก่อน”

เห้อซูหานเห็นจิ้นเฟิงเฉินไม่สืบหาเรื่องนี้เลย ในใจแอบโล่งอกหนึ่งที บนใบหน้ากลับไม่กล้าปรากฏให้เห็นความผิดปกติของสีหน้าสักนิด

นัยน์ตาจิ้นเฟิงเฉินเต็มเปี่ยมด้วยความเฉียบแหลมกับเย็นชา หลังจากเงียบไปสักพักพูดว่า “สืบเบาะแสของเธอต่อ รอโอกาสอย่างเงียบๆ”

“ได้ ผมจะทุ่มสุดพลังอย่างแน่นอน จะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง”

จิ้นเฟิงเฉินเพียงแค่พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “คุณกลับไปได้แล้ว”

เห้อซูหานรู้ตัวว่าอยู่ที่นี่ต่อไป เป็นไปได้ที่จะเพิ่มความอันตรายมากขึ้น รีบเอ่ยตอบกลับว่า “ได้ งั้นผมกลับไปก่อนล่ะ”

หลังจากรอเห้อซูหานออกไป คิ้วของจิ้นเฟิงเฉินขมวดยิ่งแน่นกว่านี้สักหน่อย

การคงอยู่ของจื่อเฟิงก็เป็นระเบิดตั้งเวลาลูกหนึ่ง เธออยู่ภายใต้ตนเองหลายปีมา รู้เรื่องที่ในเวลานี้ไม่ควรรู้มากเกินไป

แต่ในปัจจุบันนี้จื่อเฟิงเป็นคนของเบอร์เกน เบอร์เกนว่องไวเกินไปทั้งคดโกงเหลือเกิน

อยากจะแย่งคนอยู่ภายใต้สายตาเขา ความเป็นไปได้น้อยมาก

จิ้นเฟิงเฉินหยี่ตาทั้งคู่เล็กน้อย นัยน์ตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมกับแรงอาฆาต

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!